ติดตามบทความด้านการลงทุนได้ที่
http://www.facebook.com/longtoondotcom
บริษัท อัคคีปราการ จำกัด (มหาชน) (AKP) ผู้ประกอบธุรกิจเตาเผาขยะอุตสาหกรรมหนึ่งเดียวในไทย ได้ฤกษ์เข้าเทรดวันแรกใน mai วันที่ 7 ก.พ. นี้ ผู้บริหาร มั่นใจราคายืนเหนือจองที่ 2 บาท/หุ้น พร้อมชี้ทิศทางธุรกิจเติบโตโดดเด่น เหตุไร้คู่แข่ง ลั่นจ่ายปันผล 50% ของกำไรสุทธิ ที่ปรึกษาทางการเงินชี้พื้นฐานแกร่ง พีอีต่ำเพียง 11 เท่า
รู้จัก AKP ผู้ประกอบธุรกิจ เตาเผาขยะอุตสาหกรรม หนึ่งเดียวในไทย
บริษัท อัคคีปราการ จำกัด (มหาชน) หรือ AKPเป็นผู้ประกอบธุรกิจในการบริหารและประกอบการ ศูนย์บริหารจัดการวัสดุเหลือใช้อุตสาหกรรม (เตาเผาขยะอุตสาหกรรม) บางปู จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งจัดสร้างโดยกรมโรงงานอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม มูลค่าโครงการรวมที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง 1,408 ล้านบาท ซึ่งวัตถุประสงค์หลักของกรมโรงงานอุตสาหกรรม ในการจัดสร้างเตาเผาขยะอุตสาหกรรมแห่งนี้เพื่อเป็นโครงการนำร่องในการกำจัดกากอุตสาหกรรมอันตรายให้เป็นไปอย่างถูกวิธีปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อม
สำหรับเตาเตาเผาขยะอุตสาหกรรมอัคคีปราการ ถือเป็นเตากำจัดกากอุตสาหกรรมอันตรายที่ปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อมแห่งเดียวในประเทศไทย และภูมิภาคอาเซียน เนื่องจากเป็นเตาที่ลงทุนสูงกว่า 1,400 ล้านบาท ในขณะที่การบริหารจัดการจำเป็นต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ในธุรกิจเป็นอย่างดี จึงถือเป็นธุรกิจที่ไม่มีคู่แข่งขันโดยตรงในตลาด การขยายฐานธุรกิจจึงอาศัยเพียงกระจายความรู้เรื่องการเผาทำลายกากอุตสาหกรรมอันตรายด้วยเตาความร้อนสูงโดยไม่ก่อให้เกิดมลพิษของเตาอัคคีปราการให้ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายได้ทราบโดยทั่วถึงกันเท่านั้น
ผู้บริหาร มั่นใจ เทรดวันแรกยืนเหนือจองที่ 2 บาท/หุ้น
นายวันชัย เหลืองวิริยะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อัคคีปราการ จำกัด (มหาชน) (AKP) เปิดเผยถึง การซื้อขายหุ้น AKP วันแรกในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ นี้ ว่ามั่นใจว่าหุ้น AKP ที่เข้าซื้อขายวันแรกจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากนักลงทุน ทำให้สามารถยืนเหนือราคาจองที่ 2 บาท/หุ้นได้ เนื่องจากบริษัทฯ มีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง มีทิศทางการเติบโต ในอัตราที่โดดเด่นชัดเจนและต่อเนื่อง จากธุรกิจบริหารจัดการวัสดุเหลือใช้อุตสาหกรรม(เตาเผาขยะอุตสาหกรรม) บางปู จ.สมุทรปราการ ซึ่งเป็นเตากำจัดกากอุตสาหกรรมอันตรายด้วยวิธีการเผาด้วยความร้อนสูงที่ปลอดภัยต่อ
สิ่งแวดล้อมแห่งเดียวในประเทศไทย และภูมิภาคอาเซียน ทำให้ไม่มีคู่แข่งทางธุรกิจโดยตรง ประกอบกับ ภาครัฐได้บังคับใช้กฎหมายให้โรงงานอุตสาหกรรมทั่วประเทศ หันมากำจัดกากอุตสาหกรรม ด้วยวิธีที่ถูกต้องอย่างเข้มงวดยิ่งขึ้น จึงทำให้ลูกค้าเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ สะท้อนให้ผลประกอบการเติบโตได้อย่างต่อเนื่องดังกล่าว
