จดหมายจากสายบุรี โจรวีรบุรุษ และความปลอดภัยของเหล่าทหาร

ครึ่งหนึ่งของผู้เสียชีวิตในการบุกป้อมมาจากอำเภอสายบุรี
เป็นสิ่งที่ทำให้ผมสะท้อนใจมาก ...  อำเภอสายบุรีมีประเด็นอะไร
ที่ทำให้ผมต้องสะท้อนใจ คงไม่ขออธิบาย เพียงแต่ อยากให้ผู้สนใจ
ทำความรุ้จักกับอำเภอนี้ให้มากขึ้น ไม่ว่าจะมาจากมิติใด
จะทำให้ความเข้าใจในบริบทปัญหาไฟใต้ชัดเจนขึ้นบ้าง


พักเรื่องอำเภอสายบุรีก่อน กลับมาเข้าเรื่องโจรวีรบุรุษ
ผมเองได้ ผ่านตาข้อมูลที่ระเบิดออก
หลังจากเหตุการ บุกป้อม จากหลายฝั่ง หลายฝ่าย
และ สิ่งที่ผมได้เห็นภาพ ที่ชัดขึ้น จนไม่อาจปฏิเสธได้

คือการยก ผู้เสียชีวิต ในการบุกป้อมให้เป็นวีรบุรุษ ผู้กอบกู้ ประเทศ
ในบางส่วนของสังคมนั้น แม้เพียงเล็กน้อย แต่เหตุการนี้นั้นมีอยู่จริง
ที่ชัดที่สุดคือในสังคม โซเชียลเน็ตเวิร์ก  และ จากกลุ่มวัยรุ่น วัยทำงาน
ไม่มาก แต่ก็สะท้อนอะไรได้หลายอย่าง

ผมตามอ่านเรื่องราว การตอบโต้ กัน
ของมุสลิมในบางส่วนของสังคม ที่เชิดชุ กลุ่นคนเหล่านี้ เป็นวีรบุรุษ
และ มุสลิมอีกหลายส่วน ที่ตอบโต้ว่า สิ่งที่คนเหล่านี้ทำ ผิดหลักการศาสนา
และ การต่อสุ้ในทางอิสลาม และความคิดเห็น ของต่างศาสนิก ที่เข้ามาโต้ตอบ
ทั้งรุนแรง และนุ่มนวล  ทำให้ผมเจอจิ๊กซอ อีกตัวหนึ่งที่น่าสนใจ

แนวร่วมทั้งหมด เกือบทั้งหมดในภาคปฏิบัตินั้น เป็น เยาวชน จนถึง วัยรุ่นมุสลิมในพื้นที่
หลายส่วน เป็นเพียง คนติดยา และ อีกหลายส่วน เป็นกลุ่มคนที่มีแนวคิดที่ชัดเจนว่า
มลายุไม่ใช่แผ่นดินไทย เค้ามีสิทธิเอาคืน  จากนั้นก็เอาหลักการศาสนอิสลามที่บิดเบี้ยวมาเชื่อม

ที่บอกว่าบิดเบี้ยว เพราะ กลุ่มคนที่สนับสนุนโจรนั้น
มักอ้างความชอบธรรม โดยอ้าง อัลกุรอานฮะดิษ  และ แม้แต่นบี โดยไม่สามารถยกหลักฐานอ้างอิง
แต่ ในขณะที่โต้แย้งในหลักการทางศาสนานั้น กลับไม่สามารถ ตอบคำถามทางศาสนา
หรือ การยกอายะห์ใดๆที่ตนอ้างได้เลย ซึ่งต่างกับฝ่ายที่ไม่เห็นด้วย ที่สามารถชี้ประเด็นว่าผิดอย่างไร ได้อย่างชัดเจน
มีการขอให้ยกอายะห์ ฮะดิษมา แต่อีกฝั่งสามารถทำได้ เพียงพูดถึงคำสอน ที่ไม่สามารถอ้างอิงตัวบทได้เท่านั้น

น้ำหนักที่คนเหล่านี้ให้นั้น คือ ความเป็นมลายู มากกว่าประเด็นทางศาสนา
ศาสนาถูกนำมาอ้าง ความชอบธรรมในการยึดคืนแผ่นดินมลายู ในความคิดของกลุ่มวัยรุ่นเหล่านี้

