เทวทูตที่รัก บทต้น
http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=moonyforever&month=21-09-2012&group=24&gblog=1
บทที่ 8 ช่ออสรพิษ
http://2g.ppantip.com/cafe/writer/topic/W12902544/W12902544.html
บทที่ 9 สัมผัสทิพย์
เสียงกุกกักที่ดังจากภายนอกทำให้ราฟาเอลรู้ว่าน้ำทิพย์ตื่นแล้วและคงกำลังเตรียมอาหารเช้าอยู่ในครัว เทวดาหนุ่มเดินออกจากห้องและยืนมองหญิงสาวอย่างเงียบงันอยู่ครู่หนึ่ง ตอนแรกเขาคิดจะเอ่ยคำทักทายเหมือนเช่นเคยแต่เมื่อหวนนึกถึงคำตัดพ้อของหญิงสาวที่พูดไว้ตอนเย็นวาน เขาจึงหมุนตัวเพื่อเดินไปยังห้องนั่งเล่นแต่ต้องหยุดชะงักเมื่อน้ำทิพย์เอ่ยทัก
“อรุณสวัสดิ์”
ราฟาเอลหันไปมองหญิงสาวด้วยความแปลกใจเพราะไม่คิดว่าเธอจะเป็นฝ่ายกล่าวทักทายขึ้นมาก่อนแต่เมื่อเห็นใบหน้างามปราศจากแววขึ้งโกรธเขาจึงส่งยิ้มให้พร้อมกับเอ่ยคำตอบกลับ
“อรุณสวัสดิ์” พูดพลางก้าวเข้าไปหาและมองอาหารหน้าตาประหลาดที่หญิงสาวกำลังวางบนโต๊ะ “ทำอะไรอยู่เหรอ”
“เล่นกีต้าร์มั้ง” น้ำทิพย์พูดและหัวเราะออกมาเบาๆเมื่อเห็นเทวดาหนุ่มทำตาปริบๆ “พูดเล่นหรอกน่า เมื่อวานฉันเห็นคุณใช้พลังไปมากแถมเช้านี้อากาศค่อนข้างเย็นเลยทำข้าวต้มกุ้งให้ทาน”
ปากพูดขณะที่มือวางกระปุกเกลือและพริกไทไว้กลางโต๊ะ ราฟาเอลมองชามข้าวต้มที่มีควันลอยกรุ่นพร้อมกับสูดลมหายใจ
“หอมดี”
“แน่ล่ะ ก็ฉันใช้ข้าวหอมมะลิชั้นหนึ่งแถมยังใส่กุ้งแชบ๊วยแบบไม่อั้นอีกด้วย รับรองว่าอร่อยไม่แพ้ภัตตาคารชั้นหนึ่งเลย”
ทั้งที่รู้ดีว่าอีกฝ่ายคงไม่รู้เรื่องภัตตาคารหรือส่วนประกอบอาหารที่พูดออกมาเลยสักนิด แต่ความที่อยากจะให้เขาหายโกรธกับคำพูดที่เธอเหวี่ยงใส่เมื่อเย็นวานน้ำทิพย์จึงหาอะไรพูดไปเรื่อยเปื่อยซึ่งดูเหมือนจะได้ผลเพราะราฟาเอลมองชามข้าวต้มที่มีกุ้งสีแดงตัวโตลอยฟ่องอย่างสนอกสนใจ
“มัวแต่มองมันจะไปอิ่มได้ยังไง” หญิงสาวพูดพลางวางช้อนไว้ข้างชามข้าวต้มที่อยู่ตรงหน้าราฟาเอลจากนั้นจึงเลื่อนเก้าอี้มานั่งและเลิกคิ้วเล็กน้อยเมื่อเห็นอีกฝ่ายยังคงยืนนิ่ง
“ยืนทำอะไรอยู่ ข้าวต้มต้องทานร้อนๆถึงจะอร่อย”