“มั่นใจว่าหุ้น AKP จะได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดีจากนักลงทุน จนยืนเหนือราคาจองได้ เพราะนอกจากเราจะเป็นบริษัทฯ ที่มีผลประกอบการเติบโตในอัตราที่ดีแล้ว เรายังยืนยันจะเป็นบริษัทฯ ที่จ่าย ปันผลตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้นในอัตราที่ดีถึง 50% ของกำไรสุทธิด้วย ประกอบกับเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้จะนำไปใช้รองรับการขยายธุรกิจทั้งจำนวน ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะ ทำให้ผลประกอบการของ AKP มีทิศทางการเติบโตอย่างชัดเจนจึงเชื่อว่าปัจจัยเหล่านี้จะสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนจนทำให้ เข้ามาซื้อหุ้นในกระดานเพิ่มเติมเพื่อลงทุนหวังผลตอบแทนในระยะยาว” นายวันชัยกล่าว
เขากล่าวเพิ่มเติมอีกว่า นอกจากนั้น จากความประสงค์ในการจองซื้อหุ้นไอพีโอในช่วงที่ผ่านมา ทั้งในส่วนของผู้ถือหุ้นบริษัท เบตเตอร์ เวิลด์ กรีน จำกัด (มหาชน) และนักลงทุนทั่วไป ที่ล้นเกินจำนวนหุ้นที่จัดสรร แสดงให้เห็นถึงความมั่นใจในบริษัท อัคคีปราการ จำกัด (มหาชน) เป็นอย่างดี ซึ่งส่วนหนึ่ง คาดว่าเป็นผลมาจากที่บริษัทฯ ได้จัดนำเสนอข้อมูลต่อนักลงทุน (โรดโชว์) ในช่วงที่ผ่านมา จึงทำให้นักลงทุนได้รับรู้ข้อมูลของบริษัทฯ เป็นอย่างดี โดยเฉพาะโอกาสทางธุรกิจ ที่จะเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมากภายหลังการเปิด ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในปี 2558 เพราะจะทำให้สามารถรองรับกากอุตสาหกรรมอันตรายที่เคยถูกส่งกลับไปทำลายยังประเทศผู้ผลิต ทั้งยุโรป ญี่ปุ่น และ อเมริกา เข้ามากำจัดในประเทศไทยแทนได้จากประสิทธิภาพของเตาเผาที่เป็นมาตรฐานเดียวกับประเทศผู้ผลิตดังกล่าว ในขณะที่ค่าใช้จ่ายในการกำจัดกากอุตสาหกรรมอันตรายจะถูกกว่าค่าใช้จ่ายที่ต้องส่งกลับไปทำลายในประเทศผู้ผลิตมากกว่าเท่าตัว ซึ่งจะเพิ่มโอกาสการเติบโตทางธุรกิจให้กับบริษัทฯ ได้อย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งเชื่อว่าปัจจัยเหล่านี้ได้สร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุน และมั่นใจว่าหลังเข้าทำการซื้อขาย AKP จะไม่ทำให้ผู้ลงทุนผิดหวัง
ระดมทุน 168 ล้านบาทเพื่อขยายกิจการ
นายชนิตร ชาญชัยณรงค์ ผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เปิดเผยว่า บมจ. อัคคีปราการ (AKP) จะเข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ mai ในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2556 นี้ โดย AKP เป็นบริษัทย่อยของ บมจ. เบตเตอร์ เวิลด์ กรีน (BWG) ที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ที่เล็งเห็นความสำคัญในการสร้างความแข็งแกร่งทางการเงิน และเพิ่มความคล่องตัวในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนของบริษัทย่อย จึงนำบริษัทย่อยเข้าจดทะเบียน (Spin off) เพื่อเพิ่มโอกาสในการขยายธุรกิจ