อย่างไรก็ดี ความคิดแบบนี้ไม่ใช่ทั้งหมด ของคนในพื้นที่ มีไม่มาก แต่มีอยู่จริง
สายบุรีเป็นเมืองที่มีความหลากหลายความเป็นอยุ่มาช้านาน คริสต์ อิสลาม พุทธ
อยู่ร่วมกันในแผ่นดินสายบุรีมา ร่วมร้อยปี ความหลากหลายนี้พึ่งเริ่มถูกทำลายลงอย่างช้าๆ
ด้วยยาเสพติด และ ประเด็นความแตกต่างทางศาสนา(อ้างว่า) เพียงไม่กี่ปีเท่านั้น

ส่วนตัวผมจึงมองกลุ่มคนเหล่านี้ เป็นคนที่เข้าใจผิด เป็นเยาวชนที่เดินทางผิด
ที่โดนใช้เป็นเครื่องมือเพราะอะไร?


เพราะผมเชื่อว่า แม้ภาคปฏิบัติจะมาจากคนในพื้นที่ แต่เป้าหมายการปฏิบัตินั้น
ไม่ได้สอดคล้องตามแนวทางสร้างรัฐปัตตานีเลยมันไม่ได้สง่างามขนาดนั้น

ไม่ว่าจะเป็นการอุ้ม ธุรกิจ ซ่องยา ยาเสพติด  การสร้างความแร้นแค้นในพื้นที่(กรณีชาวนาสิงห์บุรี)
การทำลายระบบการศึกษา การทำลายที่ก่อให้เกิดความเสียหายกับคนในพื้นที่ไม่จำกัดศาสนา (แต่อ้างว่าพุ่งเป้าไปที่พุทธ)
การทำร้ายคนไม่มีทางสู้ ไม่มีอาวุธ อย่างโหดเหี้ยม ทั้งหมดเหล่านี้ไม่ใกล้เคียงคำว่า การต่อสู้ในแนวทางอิสลามเลย
แต่ภาพรวมกับเป็นการบ่อนทำลาย ประชาชนในพื้นที่เสียเอง ทั้งการมอมเมาด้วยยา ทำลายการศึกษา ทำลายชีวิต ทำลายอาชีพ

ในขณะที่สิ่งที่ กลุ่มก่อความไม่สงบต้องการจะสื่อกับสังคม พยายามให้สังคมรับรู้
มีเพียงสองอย่างคือ
1. การสร้างรัฐ
2. และ การสร้างความขัดแย้งระหว่างศาสนา

เพื่ออะไร?  ถ้าไม่ใช่การเพิ่มแนวร่วม ซึ่งจะเป็นกำลังหลักให้กับองค์กรอีก

ทำให้ผมตั้งคำถามว่า แม้ มวลชนบางส่วนจะอ้างเป้าหมายทางการสร้างรัฐปัตตานี
แต่ แกนหลักของการขับเคลื่อนจริงๆ ไม่ใช่อย่างแน่นอน เพราะตั้งแต่
เกิดเรื่อง เป้าหมายพื้นที่ คือรัฐปัตตานีนั้นถดถอยและตกต่ำลงในทุกด้านในขณะที่
มีพื้นที่บางแห่ง เจริญชนิด ไม่รุ้ว่าจะเจริญอย่างไร ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจประเภทไหน
ถ้าเราเข้าใจเรื่องทุน  การไหลเวียนของทุน ควรจะเป็นเบาะแสที่ทำให้ จิ๊กซอร์มันลงตัว

องค์กรก่อความไม่สงบ นั้นผมคาดการณ์ได้ว่ามีขนาดใหญ่และมีอำนาจมาก
รัฐใช้งบร่วม 2 แสนล้าน แต่ยังไม่สามารถยุติปัญหาได้
ส่วนหนึ่งเพราะ มวลชนในพื้นที่ยังมีที่หลุดไปเข้าร่วม และ ทุนหมุนเวียนที่มาจากที่ ที่เราคาดไม่ถึง
หรือแม้แต่เราก็เป็นคนสนับสนุนทุนนั้นเสียเอง

ทำให้ผมมองว่าโจรเหล่านี้เป็นก็เป็นเพียงเหยื่อ อีกชั้นหนึ่ง
แต่การเป็นเหยื่อ ก็ต้องรับผลของการกระทำตามกฏหมาย

