บังเอิญเป็นคราวเคราะห์ที่ได้ตามลิงค์จากเพื่อนๆในเวปบอร์ดนี้โดดไปยังหน้าเพจของท่านด๊อกเตอร์ ทำให้ผมได้เห็นมุมมองที่ไม่น่าเชื่อว่าจะได้เห็นจากผู้ทรงคุณวุฒิอย่างท่านด๊อกเตอร์
ก่อนอื่นต้องออกตัวก่อนนะครับ ไม่ว่าจะเป็นการศึกษา วิชาความรู้ หน้าที่การงาน หรือแม้กระทั่งอายุ ผมล้วนแต่ด้อยกว่าท่านด๊อกเตอร์ทั้งสิ้น แต่ในประชาธิปไตยที่หนึ่งคนมีหนึ่งเสียง หนึ่งคนมีหนึ่งสิทธิเท่ากัน ดังนั้นผมจึงขอใช้ในฐานะของสิทธิที่เท่าเทียมกันมาแสดงความคิดเห็นที่ต่างจากท่านด๊อกเตอร์นะครับ
ก็อย่างที่ออกตัวแต่ต้น ผมเป็นคนที่ด้อยการศึกษา แต่เรื่องที่เห็นต่างจากท่านด๊อกเตอร์กลับมีมากมายเหลือเกิน ดังนั้นการพิมพ์จึงเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยุ่งยากสำหรับผมอย่างยิ่ง ดังนั้นผมจึงขออนุญาตกับท่านด๊อกเตอร์ ด้วยการพิมพ์สรรพนามท่านด๊อกเตอร์ด้วยคำสั้นๆว่า ท่านด๊อก แล้วตามด้วย ไปยาลน้อย ก็แล้วกันนะครับ
ท่านด๊อกฯครับ ท่านด๊อกฯพูดถูกแล้วครับ เพจของท่านด๊อกฯเป็นเพจส่วนตัว และก็ลูกศิษย์ลูกหาของท่านด๊อกฯมีหลายท่านไม่ต้องการให้คนที่มีความคิดเห็นต่างเข้าไปแสดงความคิดในเพจส่วนตัวของท่านด๊อกฯ อีกทั้งคนที่ถูกวิจารณ์ก็เป็นบุคคลสาธารณะ ดังนั้นผมจึงขอดึงท่านด๊อกฯออกจากเพจส่วนตัว เข้ามาสู่เวปบอร์ดสาธารณะดีกว่านะครับ
ท่านด๊อกฯครับ ท่านด๊อกฯพูดถูกแล้วครับเรื่องสิทธิในการเลือกคน และการจะชักจูงใครให้ไปเลือกใครก็เป็นสิทธิของท่านด๊อกฯ เพียงแต่ท่านด๊อกฯลืมคิดถึงหมวกอีกใบที่ท่านด๊อกฯสวมอยู่ นั่นคือ หมวกของคนที่เป็นครูบาอาจารย์ ซึ่งคำว่า “อาจารย์” คำนี้เป็นคำศักดิ์สิทธิ์นะครับท่านด๊อกฯ ความเป็นอาจารย์ที่ต้องคอยอบรมสั่งสอน คอยชี้แนวทางที่ถูกต้องให้กับลูกศิษย์ แล้วท่านด๊อกฯทำตัวเป็นเยี่ยงอย่างที่ดีหรือไม่ ลองคิดดูนะครับท่านด๊อกฯ
ท่านด๊อกฯครับ ถึงแม้จะเป็นอาจารย์ ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีสิทธิในการฝักฝ่ายพรรคการเมืองพรรคใดพรรคหนึ่ง ถึงแม้ความเป็นอาจารย์จะไม่จำเป็นต้องคิดถูกต้องเสมอไป แต่ความเป็นอาจารย์จะต้องชี้นำในสิ่งที่ถูกที่ควรต่างหากครับ แม้เรื่องนั้นจะฝืนความรู้สึกตัวเองก็ตามที นั่นจึงสมกับคำว่า “อาจารย์”ที่คนให้การยกย่อง แต่สำหรับท่านด๊อกฯ ผมรู้สึกตะขิดตะขวงใจที่จะเรียกหาท่านด๊อกฯเป็นอาจารย์ เพราะผมติดตามพฤติกรรมท่านด๊อกฯมาหลายปีดีดัก มันบอกว่า มันไม่ใช่ครับท่านด๊อกฯ มันไม่ใช่แบบอย่างของคนที่จะเป็นอาจารย์ควรกระทำ หวังว่าท่านด๊อกฯจะเข้าใจ