พูดพลางตักพริกน้ำส้มใส่ชามของตัวเอง เทวดาหนุ่มหย่อนตัวลงนั่งทั้งที่ยังมองการกระทำของหญิงสาวไม่วางตา เมื่อเห็นอีกฝ่ายเติมเครื่องปรุงเสร็จเขาจึงเตรียมจะทำบ้าง น้ำทิพย์รีบห้ามเมื่อเห็นเขาทำท่าจะตักพริกน้ำส้มใส่ข้าวต้ม
“ไม่ต้องเติมก็ได้”
“ทำไม” ราฟาเอลถามพลางมองชามของน้ำทิพย์เหมือนสงสัยว่าทำไมเขาจึงทำอย่างเธอไม่ได้ หญิงสาวยิ้ม
“นี่คือพริกน้ำส้ม มีรสชาติทั้งเปรี้ยวและเผ็ดขนาดทำให้ลิ้นเทวดาของนายพองเหมือนโดนไฟลวก” น้ำทิพย์อธิบายและยิ้มอย่างขบขันเมื่อเห็นอีกฝ่ายดึงมือกลับอย่างเร็ว
“คุณกินของน่ากลัวแบบนี้ได้ยังไง” เขาถามทั้งที่ตายังคงจ้องพริกชี้ฟ้าสีสวยที่ลอยฟ่องอยู่ในน้ำซึ่งดูใสบริสุทธิ์ น้ำทิพย์เลิกคิ้วขึ้น
“มันเป็นความสามารถพิเศษของคนไทย” เธอพูดอย่างภาคภูมิขณะเริ่มต้นคนข้ามต้มในชามก่อนจะตักมันใส่ปาก หญิงสาวมองราฟาเอลที่ยังคงจ้องถ้วยพริกน้ำส้มอย่างไม่ไว้ใจนัก “อย่ามัวแต่นั่งเหม่อ รีบทานเร็วๆฉันมีงานต้องทำอีกมาก”
เมื่อถูกเร่งเทวดาหนุ่มจึงละความสนใจจากเครื่องปรุงเจ้าปัญหาและลงมือตักข้าวต้มกินอย่างเอร็ดอร่อยจนหมด หลังจากล้างถ้วยชามเสร็จเรียบร้อยแล้วน้ำทิพย์จึงหยิบผ้ากันเปื้อนมาสวมและดึงอุปกรณ์ทำความสะอาดบ้านออกมา ราฟาเอลมองด้วยความแปลกใจ
“ไม่ไปมหาวิทยาลัยหรือ”
“วันนี้ไม่มีวิชาเรียน” หญิงสาวตอบพลางใช้ไม้ขนไก่ปัดฝุ่นไปตามชั้นวางของ เทวดาหนุ่มยืนมองเธออยุ่ครู่หนึ่งจึงถาม
“ให้ผมช่วยไหม”
น้ำทิพย์หยุดชะงักและหันมามองตาโต
“พูดใหม่อีกทีสิ”
“ให้ช่วยไหม”ราฟาเอลพูดประโยคเดิมพร้อมกับหยิบไม้กวาดมาถือไว้ น้ำทิพย์หัวเราะออกมาเบาๆก่อนจะฉวยมันออกไปและหันไปหยิบผ้ากันเปื้อนอีกผืนมาสวมให้
“ใส่นี่ก่อนเสื้อผ้าจะได้ไม่เปื้อน”
เธอพูดพลางผูกเชือกทางด้านหลังจากนั้นจึงหยิบผืนเล็กที่บิดน้ำจนหมาดส่งให้เทวดาหนุ่ม
“ทำความสะอาดบ้านต้องเริ่มจากข้างบนลงมา” เธอชี้มือไล่ไปตามชั้นต่างๆ “ค่อยๆเช็ดไปทีละอัน เสร็จแล้วค่อยกวาดและใช้เครื่องดูดฝุ่นอีกที”