นั่นทำให้ผมชื่นชมวิธีการ แสดงออก ของทหารที่พูดถึงกรณีการบุกค่ายเมื่อวาน
แทบจะทุกคำพูด  ไม่มีการดูหมิ่น ไม่การสร้างความเกลียดชัง
เป็นคำพูดที่เข้าถึงและอาจแก้ปัญหาทางด้านงานมวลชนไปพร้อมๆกับ การต่อสู้ทางทหารอย่างแท้จริง

สุดท้าย สิ่งที่จะแก้ปัญหาได้ คือ ผู้นำทางศาสนา ควรเป็นแกนนำหลักในการลดความหลงทิศของมวลชนในพื้นที่
ทำอย่างที่ทำอยู่ และทำให้มากขึ้น และอำนาจรัฐต้องปกป้อง ผู้นำศาสนาเหล่านี้ให้ได้
ในขณะเดียวกัน ภาคประชาชนอย่างพวกเราเอง ไม่ควรเพิ่มเงื่อนไข ความขัดแย้ง
โดยเฉพะาพความขัดแย้งทางศาสนา เพราะ ไฟของการขัดแย้งทางศาสนาหรือชาติพันธ์

หรือ แนวคิด Racism ที่ผมพยายามพูดคุยในประเด็นนี้ตลอด คือ อาหารอย่างดีที่ผลักมวลชน
ให้เข้าไปเป็นแนวร่วม ซึ่งยิ่งทำให้ ทหาร และเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ ยิ่งไม่ปลอดภัย


ท่านต้องหยุดพฤติกรรมเหล่านี้ ทันที นั่นคือสิ่งที่ผมอยากจะขอ
หลายท่านอาจสงสัยว่าอะไรในศาสนาอิสลาม ที่สอนให้ผู้คนหลงทาง
ผมเพียงแต่อยากจะบอกว่า พระเจ้าท่านให้มีด  มนุษย์มีทางเลือกว่าจะใช้มีดนั้นทำอาหาร หรือ ทำร้ายกัน
ถ้าถามว่า การใช้มีด อย่างไรคืออิสลาม  ก็ต้องถามว่าอะไรคือ สันติ แนวทางใดคือ สันติ และให้อภัย
แนวทางนั้นคืออิสลามที่แท้จริง

สำหรับอิสลาม การยอมรับว่ามีดไม่มีอยู่จริง เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้
การเลือกของมนุษย์นั้น จะต้องรับผิดชอบการเลือกนั้นเมื่อเราตาย
ไม่ว่าก่อนตายนั้นเราจะถูกเชิดชูจากมนุษย์ด้วยกันอย่างไรก็ตาม

มีมุสลิมที่มองว่าคนเหล่านี้เป็นวีรบุรษ กู้รัฐแต่ไม่ใช่มุสลิมทั้งโลก
มีมุสลิมอีกมากที่ชี้ว่าสิ่งที่ คนมุสลิมเหล่านี้เชื่อนั้นผิด
และ พยายามดึงคนเหล่านี้ออกมาจากการตกเป็นเครื่องมือ โลกสีเทา
และจะทำไมได้ ถ้าคนไทยทุกคนไม่ช่วยกัน

"เข้าใจ เข้าถึง และพัฒนา"จากกระแสพระราชดำรัส
คือหัวใจที่แท้จริง ในการแก้ปัญหา ไฟใต้

ถ้าเรายังเชื่อว่า  โจรที่เป็นเหยื่อ คือ หัวใจหลักของแก่น  และเป้าหมายมีเพียงรัฐปัตตานี
จากนั้นก็ทะเลาะและขัดแย้งกันสุดท้าย เราทุกคนก็จะกลายเป็นเหยื่อ
รถตู้ที่ระเบิดที่ยะลา ไม่ได้เลือกว่า คนในรถจะเป็นศาสนาใด
ต่อให้ทุ่มเถียงกันเท่าไหร่ ก็ตายหมดอยู่ดี  ถึงเวลาที่ต้องเปิดตา สามัคคี  และร่วมกันสู้กับปัญหา

ขอเป็นกำลังใจให้กับตัวเอง  คนในพื้นที่  เจ้าหน้าที่ทุกนาย และสังคมไทย
เรายังมีหวังเสมอ


อย่าสิ้นหวัง
อย่าสิ้นหวัง
อย่าสิ้นหวัง และ
อย่าสิ้นหวังนะครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่