ท่านด๊อกฯครับ พฤติกรรมทางเพศที่เบียงเบนไม่ใช่ความผิดครับ การรับเลี้ยงใครเพื่อความสุขส่วนตัวก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้าย แต่การที่ออกมาแสดงความเห็นแบบเบี่ยงเบนเหตุผล เพื่อชี้นำสังคมให้กระทำในสิ่งที่ตัวเองต้องการ นี่ต่างหากทำให้ศักดิ์ศรีของความเป็นอาจารย์ จรรยาบรรณในวิชาชีพของท่านด๊อกฯหมดไปต่างหากครับ
ท่านด๊อกฯจะสนับสนุนเบอร์ไหนก็เป็นสิทธิ แต่การชักจูงผู้อื่นให้คล้อยตามด้วยใจที่เต็มไปด้วยอคติ นี่ต่างหากครับที่ควรถูกตำหนิ เพราะท่านด๊อกฯกำลังทำให้สังคมไขว้เขวกับการเลือกตั้ง สับสนกับการเลือกคนมาทำงาน สิ่งที่ท่านด๊อกฯชี้นำและชักจูงมันไม่ได้สอนให้คนเลือกคนดี ไม่ได้สอนให้คนเลือกคนเก่ง ไม่ได้สอนให้คนเลือกผู้นำ เพื่อที่จะมาพัฒนากรุงเทพให้ดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่
แต่กลับให้เลือกคนที่ถึงแม้จะไม่มีผลงาน ถึงแม้จะไม่เก่ง เพียงแค่อย่าให้อีกฝ่ายเข้ามาเป็นพอ โดยการยึดโยงการเลือกตั้งผู้ว่าฯกับคุณทักษิณเพียงอย่างเดียว นี่จึงเป็นการชี้นำด้วยอคติล้วนๆโดยไม่มีสิ่งใดเจือปนจริงๆนะครับท่านด๊อกฯ
ท่านด๊อกฯจะให้คนกรุงเทพเลือกผู้ว่าฯหรือเลือกไม้กันหมากันแน่ครับ ท่านด๊อกฯจะให้คนกรุงเทพอดทนกับผู้ว่าฯคนเดิม ด้วยเหตุผลเพียงเพราะอีกฝ่ายเป็นคนของทักษิณอย่างนั้นหรือครับ ช่างเป็นจิตใจที่คับแคบเสียนี่กระไร เป็นการใช้อคติส่วนตัวอย่างชัดเจนที่สุดเลยนะครับท่านด๊อกฯ
ท่านด๊อกฯจำถึงเรื่องที่ผ่านมาได้หรือเปล่าครับ ที่ท่านด๊อกฯเคยพูดถึงเรื่องปฏิญญาฟินแลนด์ ถึงแม้ท่านด๊อกฯจะออกตัวว่าไม่ได้สนใจว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่ แต่ท่านด๊อกฯกลับพูดในเชิงว่าการกระทำของคุณทักษิณในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาสอดคล้องกับปฏิญญาทั่ง 5 ข้อจริงๆ
นี่ก็เป็นความพยายามชี้นำให้สังคมคล้อยตามใช่หรือไม่ และเมื่อถึงวันนี้ก็เป็นอันรู้แน่ชัดว่า เรื่องนั้นเป็นเรื่องเหลวไหลทั้งเพ เพียงเพื่อสร้างความเกลียดชังให้กับคุณทักษิณเท่านั้นเอง แล้วท่านด๊อกฯนอกจากไม่แสดงความรับผิดชอบ ยังไม่ยอมละทิ้งอคติอีกต่างหาก นี่จึงเป็นอาการที่น่าเป็นห่วงนะครับท่านด๊อกฯ
