ข้อเขียนของ ดร.มนัส
จากบทความ “บูชาข้าวพระของ ท่านธัมมชโย” คุณหยุดในหยุดได้อธิบายความเป็นมาอันเป็นเหตุเบื้องต้นที่ทำให้ท่านธัมมชโยทำพิธี “การบูชาข้าวพระ” ดังนี้
การบูชาข้าวพระได้ถูกค้นพบวิธีการบูชาโดยคุณยายอาจารย์แม่ชีทองสุก สำแดงปั้นและคุณยายอาจารย์แม่ชีจันทร์ ขนนกยูง ในสมัยที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดปากน้ำยังมีชีวิตอยู่ครับ
ข้อมูลนี้คลาดเคลื่อนเล็กน้อย เพราะ ผู้ที่ร่วมพิธีกันเป็นประจำจนกระทั่งแม่ชีทองสุกเสียชีวิตก็คือ ยังมี แม่ชีเธียร ธีระสวัสดิ์ และคุณลุงการุณย์ บุญมานุชรวมอยู่ด้วย
ก่อนที่แม่ชีทองสุกจะเสียชีวิตได้เรียกคุณลุงการุณย์เข้าไปพบ ขณะนั้น คุณลุงยังเป็นครูอยู่ที่โรงเรียนวัดบวรนิเวศ ซึ่งถือว่าเป็นผู้มีอาชีพข้าราชการที่มั่นคงอยู่ในขณะนั้น
คุณลุงเล่าว่า แม่ชีทองสุกเรียกชื่อคุณลุงเป็น “ครูจรูญ” เมื่อไปถึงแม่ชีทองสุกก็จับมือคุณลุงไว้แล้วพูดว่า “ครูจรูญ ฉันฝากไอ้จันท์ด้วยนะ” แล้วแม่ชีทองสุกก็เข้าขั้นโคม่าไปเลย และไปเสียชีวิตในวันรุ่งขึ้น
การตั้งศพนั้น ตั้งที่วัดปากน้ำ แต่ไปเผาที่วัดข้างๆ วัดปากน้ำ วันตั้งศพของแม่ชีทอกสุกนั้น นายไชยบูลย์ก็เข้าวัดวันนั้น
เมื่อแม่ชีทองสุกฝากคุณยายจันท์ไว้กับคุณลุง คุณลุงจึงต้องหาเงินมาสร้างบ้านให้ ซึ่งก็คือ “บ้านธรรมประสิทธิ์” วิธีการหาเงินก็คือ พิธีปล่อยปลา
มีคนมาชอบปล่อยปลากันมาก โดยพวกพยาบาล คุณลุงเล่าให้ฟังว่า พยาบาลของโรงพยาบาลหญิงชอบมากที่สุด วิธีการก็คือ คุณลุงจะให้คนไปซื้อปลามา เวลาจะปล่อยก็ให้ไชยบูลย์เป็นคนล่ามสายสิญจน์
คุณลุงใช้วิธีนี้ 3 ปี จึงรวบรวบเงินได้ประมาณ 50,000 บาท แล้วนำไปให้รองอาวาสวัดปากน้ำในสมัยนั้น ไปสร้างบ้านธรรมประสิทธิ์ เท่าที่จำได้ ท่านรองเจ้าอาวาสได้หาไม้มาช่วยสร้างบ้านหลังนี้ด้วย
ท่านธัมมชโยได้คุยโม้คุยโตโอ้อวดว่า ท่านกับพระทัตตชีโวช่วยกันหาเงินสร้าง เป็นการพูดความจริง 0.000001 % เท่านั้น เพราะ คุณลุงการุณย์เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงในการหาเงิน นายไชยบูลย์กับนายเผด็จ ทำหน้าที่ซื้อปลากับขึงสายสิญจน์เท่านั้น
โดยสรุป แม่ชีทองสุก แม่ชีเธียร แม่ชีจันท์ และคุณลุงการุณย์เป็นตัวหลักในการถวายอาหารพระพุทธเจ้ามาโดยตลอด
การที่คุณต้นไม้เมตตาบอกว่า หลวงพ่อวัดปากน้ำห้ามแม่ชีทองสุกและคณะว่า “ไม่ให้ทำอีก” นั้น ก็มีน้ำหนักที่พอเชื่อถือได้ เพราะ หลวงพ่อวัดปากน้ำไม่เคยทำอย่างที่แม่ชีทองสุกทำอยู่
แต่การบูชาข้าวพระพุทธตอนวัดพระทั้งหลายนั้น ผมคิดว่า มีการทำในวัดปากน้ำ
