ประเมินผลธรรมยาตราปีที่ 6 จัดได้โดยไม่สะดุด ภาพรวมสวยหรู ไร้อุปสรรค พบมีการปรับโปรแกรมยกเลิกพื้นที่สมุทรสาคร ที่มีฐานใหญ่เป็นชาวพม่า เกรงภาพลักษณ์เสียอีกทั้งไม่ได้อยู่ในเส้นทางพระผู้ปราบมารตั้งแต่แรก แถมจุดสุดท้ายก่อนกลับขอกราบหลวงพ่อสดที่วัดปากน้ำ แต่ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าวัด ต้องกราบภายนอก


ปิดฉากลงไปแล้วสำหรับกิจกรรมธรรมยาตราของวัดพระธรรมกาย ที่จัดขึ้นระหว่าง 2-31 มีนาคมที่ผ่านมา ภายใต้ชื่อ โครงการธรรมยาตรา เส้นทางพระผู้ปราบมาร ปีที่ 6 รักษ์บวร รักษ์ศีล 5 ถวายเป็นพุทธบูชาและบูชาธรรมมหาปูชนียาจารย์ เนื่องในเทศกาลมาฆบูชา นับเป็นการฟื้นกิจกรรมรูปแบบนี้อีกครั้งหลังจากต้องเว้นช่วงไปในปี 2560 เนื่องจากพระธัมมชโย อดีตเจ้าอาวาสถูกมรสุมเรื่องร่วมกันฟอกเงินและรับของโจรจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ

ทุกอย่างราบรื่นไปด้วยดี ไร้การสกัดกั้นจากทุกภาคส่วน เนื่องจากมีการปรับกิจกรรมให้เป็นการเดินธรรมยาตราในพื้นที่เป้าหมาย ไม่ได้เดินออกบนท้องถนนเหมือนครั้งก่อน

ภาพที่ออกมาจากสื่อของวัดพระธรรมกาย แสดงให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่อลังการของกิจกรรมดังกล่าว และนับเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ของทางวัดเพื่อที่จะแสดงให้สาธารณะได้เห็นว่าบัดนี้วัดพระธรรมกายกลับคืนสู่สภาพปกติอีกครั้ง แม้จะไม่มีพระธัมมชโย


วัดโบสถ์บน บางกรวย นนทบุรี (FB:เครือข่ายคณะศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกายทั่วโลก)

ภาพสวย-จัดตั้ง

หนึ่งในผู้ที่ติดตามกิจกรรมธรรมยาตราของวัดพระธรรมกายตลอดเดือนมีนาคมที่ผ่านมา กล่าวว่า ทางวัดได้ปรับกิจกรรมให้มาเดินภายในสถานที่ที่เป็นอนุสรณ์สถานของหลวงพ่อสดตามพื้นที่ต่าง ๆ เพื่อลดผลกระทบในเชิงลบ มีการมอบทุนการศึกษาตามโรงเรียนต่าง ๆ โดยรอบ ถือเป็นวิธีการสร้างมิตร และยังได้นักเรียนจำนวนหนึ่งมาร่วมในงาน

การเดินทางทั้งพระและลูกศิษย์จะใช้รถยนต์ไปยังสถานที่ที่กำหนดไว้ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาด้านจราจรเกรงจะถูกวิจารณ์เหมือนครั้งก่อน และในบางเส้นทางมีการแนะนำให้โดยสารทางเรือ

ภาพที่ได้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ของกิจกรรมและมีผู้มาร่วมงานเป็นจำนวนมากนั้น พบว่ามีการใช้ลูกศิษย์ของทางวัดเข้ามาร่วมในพิธี เห็นได้จากการแบ่งที่นั่งเป็นโซน เหนือ อีสาน กลาง ใต้และกรุงเทพฯ จะเรียกว่าเป็นการจัดตั้งก็ว่าได้ เพราะหากไม่เตรียมการไว้ แล้วหวังคนจากพื้นที่เพียงอย่างเดียว ภาพที่ออกมาอาจสวยงามนัก เพราะลูกศิษย์จำนวนไม่น้อยหายไปจากเหตุการณ์ที่พระธัมมชโยถูกดำเนินคดี โดยมีศูนย์กลางการเดินทางหากลูกศิษย์ต้องการเดินทางไปสมทบตามสถานที่ต่าง ๆ จะมีรถรับส่งที่วัดพระธรรมกาย