AKP ได้รับสิทธิจากกรมโรงงานอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม ให้บริหารและประกอบการศูนย์บริหารจัดการวัสดุเหลือใช้อุตสาหกรรม หรือเตาเผาขยะอุตสาหกรรม อำเภอบางปู จังหวัดสมุทรปราการ โดยมีระยะเวลาการบริหารและประกอบการศูนย์ฯ เป็นเวลา 20 ปี (สิ้นสุดวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2571) และมีสิทธิขอต่ออายุสัญญาได้อีก 10 ปี ซึ่งศูนย์ฯ ถือเป็นเตาเผาแห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทยที่สามารถเผาขยะอุตสาหกรรมอันตรายทั้งในรูปก๊าซ ของเหลว กากตะกอน ของแข็ง และขยะติดเชื้อ โดยมีความสามารถให้บริการกำจัดสิ่งปฏิกูลทั้งที่อันตรายและไม่อันตรายได้ 120,000 ตันต่อปี
โดย AKP มีทุนชำระแล้ว 202 ล้านบาท มีมูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.5 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 320 ล้านหุ้นและหุ้นสามัญเพิ่มทุน 84 ล้านหุ้น โดยบริษัทเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อผู้ถือหุ้น BWG จำนวน 21 ล้านหุ้น เมื่อ 23 - 25 มกราคม 2556 และเสนอขายหุ้นต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวน 63 ล้านหุ้น เมื่อวันที่ 28 - 30 มกราคม 2556 ในราคาหุ้นละ 2 บาท คิดเป็นมูลค่าระดมทุนรวม 168 ล้านบาท โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ คันทรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน ผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย
ที่ปรึกษาฯชี้พื้นฐานแกร่ง-พีอีต่ำเพียง 11 เท่า
นายชูพงศ์ ธนเศรษฐกร กรรมการผู้จัดการสายวาณิชธนกิจ บล.คันทรี่กรุ๊ป ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน AKP เปิดเผยกับ eFinanceThai.com ว่า มีความมั่นใจมากว่าราคาหุ้นของบริษัท อัคคีปราการ(AKP) ที่จะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) เป็นวันแรกจะสูงกว่าราคาจองที่ 2 บาทต่อหุ้น เนื่องจากที่ผ่านมาได้มีการโรดโชว์ให้กับนักลงทุน ซึ่งก็ได้รับการตอบรับที่ดีมาก จากความต้องการที่สูง เพราะบริษัท AKP มีพื้นฐานที่ดี โดยดำเนินธุรกิจเตาเผากำจัดกากอุตสาหกรรมอันตราย ซึ่งมีอยู่แห่งเดียวทั้งในประเทศไทยและในอาเซียน ทำให้เป็นธุรกิจที่ผูกขาดในแง่ของการตลาด
ขณะเดียวกันราคาหุ้นก็ยังมีส่วนลดกว่า 30% โดยมี P/E อยู่ที่ประมาณ 11 เท่า และหากเทียบกับ P/E โดยเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ mai แล้วอยู่ที่ 20-30 เท่า อย่างไรก็ตามสำหรับสัดส่วนของหุ้นได้แบ่งเป็นผู้มีอุปการคุณประมาณ 40% และประชาชนทั่วไป 60% ของหุ้นทั้งหมด
"ราคาเหมาะสมผมก็คงบอกไม่ได้ คงต้องไปประเมินเอาเอง เพราะ P/E เฉลี่ยของตลาด mai ตอนนี้ก็สูง แต่ราคาจองมี P/E อยู่ที่ 11 เท่า ซึ่งบริษัท AKP ก็มีพื้นฐานการดำเนินงานที่ดี และที่ผ่านมาจากการโรดโชว์ได้รับการตอบรับที่ดีมากจากนักลงทุน ทำให้หุ้นมีไม่เพียงพอต่อความต้องการ" นายชูพงศ์ กล่าว
อนึ่ง บริษัทหลักทรัพย์ คันทรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CGS เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย หุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท อัคคีปราการ จำกัด (มหาชน)