ที่ผมเห็นว่า แม่ชีทองสุกถูกหลวงพ่อวัดปากน้ำห้ามไม่ให้ทำการถวายอาหารแด่พระพุทธเจ้าจริงนั้น ก็เนื่องจากวิชาธรรมกายของแม่ชีทองสุกนั้น ผิดเพี้ยนไปจากของหลวงพ่อวัดปากน้ำมากพอสมควร
คือ ไปพัฒนาแนวทางเป็นของตัวเองมากขึ้น แต่จากการที่อ่านหนังสือกันไม่ออกทั้งแม่ชีทองสุก และแม่ชีจันท์ จึงไม่สามารถตรวจสอบวิชาที่ถูกต้องจากตำราได้
คุณลุงการุณย์ก็วิชาเพี้ยนไปกับเขาด้วย คือ จะว่าผิด ก็ไม่ผิด จะว่าถูก ก็ไม่ถูก
แต่โชคดีที่ว่า เมื่อคุณลุงไปดำรงตำแหน่งศึกษาธิการอำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง คุณลุงได้ไปแก้วิชาที่ผิดเพี้ยนเหล่านั้นกับแม่ชีถนอม อาสไวย์ ซึ่งต้องใช้เวลาแก้ถึง 8 ปี
สำหรับคุณลุงนั้น เมื่อจากคณะผู้ทำพิธีถวายอาหารพระพุทธเจ้ามาแล้ว คุณลุงก็ทำโดยส่วนตัวมาตลอดคือ
ทุกวันเสาร์
ทุกวันประชุมประจำเดือน
ถวายอาหารทะเลเมื่อมีผู้ผ่านวิชา 18 กาย
อย่างไรก็ดี เมื่อคุณลุงปราบมารได้ถึงปีที่ 11 คุณลุงระลึกถึงการถวายข้าวพระพุทธเจ้าที่ได้ร่วมทำกันมากับแม่ชีทองสุก แม่ชีจันท์ และแม่ชีเธียรว่า บารมีเหล่านั้น ได้เท่าไหร่ และอยู่ที่ไหน
ผลปรากฏออกมาว่า “ไม่ได้บารมีแต่ประการใด เพราะ ทำไม่ถึงพระพุทธองค์ มารมันเอาไปแดรกเรียบร้อยโรงเรียนจีน
ปล มีการขัดเกลาภาษาเล็กน้อย เพื่อมิให้เกิดการคัดกรองภาษา
ประวัติ บ้านธรรมประสิทธิ์ จากคำบอกเล่า
จากบทความ “บูชาข้าวพระของ ท่านธัมมชโย” คุณหยุดในหยุดได้อธิบายความเป็นมาอันเป็นเหตุเบื้องต้นที่ทำให้ท่านธัมมชโยทำพิธี “การบูชาข้าวพระ” ดังนี้
การบูชาข้าวพระได้ถูกค้นพบวิธีการบูชาโดยคุณยายอาจารย์แม่ชีทองสุก สำแดงปั้นและคุณยายอาจารย์แม่ชีจันทร์ ขนนกยูง ในสมัยที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดปากน้ำยังมีชีวิตอยู่ครับ
ข้อมูลนี้คลาดเคลื่อนเล็กน้อย เพราะ ผู้ที่ร่วมพิธีกันเป็นประจำจนกระทั่งแม่ชีทองสุกเสียชีวิตก็คือ ยังมี แม่ชีเธียร ธีระสวัสดิ์ และคุณลุงการุณย์ บุญมานุชรวมอยู่ด้วย
ก่อนที่แม่ชีทองสุกจะเสียชีวิตได้เรียกคุณลุงการุณย์เข้าไปพบ ขณะนั้น คุณลุงยังเป็นครูอยู่ที่โรงเรียนวัดบวรนิเวศ ซึ่งถือว่าเป็นผู้มีอาชีพข้าราชการที่มั่นคงอยู่ในขณะนั้น
คุณลุงเล่าว่า แม่ชีทองสุกเรียกชื่อคุณลุงเป็น “ครูจรูญ” เมื่อไปถึงแม่ชีทองสุกก็จับมือคุณลุงไว้แล้วพูดว่า “ครูจรูญ ฉันฝากไอ้จันท์ด้วยนะ” แล้วแม่ชีทองสุกก็เข้าขั้นโคม่าไปเลย และไปเสียชีวิตในวันรุ่งขึ้น
การตั้งศพนั้น ตั้งที่วัดปากน้ำ แต่ไปเผาที่วัดข้างๆ วัดปากน้ำ วันตั้งศพของแม่ชีทอกสุกนั้น นายไชยบูลย์ก็เข้าวัดวันนั้น
