พอดี ผมเห็นกระทู้ล่าง ๆ ถามเกี่ยวกับการต่อประกันรถยนต์กันเยอะ
แต่เท่าที่ผมสังเกตุดู มีแต่คนถามว่า
ที่ไหนให้ทุนสูง (โดยทั่วไปคือทุนรถยนต์)
ที่ไหนเบี้ยถูก
ที่ไหนซ่อมห้าง
ที่ไหนผ่อนได้
แต่น้อยคนมากที่จะถามว่า ที่ไหนให้ความคุ้มครองสูง(หมวดอื่นๆ) ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดของการทำประกันภัยรถยนต์
ผมทำงานอยู่บริษัทประกันภัย ลูกค้าส่วนใหญ่ก็เป็นอย่างที่บอกข้างต้นถูกไว้ก่อน แต่ผมเห็นมาเยอะครับพอเคลม
แล้วมีปัญหา
มีลูกค้าของบริษัทคนหนึ่ง เบี้ยปี 2 สูงขึ้นเพราะปีแรกมีการเคลม เขาจึงไปเลือกอีกบริษัท ปรากฎว่าขับไปไม่นาน
ก็ขับไปชนคนเสียชีวิต ศาลตัดสินให้ชดใช้ที่วงเงิน 1,500,000 บาท ลูกค้าคนนี้นึกว่าประกันจะจ่ายให้ทั้งหมด
แต่คุ้มครองของกรมธรรม์นี้ คุ้มครองความรับผิดต่อบุคคลภายนอกเกี่ยวกับชีวิตเพียง 5 แสนบาท บวกกับ พ.ร.บ.
ที่จ่ายให้อีก 2 แสนบาท รวมเป็น 7 แสนที่ประกันจะจ่าย ที่เหลือลูกค้าคนนี้ต้องควักเงินของตัวเองอีก 8 แสนบาทเพื่อ
ชดใช้ในความผิดครั้งนี้
ซึ่งรู้หรือไม่ครับ บริษัทที่ลูกค้าไปเลือกนั้น เบี้ยถูกกว่าบริษัทผมเพียง 2,000 บาท แต่บริษัทผมให้ความรับผิดต่อบุคคลภายนอก
1 ล้านบาท นั่นแสดงว่า ถ้าลูกค้าคนนี้ยังต่อกับบริษัทผม เขาจะจ่ายเพิ่มเพียง 3 แสนบาทเท่านั้น
ที่ยกเคสนี้มาให้ดู ก็เพื่ออยากจะบอกทุกคนว่า การทำประกันภัยอย่าคิดเพียงว่า เบี้ยถูก ทุนรถสูง ผ่อนได้ พอเจอเบี้ยแพง ๆ แล้ว
ตัดทิ้ง ก่อนจะคิดเช่นนั้น คุณควรเอาความคุ้มครองทุกหมวดของทุกบริษัทที่คุณจะเลือกมาเปรียบเทียบกันก่อน แล้วเลือกในสิ่ง
ที่คุ้มค่าและครอบคุ้มในความคุ้มครองทุก ๆ ด้านจะดีกว่า
เดี๋ยวจะกลายเป็นว่า เสียน้อยเสียยาก เสียมากเสียง่าย
แปลกแต่จริง จะทำประกันภัย แต่ไม่สนใจความคุ้มครอง
แต่เท่าที่ผมสังเกตุดู มีแต่คนถามว่า
ที่ไหนให้ทุนสูง (โดยทั่วไปคือทุนรถยนต์)
ที่ไหนเบี้ยถูก
ที่ไหนซ่อมห้าง
ที่ไหนผ่อนได้
แต่น้อยคนมากที่จะถามว่า ที่ไหนให้ความคุ้มครองสูง(หมวดอื่นๆ) ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดของการทำประกันภัยรถยนต์
ผมทำงานอยู่บริษัทประกันภัย ลูกค้าส่วนใหญ่ก็เป็นอย่างที่บอกข้างต้นถูกไว้ก่อน แต่ผมเห็นมาเยอะครับพอเคลม
แล้วมีปัญหา
มีลูกค้าของบริษัทคนหนึ่ง เบี้ยปี 2 สูงขึ้นเพราะปีแรกมีการเคลม เขาจึงไปเลือกอีกบริษัท ปรากฎว่าขับไปไม่นาน
ก็ขับไปชนคนเสียชีวิต ศาลตัดสินให้ชดใช้ที่วงเงิน 1,500,000 บาท ลูกค้าคนนี้นึกว่าประกันจะจ่ายให้ทั้งหมด
แต่คุ้มครองของกรมธรรม์นี้ คุ้มครองความรับผิดต่อบุคคลภายนอกเกี่ยวกับชีวิตเพียง 5 แสนบาท บวกกับ พ.ร.บ.
ที่จ่ายให้อีก 2 แสนบาท รวมเป็น 7 แสนที่ประกันจะจ่าย ที่เหลือลูกค้าคนนี้ต้องควักเงินของตัวเองอีก 8 แสนบาทเพื่อ
ชดใช้ในความผิดครั้งนี้
ซึ่งรู้หรือไม่ครับ บริษัทที่ลูกค้าไปเลือกนั้น เบี้ยถูกกว่าบริษัทผมเพียง 2,000 บาท แต่บริษัทผมให้ความรับผิดต่อบุคคลภายนอก
1 ล้านบาท นั่นแสดงว่า ถ้าลูกค้าคนนี้ยังต่อกับบริษัทผม เขาจะจ่ายเพิ่มเพียง 3 แสนบาทเท่านั้น
ที่ยกเคสนี้มาให้ดู ก็เพื่ออยากจะบอกทุกคนว่า การทำประกันภัยอย่าคิดเพียงว่า เบี้ยถูก ทุนรถสูง ผ่อนได้ พอเจอเบี้ยแพง ๆ แล้ว
ตัดทิ้ง ก่อนจะคิดเช่นนั้น คุณควรเอาความคุ้มครองทุกหมวดของทุกบริษัทที่คุณจะเลือกมาเปรียบเทียบกันก่อน แล้วเลือกในสิ่ง
ที่คุ้มค่าและครอบคุ้มในความคุ้มครองทุก ๆ ด้านจะดีกว่า
เดี๋ยวจะกลายเป็นว่า เสียน้อยเสียยาก เสียมากเสียง่าย