AKP เข้าเทรดพรุ่งนี้ ใครคิดว่าจะซื้อ ควรอ่านไว้ก่อนครับ
บริษัท อัคคีปราการ จำกัด (มหาชน) (AKP) ผู้ประกอบธุรกิจเตาเผาขยะอุตสาหกรรมหนึ่งเดียวในไทย ได้ฤกษ์เข้าเทรดวันแรกใน mai วันที่ 7 ก.พ. นี้ ผู้บริหาร มั่นใจราคายืนเหนือจองที่ 2 บาท/หุ้น พร้อมชี้ทิศทางธุรกิจเติบโตโดดเด่น เหตุไร้คู่แข่ง ลั่นจ่ายปันผล 50% ของกำไรสุทธิ ที่ปรึกษาทางการเงินชี้พื้นฐานแกร่ง พีอีต่ำเพียง 11 เท่า
รู้จัก AKP ผู้ประกอบธุรกิจ เตาเผาขยะอุตสาหกรรม หนึ่งเดียวในไทย
บริษัท อัคคีปราการ จำกัด (มหาชน) หรือ AKPเป็นผู้ประกอบธุรกิจในการบริหารและประกอบการ ศูนย์บริหารจัดการวัสดุเหลือใช้อุตสาหกรรม (เตาเผาขยะอุตสาหกรรม) บางปู จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งจัดสร้างโดยกรมโรงงานอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม มูลค่าโครงการรวมที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง 1,408 ล้านบาท ซึ่งวัตถุประสงค์หลักของกรมโรงงานอุตสาหกรรม ในการจัดสร้างเตาเผาขยะอุตสาหกรรมแห่งนี้เพื่อเป็นโครงการนำร่องในการกำจัดกากอุตสาหกรรมอันตรายให้เป็นไปอย่างถูกวิธีปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อม
สำหรับเตาเตาเผาขยะอุตสาหกรรมอัคคีปราการ ถือเป็นเตากำจัดกากอุตสาหกรรมอันตรายที่ปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อมแห่งเดียวในประเทศไทย และภูมิภาคอาเซียน เนื่องจากเป็นเตาที่ลงทุนสูงกว่า 1,400 ล้านบาท ในขณะที่การบริหารจัดการจำเป็นต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ในธุรกิจเป็นอย่างดี จึงถือเป็นธุรกิจที่ไม่มีคู่แข่งขันโดยตรงในตลาด การขยายฐานธุรกิจจึงอาศัยเพียงกระจายความรู้เรื่องการเผาทำลายกากอุตสาหกรรมอันตรายด้วยเตาความร้อนสูงโดยไม่ก่อให้เกิดมลพิษของเตาอัคคีปราการให้ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายได้ทราบโดยทั่วถึงกันเท่านั้น
ผู้บริหาร มั่นใจ เทรดวันแรกยืนเหนือจองที่ 2 บาท/หุ้น
นายวันชัย เหลืองวิริยะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อัคคีปราการ จำกัด (มหาชน) (AKP) เปิดเผยถึง การซื้อขายหุ้น AKP วันแรกในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ นี้ ว่ามั่นใจว่าหุ้น AKP ที่เข้าซื้อขายวันแรกจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากนักลงทุน ทำให้สามารถยืนเหนือราคาจองที่ 2 บาท/หุ้นได้ เนื่องจากบริษัทฯ มีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง มีทิศทางการเติบโต ในอัตราที่โดดเด่นชัดเจนและต่อเนื่อง จากธุรกิจบริหารจัดการวัสดุเหลือใช้อุตสาหกรรม(เตาเผาขยะอุตสาหกรรม) บางปู จ.สมุทรปราการ ซึ่งเป็นเตากำจัดกากอุตสาหกรรมอันตรายด้วยวิธีการเผาด้วยความร้อนสูงที่ปลอดภัยต่อ
สิ่งแวดล้อมแห่งเดียวในประเทศไทย และภูมิภาคอาเซียน ทำให้ไม่มีคู่แข่งทางธุรกิจโดยตรง ประกอบกับ ภาครัฐได้บังคับใช้กฎหมายให้โรงงานอุตสาหกรรมทั่วประเทศ หันมากำจัดกากอุตสาหกรรม ด้วยวิธีที่ถูกต้องอย่างเข้มงวดยิ่งขึ้น จึงทำให้ลูกค้าเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ สะท้อนให้ผลประกอบการเติบโตได้อย่างต่อเนื่องดังกล่าว