โซนที่นั่งของลูกศิษย์วัดพระธรรมกาย(FB:ลูกศิษย์วัดพระธรรมกายทั่วโลก)

ยกเลิกพื้นที่สมุทรสาคร

หากมองผ่าน ๆ กิจกรรมธรรมยาตราดูเหมือนไม่มีอะไรติดขัด แต่ถ้าดูให้ดีจะพบว่าเมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2561 ทางวัดพระธรรมกายได้ปรับเปลี่ยนแผน จากเดิมที่ต้องมีพิธีตักบาตรพระที่ตำบลท่าทราย จังหวัดสมุทรสาคร ได้มีการยกเลิกโดยอ้างว่าสถานที่ไม่พร้อม

เชื่อว่าลูกศิษย์วัดพระธรรมกายและลูกศิษย์หลวงพ่อสดก็ทราบดีว่า พื้นที่จังหวัดสมุทรสาครนั้นไม่ใช่อนุสรณ์สถานของหลวงพ่อสด แต่เนื่องด้วยพื้นที่ดังกล่าวมีแรงงานชาวพม่ามาทำงานอยู่เป็นจำนวนมากและพระที่ร่วมธรรมยาตรา 1,134 รูป จำนวนหนึ่งเป็นชาวพม่าที่มาร่วมบวช ซึ่งวัดพระธรรมกายกับชาวพม่านั้นมีสายสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ทั้งเปิดให้ชาวพม่ามาทำบุญใหญ่ที่วัดพระธรรมกาย และมีการจัดงานใหญ่ที่ประเทศพม่า

ตอนแรกจึงมีการวางโปรแกรมนี้ไว้ แต่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ไม่น้อยในเรื่องนี้ สุดท้ายจึงตัดสินใจไม่ไปในพื้นที่ดังกล่าว

วัดปากน้ำไม่ให้เข้า

อีกกรณีหนึ่งคือการไปกราบหลวงพ่อสดที่วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ที่มีสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์หรือสมเด็จช่วง เป็นเจ้าอาวาส ซึ่งเคยประกาศว่าวัดปากน้ำกับวัดพระธรรมกายเป็นวัดพี่วัดน้องกัน โดยในวันที่ 29 มีนาคม 2561 คณะธรรมยาตราได้เดินทางไปกราบหลวงพ่อสดตามกำหนดการ

แต่จากภาพที่ปรากฏ พบว่าพระสงฆ์จากคณะธรรมยาตราได้กราบหลวงพ่อสดในฝั่งตรงข้ามกับวัดปากน้ำที่มีคลองกั้นอยู่ หมายความว่า ไม่ได้เข้าไปกราบหลวงพ่อสดภายในวัดเหมือนเมื่อปี 2555-2556 ทราบว่าทางวัดปากน้ำไม่อนุญาตให้คณะธรรมยาตราเข้าไปกราบหลวงพ่อสดภายในวัดปากน้ำ ดังนั้นทางคณะผู้จัดงานวัดพระธรรมกายจึงจัดให้กราบในฝั่งตรงข้ามกับวัดปากน้ำ

เมื่อครั้งธรรมยาตราครั้งที่ 5 ปี 2559 ทางวัดปากน้ำก็ไม่ได้ให้เข้าไปกราบภายในวัด ทางคณะธรรมยาตราก็กราบนอกวัด ในครั้งนั้นเป็นที่เข้าใจได้ว่าทางเจ้าอาวาสวัดปากน้ำขณะนั้น อยู่ในตำแหน่งผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช จึงต้องระมัดระวังเรื่องของวัดพระธรรมกายพอสมควร เกรงจะถูกกล่าวหาได้ว่าเกี่ยวข้องกัน