แล้วที่ท่านด๊อกฯพูดในเพจถึงความรู้เท่าทัน รู้เบื้องลึกของคุณทักษิณนั้น ผมก็อยากถามว่าท่านด๊อกฯที่เคยไปชำแหละระบอบทักษิณที่เวทีพันธมิตรฯนั้น ตอนนี้ยังคิดเหมือนเดิมอยู่หรือเปล่าครับท่านด๊อกฯ
ท่านด๊อกฯเคยพูดว่า คุณทักษิณใช้ระบอบ “ข้าคิดคนเดียว” ทำให้รัฐมนตรีทั้งหลายสมองฝ่อไปหมด
แต่ขณะเดียวกันท่านด๊อกฯกับเห็นด้วยกับการทำรัฐประหาร เห็นด้วยกับการยึดอำนาจประชาชน เท่ากับเห็นด้วยกับเหล่าเผด็จการ ซึ่งอย่างไรก็เลวร้ายกว่ารัฐบาลที่มาจากประชาชนอย่างเทียบกันไม่ได้ ท่านด๊อกฯพึงสังวรด้วยนะครับ คนไม่ดีที่ควบคุมได้อย่างไรเสียก็ดีกว่าคนดีที่ควบคุมไม่ได้ รู้แล้วใช่ไหมครับ ทำไมทั่วโลกจึงต้องการประชาธิปไตย
ท่านด๊อกฯเคยพูดถึงเรื่องกองทุนหมูบ้าน โครงการ 30 บาทรักษาทุกโรคเป็นวาระซ่อนเร้นเพื่อสร้างประโยชน์ให้กับตัวเองและพวกพ้องทั้งสิ้น
คนส่วนใหญ่กลับมองเห็นรัฐบาลยุคต่อๆมาไม่มีใครยกเลิกสักโครงการ นั่นหมายถึงว่ามีวาระซ่อนเร้นเช่นเดียวกันหรือเปล่าครับ ท่านด๊อกฯกลับหายหัวไปในช่วงนั้น หรือจะเป็นเพราะว่า คนกี่คนจะมีประโยชน์อะไรก็ช่างหัวมัน แต่คุณทักษิณและครอบครัวต้องไม่ได้ อย่างนี้ถ้าจะเรียกว่า อคติ คงไม่ผิดกระมังครับ
ท่านด๊อกฯเคยพูดถึงเรื่องการไร้การตรวจสอบ แม้กระทั่งองค์กรอิสระก็รับใช้รัฐบาล
คนส่วนใหญ่ก็มองเห็นถึงองค์กรอิสระที่รับใช้เผด็จการในยุคนี้ แล้วมันแตกต่างกันตรงไหน นอกจากสร้างความแตกแยก และที่เห็นชัดที่สุดคือผู้ว่า กทม.กับสก.สข.เป็นคนของพรรคเดียวกัน ยิ่งไร้การตรวจสอบมิใช่หรือ เรื่องนี้หรือเปล่าที่ทำให้การต่อสัญญาล่วงหน้า 13 ปี จึงเป็นไปอย่างสะดวกโยธิน อย่างนี้ท่านด๊อกฯกลับไม่เคยมองเห็น ลืมรักประเทศไปชั่วขณะหรือไงครับ
ท่านด๊อกฯพูดถึงระบอบซีอีโอ ทักษิณสามารถสั่งการได้ทุกเรื่อง ไม่มีใครสามารถคัดค้านได้ จนทำอะไรถูกหมด
แล้วช่วงที่รัฐบาลที่ท่านด๊อกฯสนับสนุนล่ะ จะเป็นซีอีโอหรือเปล่าผมไม่รู้ แต่เรื่องการผ่านโครงการเป็นร้อยในเวลาไม่กี่ชั่วโมงหรือแม้กระทั่งการสังหารหมู่ ก็ไม่เห็นจะมีใครว่าผิดสักคน อคติหรือเปล่าคิดดู
ท่านด๊อกฯพูดถึง “เอาพวกพ้อง” หมายถึงใครยอมเป็นพวกด้วยก็จะได้ดี แต่ถ้าใครไม่สนองก็ถูกไล่ออก ใครไม่ให้ความร่วมมือก็จะโยกย้าย และการโยกย้ายญาติและพวกพ้องเข้ามาดูแลผลประโยชน์