“มั่นใจว่าหุ้น AKP จะได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดีจากนักลงทุน จนยืนเหนือราคาจองได้ เพราะนอกจากเราจะเป็นบริษัทฯ ที่มีผลประกอบการเติบโตในอัตราที่ดีแล้ว เรายังยืนยันจะเป็นบริษัทฯ ที่จ่าย ปันผลตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้นในอัตราที่ดีถึง 50% ของกำไรสุทธิด้วย ประกอบกับเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้จะนำไปใช้รองรับการขยายธุรกิจทั้งจำนวน ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะ ทำให้ผลประกอบการของ AKP มีทิศทางการเติบโตอย่างชัดเจนจึงเชื่อว่าปัจจัยเหล่านี้จะสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนจนทำให้ เข้ามาซื้อหุ้นในกระดานเพิ่มเติมเพื่อลงทุนหวังผลตอบแทนในระยะยาว” นายวันชัยกล่าว
เขากล่าวเพิ่มเติมอีกว่า นอกจากนั้น จากความประสงค์ในการจองซื้อหุ้นไอพีโอในช่วงที่ผ่านมา ทั้งในส่วนของผู้ถือหุ้นบริษัท เบตเตอร์ เวิลด์ กรีน จำกัด (มหาชน) และนักลงทุนทั่วไป ที่ล้นเกินจำนวนหุ้นที่จัดสรร แสดงให้เห็นถึงความมั่นใจในบริษัท อัคคีปราการ จำกัด (มหาชน) เป็นอย่างดี ซึ่งส่วนหนึ่ง คาดว่าเป็นผลมาจากที่บริษัทฯ ได้จัดนำเสนอข้อมูลต่อนักลงทุน (โรดโชว์) ในช่วงที่ผ่านมา จึงทำให้นักลงทุนได้รับรู้ข้อมูลของบริษัทฯ เป็นอย่างดี โดยเฉพาะโอกาสทางธุรกิจ ที่จะเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมากภายหลังการเปิด ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในปี 2558 เพราะจะทำให้สามารถรองรับกากอุตสาหกรรมอันตรายที่เคยถูกส่งกลับไปทำลายยังประเทศผู้ผลิต ทั้งยุโรป ญี่ปุ่น และ อเมริกา เข้ามากำจัดในประเทศไทยแทนได้จากประสิทธิภาพของเตาเผาที่เป็นมาตรฐานเดียวกับประเทศผู้ผลิตดังกล่าว ในขณะที่ค่าใช้จ่ายในการกำจัดกากอุตสาหกรรมอันตรายจะถูกกว่าค่าใช้จ่ายที่ต้องส่งกลับไปทำลายในประเทศผู้ผลิตมากกว่าเท่าตัว ซึ่งจะเพิ่มโอกาสการเติบโตทางธุรกิจให้กับบริษัทฯ ได้อย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งเชื่อว่าปัจจัยเหล่านี้ได้สร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุน และมั่นใจว่าหลังเข้าทำการซื้อขาย AKP จะไม่ทำให้ผู้ลงทุนผิดหวัง
ระดมทุน 168 ล้านบาทเพื่อขยายกิจการ
นายชนิตร ชาญชัยณรงค์ ผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เปิดเผยว่า บมจ. อัคคีปราการ (AKP) จะเข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ mai ในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2556 นี้ โดย AKP เป็นบริษัทย่อยของ บมจ. เบตเตอร์ เวิลด์ กรีน (BWG) ที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ที่เล็งเห็นความสำคัญในการสร้างความแข็งแกร่งทางการเงิน และเพิ่มความคล่องตัวในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนของบริษัทย่อย จึงนำบริษัทย่อยเข้าจดทะเบียน (Spin off) เพื่อเพิ่มโอกาสในการขยายธุรกิจ