เมื่อทุกอย่างผ่านไปได้สมเด็จพระสังฆราชพระองค์ใหม่จากวัดราชบพิธ ทางวัดปากน้ำที่พลาดหวังไปก็น่าจะไม่ต้องระมัดระวังมากเหมือนก่อน แต่ยังคงให้พระสงฆ์จากคณะธรรมยาตรากราบภายนอกเหมือนเดิม


ศรัทธาหาย-เงินหด

แหล่งข่าวจากวงการพระพุทธศาสนากล่าวว่า ช่วงที่วัดพระธรรมกายมีคดีความตั้งแต่ปลายปี 2559 จนถึงเมษายน 2560 ทำให้ลูกศิษย์และผู้ที่เคยเข้าวัดพระธรรมกายหายไปจำนวนมาก และยังกระทบมาถึงวัดปากน้ำด้วย จำนวนคนที่เข้าวัดปากน้ำก็ลดลงไปด้วย วันธรรมดามีน้อยมาก จะมากขึ้นก็วันเสาร์-อาทิตย์หรือวันสำคัญทางศาสนา

ด้วยเหตุนี้จึงมีกรรมการของวัดปากน้ำไม่ต้องการให้คณะธรรมยาตราเข้ามากราบหลวงพ่อสดภายในวัด ไม่เช่นนั้นอาจจะทำให้กระทบต่อวัดปากน้ำมากยิ่งขึ้น

ตอนนี้ไม่แน่ใจว่าเป็นการห่วงเรื่องผลกระทบในด้านภาพลักษณ์หรือมีเหตุผลอื่น แต่ที่แน่ ๆ คือขาใหญ่กระเป๋าหนักของวัดพระธรรมกายอย่างนายอนันต์ อัศวโภคิน นายบุญชัย เบญจรงคกุล รวมถึงนายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ พี่ชายคุณหญิงพจมาน(อดีตภรรยาทักษิณ ชินวัตร) ต่างถอยออกจากวัดพระธรรมกายทั้งหมด

กรณีคุณอนันต์น่าจะหนักกว่ารายอื่นทั้งคุณแม่ ตัวเองและลูกสาว ได้รับผลกระทบจากความศรัทธาที่มีในวัดพระธรรมกายจนตัวเองต้องมีคดีความ แถมกระทบไปถึงธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ที่ทำอยู่

แม้ทางวัดพระธรรมกายจะมีกิจกรรมอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่พ้นจากมาตรา 44 มาได้ ลูกศิษย์และผู้ศรัทธาจำนวนหนึ่งยังเชื่อมั่นในวัด แต่การที่วัดพระธรรมกายเริ่มขยายฐานไปสู่ชาวพุทธแถบประเทศเพื่อนบ้านอย่างที่พม่านั้นก็เป็นอีกหนึ่งข้อสังเกตว่า ฐานบุญในประเทศของวัดนี้หดหายไปไม่น้อย สะท้อนได้จากการเพิ่มโปรแกรมที่นอกเหนือไปจากเส้นทางบุญของหลวงพ่อสด คือที่สมุทรสาคร

กิจกรรมต่อไปของทางวัดคือจัดงานวันคุ้มครองโลก 22 เมษายน 2561 ซึ่งตรงกับวันเกิดของพระธัมมชโย มีการบอกบุญเพื่อก่อสร้างเกาะแก้วเจดีย์สวรรรค์ แม้จะมีความพยายามที่จะออกสื่อของทางวัดเชิญชวนร่วมกันบริจาค แต่ดูเหมือนยังไม่สามารถกระตุ้นให้ผู้ที่ศรัทธาเข้ามาร่วมบริจาคได้มากนัก แถมศิษย์เอกกระเป๋าหนักต่างถอยออกจากวัดไปมาก

แน่นอนว่าเมื่อยอดบริจาคหายไปเป็นจำนวนมาก ย่อมกระทบถึงกิจกรรมอื่น ๆ ของทางวัดพระธรรมกายไม่น้อย เงินที่เคยร่วมทำบุญกับวัดอื่น ๆ ย่อมต้องลดน้อยลงไป วัดใหญ่หลายวัดจึงเลี่ยงที่จะลดปฏิสัมพันธ์ลง

ขอขอบคุณ https://m.mgronline.com/specialscoop/detail/9610000036222