แล้วกรณีคุณพัชรวาทถูกไล่ออก และตั้งคุณปทีปเป็นผู้รักษาการแทนฯพร้อมทั้งเสนอให้มีการรวบสัญญาเป็นฉบับเดียวล่ะ เข้าข่ายที่ท่านด๊อกฯกล่าวหาคุณทักษิณหรือไม่ ส่วนพิธีกรร่วมรายการคลายปมมันเกี่ยวกับการให้พวกพ้องเข้ามาดูแลผลประโยชน์หรือเปล่าครับ แล้วยังมีสนามฟุตซอลอีกล่ะ ไปดึงงบมาให้พวกพ้องทำ แล้วผลเป็นอย่างไร ศักยภาพไม่ถึง จนคนไทยแทบจะเอาปี๊บคลุมหัว ท่านด๊อกฯคงไม่รู้สึกรู้สาสิท่า เพราะไม่ใช่พรรคของคุณทักษิณงั้นสิ
ท่านด๊อกฯยังพูดถึงระบอบทักษิณสร้างความแตกแยกให้กับสังคมไทยอย่างรุนแรง
ป๊าดโธ่เอ๊ย ช่างไม่ดูสารรูปตัวเองบ้างเลย คนอื่นผิดดังขุนเขา ส่วนตัวผิดเท่าปุยนุ่นอย่างแท้จริง ท่านด๊อกฯครับ ความขัดแย้งมันเริ่มต้นเมื่อไหร่กัน ถ้าไม่ใช่เริ่มจากพวกของท่านด๊อกฯที่ใช้วาทกรรมให้ร้ายป้ายสีดังที่ผมยกมาข้างต้นหรอกหรือ ซึ่งสุดท้ายก็พิสูจน์แล้วว่า พวกเอ็งไม่ได้ดีกว่าพวกข้าหรอกเว้ยท่านด๊อกฯ (ขอโทษด้วยนะครับที่ต้องใช้วาจาไม่สุภาพ แต่บางครั้งจำเป็นต้องใช้ เพราะมันจะได้เข้าถึงอารมณ์ไงครับ)
และด้วยเหตุเหล่านี้กระมัง เมื่อคนส่วนใหญ่เริ่มตาสว่าง หลักวิชาการจำต้องทิ้งไป จริยธรรมคุณธรรมเก็บไว้ก่อน ตอนนี้ขอแค่รักษาที่มั่นด่านสุดท้ายให้ได้ก็เพียงพอ ดังนั้นวิชามารต่างๆจึงเริ่มนำออกมาใช้ ไม่เว้นแม้แต่ท่านด๊อกฯยังคงใช้วิธีสร้างความขัดแย้งให้เกิดกับสังคม เพื่อให้คนที่ตัวเองฝักฝ่ายอยู่ชนะ ดังนั้นคงไม่แปลกใจแล้วสินะที่ผมไม่เคยมองเห็นท่านด๊อกฯเป็นอาจารย์ แต่ถ้าเป็น อาจ..ก็ว่าไปอย่าง จริงไหมครับท่านด๊อกเตอร์เสรี
สุดท้ายอยากฝากท่านด๊อกฯว่า เมื่อใจเกิดอคติ สติก็จะถูกบดบัง ปัญญาก็จะไม่เกิด สายตาก็จะเบี่ยงเบน ดังนั้นผมจึงอยากให้ท่านด๊อกฯละทิ้งอคติ แล้วกระชากจรรยาบรรณของความเป็นครูกลับคืนมาให้ได้โดยเร็ว เพื่อที่จะแนะในสิ่งที่ถูก นำในสิ่งที่ควร
อย่างเช่นการเลือกผู้ว่าฯไม่ใช่การเลือกไม้กันหมา ไม่ใช่การถ่วงดุล และก็ไม่ใช่ ไม่เลือกเราเขามาแน่ แต่ควรเป็นการเลือก คนที่ท่านด๊อกฯเห็นว่าเหมาะสมกว่า มีคุณสมบัติครบถ้วนกว่า และเหนืออื่นใดสามารถบริหารกรุงเทพได้ดีกว่า 4 ปีที่ผ่านมา เพื่อให้ประชาชนได้รับรู้ เพื่อประกอบในการตัดสินใจ นอกเสียจากว่า ส่วนดีมันน้อยกว่ารอยด่างที่ทำไว้ตลอดเวลาที่ผ่านมา จนท่านด๊อกฯไม่สามารถจะนำมาเอ่ยอ้างให้คนเปรียบเทียบ ถ้าอย่างนั้นท่านด๊อกฯก็ควรทำใจแล้วล่ะครับ อย่าฝืนความต้องการของประชาชนเลยครับ รังแต่จะทำให้เครดิตของท่านด๊อกฯที่มีน้อยอยู่แล้ว ต้องหมดเปลืองไปกว่านี้เลยครับ มันไม่คุ้มหรอก เชื่อผมเหอะ
