ศาสนาในปัจจุบัน มีมากมายหลายศาสนา และมีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
และในศาสนาหนึ่ง ยังแบ่งออกเป็นหลายนิกาย
แต่ละนิกาย ยังมีความเชื่อที่แตกต่าง มีข้อถกเถียงโต้แยง ดูถูกเกลียดชัง
ถึงขนาดนำมาเป็นเหตุ รบราฆ่าฟันกันจนตาย

นับเป็นความเข้าใจผิด อย่างน่ากลัว กว่าการมีศานาใหม่ๆ
ศาสนาเปรียบเหมือนบันได ที่จะเดินขึ้นไป เพื่อยกระดับจิตใจให้สูงขึ้น ได้เห็นอะไรกว้างไกลขึ้น

สร้างสติปัญญา สร้างสำนึกให้ดีขึ้น รู้จักความรัก แบ่งปัน ช่วยเหลือ ปราถนาดี คิดดี ทำดี มีประโยชน์แก่สังคม
และให้มนุษย์ อยู่รวมกันอย่างมีความสุขสงบ ในสังคมนั้นๆ

เพราะงั้นกลุ่มชนใด มีความเห็นร่วมกันจะสร้างเครื่องยกระดับจิตใจของพวกเขาให้สูงขึ้น ดีขึ้น
สร้างคนดี สร้างประโยชน์ให้สังคมมีความสุข ก็เป็นสิทธิส่วนบุคคลที่ผู้อื่นจะละเมิดไม่ได้

แต่หากจุดหมายของการตั้งศานาใหม่ เป็นไปเพื่อประโยนช์เฉพาะกลุ่ม และพากันสร้างความวุ่นวาย
วางเพลิง ฆ่าคน แก่งแย่งชิงผลประโยชน์ อันนี้ก็เป็นสิทธิที่คนดีในสังคมจะลุกขึ้นมาขับไล่ ต่อต้าน

การจะเอาศาสนาไปครอง เหมือนวัตถุสิ่งของ ครอบหัว แขวนคอ สักหน้าผาก
หรือเอาไปเป็นแค่เครื่องหมาย เพื่อแสดงให้สังคมยอมรับว่าเป็นคนดี มีพวกมาก

แต่ไม่ได้นำมาเพื่อยกระดับจิตใจตนเอง ยังคงมีสำนักชั่วอยู่ในตัวตน และมองไม่เห็นชั่วนั้น
ซ่ำยังคอยโจมตีผู้อื่นที่ไม่เห็นตามตนเอง
ศาสนาก็ไม่มีประโยชน์อะไร มากไปกว่าเครื่องมือราคาถูก ของคนชั่วร้าย

หากทุกคนเข้าใจในจุดมุ่งหมายแท้จริง ของศาสนา เราคงไม่ตกเป็นเครื่องมือหรือเหยื่อ
ให้พวกปีศาจในคราบนักบุญ เอาศาสนามาหลอกล่อ แสวงหาผลประโยชน์จากผู้คนอีกต่อไป ..

"คนไม่มีศาสนา แต่สำนึกดี ย่อมดีกว่า คนที่ประกาศว่าตนมีศานา แต่สำนึกชั่ว"