ราฟาเอลพยักหน้าและเริ่มทำตามที่หญิงสาวแนะนำ น้ำทิพย์ยืนมองการทำงานที่ออกแนวเก้งก้างของเขาอย่างเอ็นดูระคนกระหยิ่มยิ้มย่อง จะไม่ให้ดีใจได้ยังไงในเมื่อเทวดาของจริงกำลังทำความสะอาดบ้านให้เธอ ขณะมองผมสีทองยาวจรดแผ่นหลังกำลังแกว่งไหวไปมาตอนเขาขยับตัวนัยน์ตาเจ้ากรรมดันเลื่อนต่ำลงและหยุดที่บั้นท้ายกระชับรัดรูปน่าสัมผัส เธอถึงกับเผลอกลืนน้ำลายขณะคิดว่าหากได้ลูบไล้สะโพกเทวดารูปงามสักครั้งคงเป็นสุขและโชคดีที่สุดในชีวิต ระหว่างที่กำลังจมดิ่งอยู่กับจินตนาการอันแสนเร่าร้อนหญิงสาวก็ต้องสะดุ้งหลุดจากภวังค์จากเสียงเรียกของราฟาเอล
“น้ำทิพย์” เขามองเธอด้วยความเป็นห่วงขณะเดินเข้าไปหา “เป็นอะไรไป ทำไมอยู่ๆถึงยืนนิ่งไม่ยอมขยับ”
พูดพลางใช้หลังมือแตะหน้าผากของเธอเบาๆ
“ไม่สบายหรือเปล่า”
“เปล่านี่ ทำไมถึงถามแบบนั้น”
“เห็นหน้าคุณแดง” เทวดาหนุ่มตอบ “นั่งพักก่อนดีไหม”
ไม่พูดเปล่าเขายังทำเหมือนจะประคองเธอไปที่เก้าอี้ น้ำทิพย์รีบถอยออกห่างทันทีพร้อมกับพูดเสียงดัง
“ไม่ต้อง” เธอหยุดเล็กน้อยเมื่อเห็นอีกฝ่ายชะงักและรีบลดน้ำเสียงลง “ฉันไม่เป็นอะไร แค่ร้อนนิดหน่อยเท่านั้น”
“แน่ใจนะ” เทวดาหนุ่มถาม หญิงสาวส่งยิ้มให้เขาก่อนตอบ
“ฉันแน่ใจ ไปทำงานกันต่อเถอะ”
เทวทูตที่รัก บทที่ 9 สัมผัสทิพย์
http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=moonyforever&month=21-09-2012&group=24&gblog=1
บทที่ 8 ช่ออสรพิษ
http://2g.ppantip.com/cafe/writer/topic/W12902544/W12902544.html
บทที่ 9 สัมผัสทิพย์
เสียงกุกกักที่ดังจากภายนอกทำให้ราฟาเอลรู้ว่าน้ำทิพย์ตื่นแล้วและคงกำลังเตรียมอาหารเช้าอยู่ในครัว เทวดาหนุ่มเดินออกจากห้องและยืนมองหญิงสาวอย่างเงียบงันอยู่ครู่หนึ่ง ตอนแรกเขาคิดจะเอ่ยคำทักทายเหมือนเช่นเคยแต่เมื่อหวนนึกถึงคำตัดพ้อของหญิงสาวที่พูดไว้ตอนเย็นวาน เขาจึงหมุนตัวเพื่อเดินไปยังห้องนั่งเล่นแต่ต้องหยุดชะงักเมื่อน้ำทิพย์เอ่ยทัก
“อรุณสวัสดิ์”
ราฟาเอลหันไปมองหญิงสาวด้วยความแปลกใจเพราะไม่คิดว่าเธอจะเป็นฝ่ายกล่าวทักทายขึ้นมาก่อนแต่เมื่อเห็นใบหน้างามปราศจากแววขึ้งโกรธเขาจึงส่งยิ้มให้พร้อมกับเอ่ยคำตอบกลับ
“อรุณสวัสดิ์” พูดพลางก้าวเข้าไปหาและมองอาหารหน้าตาประหลาดที่หญิงสาวกำลังวางบนโต๊ะ “ทำอะไรอยู่เหรอ”