ท่านด๊อกเตอร์เสรี วงศ์มณฑาครับ ผมเห็นต่างจากท่านครับ
ก่อนอื่นต้องออกตัวก่อนนะครับ ไม่ว่าจะเป็นการศึกษา วิชาความรู้ หน้าที่การงาน หรือแม้กระทั่งอายุ ผมล้วนแต่ด้อยกว่าท่านด๊อกเตอร์ทั้งสิ้น แต่ในประชาธิปไตยที่หนึ่งคนมีหนึ่งเสียง หนึ่งคนมีหนึ่งสิทธิเท่ากัน ดังนั้นผมจึงขอใช้ในฐานะของสิทธิที่เท่าเทียมกันมาแสดงความคิดเห็นที่ต่างจากท่านด๊อกเตอร์นะครับ
ก็อย่างที่ออกตัวแต่ต้น ผมเป็นคนที่ด้อยการศึกษา แต่เรื่องที่เห็นต่างจากท่านด๊อกเตอร์กลับมีมากมายเหลือเกิน ดังนั้นการพิมพ์จึงเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยุ่งยากสำหรับผมอย่างยิ่ง ดังนั้นผมจึงขออนุญาตกับท่านด๊อกเตอร์ ด้วยการพิมพ์สรรพนามท่านด๊อกเตอร์ด้วยคำสั้นๆว่า ท่านด๊อก แล้วตามด้วย ไปยาลน้อย ก็แล้วกันนะครับ
ท่านด๊อกฯครับ ท่านด๊อกฯพูดถูกแล้วครับ เพจของท่านด๊อกฯเป็นเพจส่วนตัว และก็ลูกศิษย์ลูกหาของท่านด๊อกฯมีหลายท่านไม่ต้องการให้คนที่มีความคิดเห็นต่างเข้าไปแสดงความคิดในเพจส่วนตัวของท่านด๊อกฯ อีกทั้งคนที่ถูกวิจารณ์ก็เป็นบุคคลสาธารณะ ดังนั้นผมจึงขอดึงท่านด๊อกฯออกจากเพจส่วนตัว เข้ามาสู่เวปบอร์ดสาธารณะดีกว่านะครับ
ท่านด๊อกฯครับ ท่านด๊อกฯพูดถูกแล้วครับเรื่องสิทธิในการเลือกคน และการจะชักจูงใครให้ไปเลือกใครก็เป็นสิทธิของท่านด๊อกฯ เพียงแต่ท่านด๊อกฯลืมคิดถึงหมวกอีกใบที่ท่านด๊อกฯสวมอยู่ นั่นคือ หมวกของคนที่เป็นครูบาอาจารย์ ซึ่งคำว่า “อาจารย์” คำนี้เป็นคำศักดิ์สิทธิ์นะครับท่านด๊อกฯ ความเป็นอาจารย์ที่ต้องคอยอบรมสั่งสอน คอยชี้แนวทางที่ถูกต้องให้กับลูกศิษย์ แล้วท่านด๊อกฯทำตัวเป็นเยี่ยงอย่างที่ดีหรือไม่ ลองคิดดูนะครับท่านด๊อกฯ
ท่านด๊อกฯครับ ถึงแม้จะเป็นอาจารย์ ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีสิทธิในการฝักฝ่ายพรรคการเมืองพรรคใดพรรคหนึ่ง ถึงแม้ความเป็นอาจารย์จะไม่จำเป็นต้องคิดถูกต้องเสมอไป แต่ความเป็นอาจารย์จะต้องชี้นำในสิ่งที่ถูกที่ควรต่างหากครับ แม้เรื่องนั้นจะฝืนความรู้สึกตัวเองก็ตามที นั่นจึงสมกับคำว่า “อาจารย์”ที่คนให้การยกย่อง แต่สำหรับท่านด๊อกฯ ผมรู้สึกตะขิดตะขวงใจที่จะเรียกหาท่านด๊อกฯเป็นอาจารย์ เพราะผมติดตามพฤติกรรมท่านด๊อกฯมาหลายปีดีดัก มันบอกว่า มันไม่ใช่ครับท่านด๊อกฯ มันไม่ใช่แบบอย่างของคนที่จะเป็นอาจารย์ควรกระทำ หวังว่าท่านด๊อกฯจะเข้าใจ