AKP ได้รับสิทธิจากกรมโรงงานอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม ให้บริหารและประกอบการศูนย์บริหารจัดการวัสดุเหลือใช้อุตสาหกรรม หรือเตาเผาขยะอุตสาหกรรม อำเภอบางปู จังหวัดสมุทรปราการ โดยมีระยะเวลาการบริหารและประกอบการศูนย์ฯ เป็นเวลา 20 ปี (สิ้นสุดวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2571) และมีสิทธิขอต่ออายุสัญญาได้อีก 10 ปี ซึ่งศูนย์ฯ ถือเป็นเตาเผาแห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทยที่สามารถเผาขยะอุตสาหกรรมอันตรายทั้งในรูปก๊าซ ของเหลว กากตะกอน ของแข็ง และขยะติดเชื้อ โดยมีความสามารถให้บริการกำจัดสิ่งปฏิกูลทั้งที่อันตรายและไม่อันตรายได้ 120,000 ตันต่อปี
โดย AKP มีทุนชำระแล้ว 202 ล้านบาท มีมูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.5 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 320 ล้านหุ้นและหุ้นสามัญเพิ่มทุน 84 ล้านหุ้น โดยบริษัทเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อผู้ถือหุ้น BWG จำนวน 21 ล้านหุ้น เมื่อ 23 - 25 มกราคม 2556 และเสนอขายหุ้นต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวน 63 ล้านหุ้น เมื่อวันที่ 28 - 30 มกราคม 2556 ในราคาหุ้นละ 2 บาท คิดเป็นมูลค่าระดมทุนรวม 168 ล้านบาท โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ คันทรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน ผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย
ที่ปรึกษาฯชี้พื้นฐานแกร่ง-พีอีต่ำเพียง 11 เท่า
นายชูพงศ์ ธนเศรษฐกร กรรมการผู้จัดการสายวาณิชธนกิจ บล.คันทรี่กรุ๊ป ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน AKP เปิดเผยกับ eFinanceThai.com ว่า มีความมั่นใจมากว่าราคาหุ้นของบริษัท อัคคีปราการ(AKP) ที่จะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) เป็นวันแรกจะสูงกว่าราคาจองที่ 2 บาทต่อหุ้น เนื่องจากที่ผ่านมาได้มีการโรดโชว์ให้กับนักลงทุน ซึ่งก็ได้รับการตอบรับที่ดีมาก จากความต้องการที่สูง เพราะบริษัท AKP มีพื้นฐานที่ดี โดยดำเนินธุรกิจเตาเผากำจัดกากอุตสาหกรรมอันตราย ซึ่งมีอยู่แห่งเดียวทั้งในประเทศไทยและในอาเซียน ทำให้เป็นธุรกิจที่ผูกขาดในแง่ของการตลาด
ขณะเดียวกันราคาหุ้นก็ยังมีส่วนลดกว่า 30% โดยมี P/E อยู่ที่ประมาณ 11 เท่า และหากเทียบกับ P/E โดยเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ mai แล้วอยู่ที่ 20-30 เท่า อย่างไรก็ตามสำหรับสัดส่วนของหุ้นได้แบ่งเป็นผู้มีอุปการคุณประมาณ 40% และประชาชนทั่วไป 60% ของหุ้นทั้งหมด
"ราคาเหมาะสมผมก็คงบอกไม่ได้ คงต้องไปประเมินเอาเอง เพราะ P/E เฉลี่ยของตลาด mai ตอนนี้ก็สูง แต่ราคาจองมี P/E อยู่ที่ 11 เท่า ซึ่งบริษัท AKP ก็มีพื้นฐานการดำเนินงานที่ดี และที่ผ่านมาจากการโรดโชว์ได้รับการตอบรับที่ดีมากจากนักลงทุน ทำให้หุ้นมีไม่เพียงพอต่อความต้องการ" นายชูพงศ์ กล่าว
อนึ่ง บริษัทหลักทรัพย์ คันทรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CGS เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย หุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท อัคคีปราการ จำกัด (มหาชน)