“เล่นกีต้าร์มั้ง” น้ำทิพย์พูดและหัวเราะออกมาเบาๆเมื่อเห็นเทวดาหนุ่มทำตาปริบๆ “พูดเล่นหรอกน่า เมื่อวานฉันเห็นคุณใช้พลังไปมากแถมเช้านี้อากาศค่อนข้างเย็นเลยทำข้าวต้มกุ้งให้ทาน”
ปากพูดขณะที่มือวางกระปุกเกลือและพริกไทไว้กลางโต๊ะ ราฟาเอลมองชามข้าวต้มที่มีควันลอยกรุ่นพร้อมกับสูดลมหายใจ
“หอมดี”
“แน่ล่ะ ก็ฉันใช้ข้าวหอมมะลิชั้นหนึ่งแถมยังใส่กุ้งแชบ๊วยแบบไม่อั้นอีกด้วย รับรองว่าอร่อยไม่แพ้ภัตตาคารชั้นหนึ่งเลย”
ทั้งที่รู้ดีว่าอีกฝ่ายคงไม่รู้เรื่องภัตตาคารหรือส่วนประกอบอาหารที่พูดออกมาเลยสักนิด แต่ความที่อยากจะให้เขาหายโกรธกับคำพูดที่เธอเหวี่ยงใส่เมื่อเย็นวานน้ำทิพย์จึงหาอะไรพูดไปเรื่อยเปื่อยซึ่งดูเหมือนจะได้ผลเพราะราฟาเอลมองชามข้าวต้มที่มีกุ้งสีแดงตัวโตลอยฟ่องอย่างสนอกสนใจ
“มัวแต่มองมันจะไปอิ่มได้ยังไง” หญิงสาวพูดพลางวางช้อนไว้ข้างชามข้าวต้มที่อยู่ตรงหน้าราฟาเอลจากนั้นจึงเลื่อนเก้าอี้มานั่งและเลิกคิ้วเล็กน้อยเมื่อเห็นอีกฝ่ายยังคงยืนนิ่ง
“ยืนทำอะไรอยู่ ข้าวต้มต้องทานร้อนๆถึงจะอร่อย”
พูดพลางตักพริกน้ำส้มใส่ชามของตัวเอง เทวดาหนุ่มหย่อนตัวลงนั่งทั้งที่ยังมองการกระทำของหญิงสาวไม่วางตา เมื่อเห็นอีกฝ่ายเติมเครื่องปรุงเสร็จเขาจึงเตรียมจะทำบ้าง น้ำทิพย์รีบห้ามเมื่อเห็นเขาทำท่าจะตักพริกน้ำส้มใส่ข้าวต้ม
“ไม่ต้องเติมก็ได้”
“ทำไม” ราฟาเอลถามพลางมองชามของน้ำทิพย์เหมือนสงสัยว่าทำไมเขาจึงทำอย่างเธอไม่ได้ หญิงสาวยิ้ม
“นี่คือพริกน้ำส้ม มีรสชาติทั้งเปรี้ยวและเผ็ดขนาดทำให้ลิ้นเทวดาของนายพองเหมือนโดนไฟลวก” น้ำทิพย์อธิบายและยิ้มอย่างขบขันเมื่อเห็นอีกฝ่ายดึงมือกลับอย่างเร็ว
“คุณกินของน่ากลัวแบบนี้ได้ยังไง” เขาถามทั้งที่ตายังคงจ้องพริกชี้ฟ้าสีสวยที่ลอยฟ่องอยู่ในน้ำซึ่งดูใสบริสุทธิ์ น้ำทิพย์เลิกคิ้วขึ้น
“มันเป็นความสามารถพิเศษของคนไทย” เธอพูดอย่างภาคภูมิขณะเริ่มต้นคนข้ามต้มในชามก่อนจะตักมันใส่ปาก หญิงสาวมองราฟาเอลที่ยังคงจ้องถ้วยพริกน้ำส้มอย่างไม่ไว้ใจนัก “อย่ามัวแต่นั่งเหม่อ รีบทานเร็วๆฉันมีงานต้องทำอีกมาก”