ท่านด๊อกฯครับ พฤติกรรมทางเพศที่เบียงเบนไม่ใช่ความผิดครับ การรับเลี้ยงใครเพื่อความสุขส่วนตัวก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้าย แต่การที่ออกมาแสดงความเห็นแบบเบี่ยงเบนเหตุผล เพื่อชี้นำสังคมให้กระทำในสิ่งที่ตัวเองต้องการ นี่ต่างหากทำให้ศักดิ์ศรีของความเป็นอาจารย์ จรรยาบรรณในวิชาชีพของท่านด๊อกฯหมดไปต่างหากครับ
ท่านด๊อกฯจะสนับสนุนเบอร์ไหนก็เป็นสิทธิ แต่การชักจูงผู้อื่นให้คล้อยตามด้วยใจที่เต็มไปด้วยอคติ นี่ต่างหากครับที่ควรถูกตำหนิ เพราะท่านด๊อกฯกำลังทำให้สังคมไขว้เขวกับการเลือกตั้ง สับสนกับการเลือกคนมาทำงาน สิ่งที่ท่านด๊อกฯชี้นำและชักจูงมันไม่ได้สอนให้คนเลือกคนดี ไม่ได้สอนให้คนเลือกคนเก่ง ไม่ได้สอนให้คนเลือกผู้นำ เพื่อที่จะมาพัฒนากรุงเทพให้ดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่
แต่กลับให้เลือกคนที่ถึงแม้จะไม่มีผลงาน ถึงแม้จะไม่เก่ง เพียงแค่อย่าให้อีกฝ่ายเข้ามาเป็นพอ โดยการยึดโยงการเลือกตั้งผู้ว่าฯกับคุณทักษิณเพียงอย่างเดียว นี่จึงเป็นการชี้นำด้วยอคติล้วนๆโดยไม่มีสิ่งใดเจือปนจริงๆนะครับท่านด๊อกฯ
ท่านด๊อกฯจะให้คนกรุงเทพเลือกผู้ว่าฯหรือเลือกไม้กันหมากันแน่ครับ ท่านด๊อกฯจะให้คนกรุงเทพอดทนกับผู้ว่าฯคนเดิม ด้วยเหตุผลเพียงเพราะอีกฝ่ายเป็นคนของทักษิณอย่างนั้นหรือครับ ช่างเป็นจิตใจที่คับแคบเสียนี่กระไร เป็นการใช้อคติส่วนตัวอย่างชัดเจนที่สุดเลยนะครับท่านด๊อกฯ
ท่านด๊อกฯจำถึงเรื่องที่ผ่านมาได้หรือเปล่าครับ ที่ท่านด๊อกฯเคยพูดถึงเรื่องปฏิญญาฟินแลนด์ ถึงแม้ท่านด๊อกฯจะออกตัวว่าไม่ได้สนใจว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่ แต่ท่านด๊อกฯกลับพูดในเชิงว่าการกระทำของคุณทักษิณในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาสอดคล้องกับปฏิญญาทั่ง 5 ข้อจริงๆ
นี่ก็เป็นความพยายามชี้นำให้สังคมคล้อยตามใช่หรือไม่ และเมื่อถึงวันนี้ก็เป็นอันรู้แน่ชัดว่า เรื่องนั้นเป็นเรื่องเหลวไหลทั้งเพ เพียงเพื่อสร้างความเกลียดชังให้กับคุณทักษิณเท่านั้นเอง แล้วท่านด๊อกฯนอกจากไม่แสดงความรับผิดชอบ ยังไม่ยอมละทิ้งอคติอีกต่างหาก นี่จึงเป็นอาการที่น่าเป็นห่วงนะครับท่านด๊อกฯ