เมื่อแม่ชีทองสุกฝากคุณยายจันท์ไว้กับคุณลุง คุณลุงจึงต้องหาเงินมาสร้างบ้านให้ ซึ่งก็คือ “บ้านธรรมประสิทธิ์” วิธีการหาเงินก็คือ พิธีปล่อยปลา
มีคนมาชอบปล่อยปลากันมาก โดยพวกพยาบาล คุณลุงเล่าให้ฟังว่า พยาบาลของโรงพยาบาลหญิงชอบมากที่สุด วิธีการก็คือ คุณลุงจะให้คนไปซื้อปลามา เวลาจะปล่อยก็ให้ไชยบูลย์เป็นคนล่ามสายสิญจน์
คุณลุงใช้วิธีนี้ 3 ปี จึงรวบรวบเงินได้ประมาณ 50,000 บาท แล้วนำไปให้รองอาวาสวัดปากน้ำในสมัยนั้น ไปสร้างบ้านธรรมประสิทธิ์ เท่าที่จำได้ ท่านรองเจ้าอาวาสได้หาไม้มาช่วยสร้างบ้านหลังนี้ด้วย
ท่านธัมมชโยได้คุยโม้คุยโตโอ้อวดว่า ท่านกับพระทัตตชีโวช่วยกันหาเงินสร้าง เป็นการพูดความจริง 0.000001 % เท่านั้น เพราะ คุณลุงการุณย์เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงในการหาเงิน นายไชยบูลย์กับนายเผด็จ ทำหน้าที่ซื้อปลากับขึงสายสิญจน์เท่านั้น
โดยสรุป แม่ชีทองสุก แม่ชีเธียร แม่ชีจันท์ และคุณลุงการุณย์เป็นตัวหลักในการถวายอาหารพระพุทธเจ้ามาโดยตลอด
การที่คุณต้นไม้เมตตาบอกว่า หลวงพ่อวัดปากน้ำห้ามแม่ชีทองสุกและคณะว่า “ไม่ให้ทำอีก” นั้น ก็มีน้ำหนักที่พอเชื่อถือได้ เพราะ หลวงพ่อวัดปากน้ำไม่เคยทำอย่างที่แม่ชีทองสุกทำอยู่
แต่การบูชาข้าวพระพุทธตอนวัดพระทั้งหลายนั้น ผมคิดว่า มีการทำในวัดปากน้ำ
ที่ผมเห็นว่า แม่ชีทองสุกถูกหลวงพ่อวัดปากน้ำห้ามไม่ให้ทำการถวายอาหารแด่พระพุทธเจ้าจริงนั้น ก็เนื่องจากวิชาธรรมกายของแม่ชีทองสุกนั้น ผิดเพี้ยนไปจากของหลวงพ่อวัดปากน้ำมากพอสมควร
คือ ไปพัฒนาแนวทางเป็นของตัวเองมากขึ้น แต่จากการที่อ่านหนังสือกันไม่ออกทั้งแม่ชีทองสุก และแม่ชีจันท์ จึงไม่สามารถตรวจสอบวิชาที่ถูกต้องจากตำราได้
คุณลุงการุณย์ก็วิชาเพี้ยนไปกับเขาด้วย คือ จะว่าผิด ก็ไม่ผิด จะว่าถูก ก็ไม่ถูก
แต่โชคดีที่ว่า เมื่อคุณลุงไปดำรงตำแหน่งศึกษาธิการอำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง คุณลุงได้ไปแก้วิชาที่ผิดเพี้ยนเหล่านั้นกับแม่ชีถนอม อาสไวย์ ซึ่งต้องใช้เวลาแก้ถึง 8 ปี
สำหรับคุณลุงนั้น เมื่อจากคณะผู้ทำพิธีถวายอาหารพระพุทธเจ้ามาแล้ว คุณลุงก็ทำโดยส่วนตัวมาตลอดคือ
ทุกวันเสาร์
ทุกวันประชุมประจำเดือน
ถวายอาหารทะเลเมื่อมีผู้ผ่านวิชา 18 กาย
อย่างไรก็ดี เมื่อคุณลุงปราบมารได้ถึงปีที่ 11 คุณลุงระลึกถึงการถวายข้าวพระพุทธเจ้าที่ได้ร่วมทำกันมากับแม่ชีทองสุก แม่ชีจันท์ และแม่ชีเธียรว่า บารมีเหล่านั้น ได้เท่าไหร่ และอยู่ที่ไหน
ผลปรากฏออกมาว่า “ไม่ได้บารมีแต่ประการใด เพราะ ทำไม่ถึงพระพุทธองค์ มารมันเอาไปแดรกเรียบร้อยโรงเรียนจีน
ปล มีการขัดเกลาภาษาเล็กน้อย เพื่อมิให้เกิดการคัดกรองภาษา