เมื่อถูกเร่งเทวดาหนุ่มจึงละความสนใจจากเครื่องปรุงเจ้าปัญหาและลงมือตักข้าวต้มกินอย่างเอร็ดอร่อยจนหมด หลังจากล้างถ้วยชามเสร็จเรียบร้อยแล้วน้ำทิพย์จึงหยิบผ้ากันเปื้อนมาสวมและดึงอุปกรณ์ทำความสะอาดบ้านออกมา ราฟาเอลมองด้วยความแปลกใจ
“ไม่ไปมหาวิทยาลัยหรือ”
“วันนี้ไม่มีวิชาเรียน” หญิงสาวตอบพลางใช้ไม้ขนไก่ปัดฝุ่นไปตามชั้นวางของ เทวดาหนุ่มยืนมองเธออยุ่ครู่หนึ่งจึงถาม
“ให้ผมช่วยไหม”
น้ำทิพย์หยุดชะงักและหันมามองตาโต
“พูดใหม่อีกทีสิ”
“ให้ช่วยไหม”ราฟาเอลพูดประโยคเดิมพร้อมกับหยิบไม้กวาดมาถือไว้ น้ำทิพย์หัวเราะออกมาเบาๆก่อนจะฉวยมันออกไปและหันไปหยิบผ้ากันเปื้อนอีกผืนมาสวมให้
“ใส่นี่ก่อนเสื้อผ้าจะได้ไม่เปื้อน”
เธอพูดพลางผูกเชือกทางด้านหลังจากนั้นจึงหยิบผืนเล็กที่บิดน้ำจนหมาดส่งให้เทวดาหนุ่ม
“ทำความสะอาดบ้านต้องเริ่มจากข้างบนลงมา” เธอชี้มือไล่ไปตามชั้นต่างๆ “ค่อยๆเช็ดไปทีละอัน เสร็จแล้วค่อยกวาดและใช้เครื่องดูดฝุ่นอีกที”
ราฟาเอลพยักหน้าและเริ่มทำตามที่หญิงสาวแนะนำ น้ำทิพย์ยืนมองการทำงานที่ออกแนวเก้งก้างของเขาอย่างเอ็นดูระคนกระหยิ่มยิ้มย่อง จะไม่ให้ดีใจได้ยังไงในเมื่อเทวดาของจริงกำลังทำความสะอาดบ้านให้เธอ ขณะมองผมสีทองยาวจรดแผ่นหลังกำลังแกว่งไหวไปมาตอนเขาขยับตัวนัยน์ตาเจ้ากรรมดันเลื่อนต่ำลงและหยุดที่บั้นท้ายกระชับรัดรูปน่าสัมผัส เธอถึงกับเผลอกลืนน้ำลายขณะคิดว่าหากได้ลูบไล้สะโพกเทวดารูปงามสักครั้งคงเป็นสุขและโชคดีที่สุดในชีวิต ระหว่างที่กำลังจมดิ่งอยู่กับจินตนาการอันแสนเร่าร้อนหญิงสาวก็ต้องสะดุ้งหลุดจากภวังค์จากเสียงเรียกของราฟาเอล
“น้ำทิพย์” เขามองเธอด้วยความเป็นห่วงขณะเดินเข้าไปหา “เป็นอะไรไป ทำไมอยู่ๆถึงยืนนิ่งไม่ยอมขยับ”
พูดพลางใช้หลังมือแตะหน้าผากของเธอเบาๆ
“ไม่สบายหรือเปล่า”
“เปล่านี่ ทำไมถึงถามแบบนั้น”
“เห็นหน้าคุณแดง” เทวดาหนุ่มตอบ “นั่งพักก่อนดีไหม”
ไม่พูดเปล่าเขายังทำเหมือนจะประคองเธอไปที่เก้าอี้ น้ำทิพย์รีบถอยออกห่างทันทีพร้อมกับพูดเสียงดัง
“ไม่ต้อง” เธอหยุดเล็กน้อยเมื่อเห็นอีกฝ่ายชะงักและรีบลดน้ำเสียงลง “ฉันไม่เป็นอะไร แค่ร้อนนิดหน่อยเท่านั้น”
“แน่ใจนะ” เทวดาหนุ่มถาม หญิงสาวส่งยิ้มให้เขาก่อนตอบ
“ฉันแน่ใจ ไปทำงานกันต่อเถอะ”