แล้วที่ท่านด๊อกฯพูดในเพจถึงความรู้เท่าทัน รู้เบื้องลึกของคุณทักษิณนั้น ผมก็อยากถามว่าท่านด๊อกฯที่เคยไปชำแหละระบอบทักษิณที่เวทีพันธมิตรฯนั้น ตอนนี้ยังคิดเหมือนเดิมอยู่หรือเปล่าครับท่านด๊อกฯ
ท่านด๊อกฯเคยพูดว่า คุณทักษิณใช้ระบอบ “ข้าคิดคนเดียว” ทำให้รัฐมนตรีทั้งหลายสมองฝ่อไปหมด
แต่ขณะเดียวกันท่านด๊อกฯกับเห็นด้วยกับการทำรัฐประหาร เห็นด้วยกับการยึดอำนาจประชาชน เท่ากับเห็นด้วยกับเหล่าเผด็จการ ซึ่งอย่างไรก็เลวร้ายกว่ารัฐบาลที่มาจากประชาชนอย่างเทียบกันไม่ได้ ท่านด๊อกฯพึงสังวรด้วยนะครับ คนไม่ดีที่ควบคุมได้อย่างไรเสียก็ดีกว่าคนดีที่ควบคุมไม่ได้ รู้แล้วใช่ไหมครับ ทำไมทั่วโลกจึงต้องการประชาธิปไตย
ท่านด๊อกฯเคยพูดถึงเรื่องกองทุนหมูบ้าน โครงการ 30 บาทรักษาทุกโรคเป็นวาระซ่อนเร้นเพื่อสร้างประโยชน์ให้กับตัวเองและพวกพ้องทั้งสิ้น
คนส่วนใหญ่กลับมองเห็นรัฐบาลยุคต่อๆมาไม่มีใครยกเลิกสักโครงการ นั่นหมายถึงว่ามีวาระซ่อนเร้นเช่นเดียวกันหรือเปล่าครับ ท่านด๊อกฯกลับหายหัวไปในช่วงนั้น หรือจะเป็นเพราะว่า คนกี่คนจะมีประโยชน์อะไรก็ช่างหัวมัน แต่คุณทักษิณและครอบครัวต้องไม่ได้ อย่างนี้ถ้าจะเรียกว่า อคติ คงไม่ผิดกระมังครับ
ท่านด๊อกฯเคยพูดถึงเรื่องการไร้การตรวจสอบ แม้กระทั่งองค์กรอิสระก็รับใช้รัฐบาล
คนส่วนใหญ่ก็มองเห็นถึงองค์กรอิสระที่รับใช้เผด็จการในยุคนี้ แล้วมันแตกต่างกันตรงไหน นอกจากสร้างความแตกแยก และที่เห็นชัดที่สุดคือผู้ว่า กทม.กับสก.สข.เป็นคนของพรรคเดียวกัน ยิ่งไร้การตรวจสอบมิใช่หรือ เรื่องนี้หรือเปล่าที่ทำให้การต่อสัญญาล่วงหน้า 13 ปี จึงเป็นไปอย่างสะดวกโยธิน อย่างนี้ท่านด๊อกฯกลับไม่เคยมองเห็น ลืมรักประเทศไปชั่วขณะหรือไงครับ
ท่านด๊อกฯพูดถึงระบอบซีอีโอ ทักษิณสามารถสั่งการได้ทุกเรื่อง ไม่มีใครสามารถคัดค้านได้ จนทำอะไรถูกหมด
แล้วช่วงที่รัฐบาลที่ท่านด๊อกฯสนับสนุนล่ะ จะเป็นซีอีโอหรือเปล่าผมไม่รู้ แต่เรื่องการผ่านโครงการเป็นร้อยในเวลาไม่กี่ชั่วโมงหรือแม้กระทั่งการสังหารหมู่ ก็ไม่เห็นจะมีใครว่าผิดสักคน อคติหรือเปล่าคิดดู
ท่านด๊อกฯพูดถึง “เอาพวกพ้อง” หมายถึงใครยอมเป็นพวกด้วยก็จะได้ดี แต่ถ้าใครไม่สนองก็ถูกไล่ออก ใครไม่ให้ความร่วมมือก็จะโยกย้าย และการโยกย้ายญาติและพวกพ้องเข้ามาดูแลผลประโยชน์
แล้วกรณีคุณพัชรวาทถูกไล่ออก และตั้งคุณปทีปเป็นผู้รักษาการแทนฯพร้อมทั้งเสนอให้มีการรวบสัญญาเป็นฉบับเดียวล่ะ เข้าข่ายที่ท่านด๊อกฯกล่าวหาคุณทักษิณหรือไม่ ส่วนพิธีกรร่วมรายการคลายปมมันเกี่ยวกับการให้พวกพ้องเข้ามาดูแลผลประโยชน์หรือเปล่าครับ แล้วยังมีสนามฟุตซอลอีกล่ะ ไปดึงงบมาให้พวกพ้องทำ แล้วผลเป็นอย่างไร ศักยภาพไม่ถึง จนคนไทยแทบจะเอาปี๊บคลุมหัว ท่านด๊อกฯคงไม่รู้สึกรู้สาสิท่า เพราะไม่ใช่พรรคของคุณทักษิณงั้นสิ
ท่านด๊อกฯยังพูดถึงระบอบทักษิณสร้างความแตกแยกให้กับสังคมไทยอย่างรุนแรง
ป๊าดโธ่เอ๊ย ช่างไม่ดูสารรูปตัวเองบ้างเลย คนอื่นผิดดังขุนเขา ส่วนตัวผิดเท่าปุยนุ่นอย่างแท้จริง ท่านด๊อกฯครับ ความขัดแย้งมันเริ่มต้นเมื่อไหร่กัน ถ้าไม่ใช่เริ่มจากพวกของท่านด๊อกฯที่ใช้วาทกรรมให้ร้ายป้ายสีดังที่ผมยกมาข้างต้นหรอกหรือ ซึ่งสุดท้ายก็พิสูจน์แล้วว่า พวกเอ็งไม่ได้ดีกว่าพวกข้าหรอกเว้ยท่านด๊อกฯ (ขอโทษด้วยนะครับที่ต้องใช้วาจาไม่สุภาพ แต่บางครั้งจำเป็นต้องใช้ เพราะมันจะได้เข้าถึงอารมณ์ไงครับ)
และด้วยเหตุเหล่านี้กระมัง เมื่อคนส่วนใหญ่เริ่มตาสว่าง หลักวิชาการจำต้องทิ้งไป จริยธรรมคุณธรรมเก็บไว้ก่อน ตอนนี้ขอแค่รักษาที่มั่นด่านสุดท้ายให้ได้ก็เพียงพอ ดังนั้นวิชามารต่างๆจึงเริ่มนำออกมาใช้ ไม่เว้นแม้แต่ท่านด๊อกฯยังคงใช้วิธีสร้างความขัดแย้งให้เกิดกับสังคม เพื่อให้คนที่ตัวเองฝักฝ่ายอยู่ชนะ ดังนั้นคงไม่แปลกใจแล้วสินะที่ผมไม่เคยมองเห็นท่านด๊อกฯเป็นอาจารย์ แต่ถ้าเป็น อาจ..ก็ว่าไปอย่าง จริงไหมครับท่านด๊อกเตอร์เสรี
สุดท้ายอยากฝากท่านด๊อกฯว่า เมื่อใจเกิดอคติ สติก็จะถูกบดบัง ปัญญาก็จะไม่เกิด สายตาก็จะเบี่ยงเบน ดังนั้นผมจึงอยากให้ท่านด๊อกฯละทิ้งอคติ แล้วกระชากจรรยาบรรณของความเป็นครูกลับคืนมาให้ได้โดยเร็ว เพื่อที่จะแนะในสิ่งที่ถูก นำในสิ่งที่ควร
อย่างเช่นการเลือกผู้ว่าฯไม่ใช่การเลือกไม้กันหมา ไม่ใช่การถ่วงดุล และก็ไม่ใช่ ไม่เลือกเราเขามาแน่ แต่ควรเป็นการเลือก คนที่ท่านด๊อกฯเห็นว่าเหมาะสมกว่า มีคุณสมบัติครบถ้วนกว่า และเหนืออื่นใดสามารถบริหารกรุงเทพได้ดีกว่า 4 ปีที่ผ่านมา เพื่อให้ประชาชนได้รับรู้ เพื่อประกอบในการตัดสินใจ นอกเสียจากว่า ส่วนดีมันน้อยกว่ารอยด่างที่ทำไว้ตลอดเวลาที่ผ่านมา จนท่านด๊อกฯไม่สามารถจะนำมาเอ่ยอ้างให้คนเปรียบเทียบ ถ้าอย่างนั้นท่านด๊อกฯก็ควรทำใจแล้วล่ะครับ อย่าฝืนความต้องการของประชาชนเลยครับ รังแต่จะทำให้เครดิตของท่านด๊อกฯที่มีน้อยอยู่แล้ว ต้องหมดเปลืองไปกว่านี้เลยครับ มันไม่คุ้มหรอก เชื่อผมเหอะ