การทำ กายคตาสติ ตามนัยแห่งอานาปานสติสูตร
(๑๔/๑๙๖/๒๘๙)
พระสูตรนี้ ตรัส อานาบรรพ ๔ ข้อ แล้วตรัสว่า
ภิกษุทั้งหลาย
สมัยนั้น ภิกษุชื่อว่า เป็นผู้ตามเห็นกายในกาย อยู่เป็นประจำ มีความเพียรเผากิเลส มีสัมปชัญยะ มีสติ นำอภิชฌาและโทมนัสในโลก ออกเสียใด
ภิกษุทั้งหลาย
เราย่อมกล่าว ลมหายใจเข้าและลมหายใจออก ว่าเป็นกายอย่างหนึ่ง ใน กาย (หมู่แห่งธรรม) ทั้งหลาย
ภิกษุทั้งหลาย เพราะเหตุนั้น ในเรื่องนี้
ภิกษุนั้น ย่อมชื่อว่า เป็นผู้ตามเห็นซึ่ง กายในกาย อยู่เป็นประจำ (เห็นอย่างไร? เห็นอะไร?)
มีความเพียรเผากิเลส มีสัมปชัญญะ มีสติ
นำอภิชฌาและโทมนัสในโลก ออกเสียได้ ในสมัยนั้น
^^^^
ย่อมชื่อว่า เป็นผู้ตามเห็นซึ่ง กายในกาย อยู่เป็นประจำ < ----- เห็นอย่างไร? เห็นอะไร? (ลมอย่างเดียว หรือไม่?)
เห็นกายในกาย ...อย่างไร?
(๑๔/๑๙๖/๒๘๙)
พระสูตรนี้ ตรัส อานาบรรพ ๔ ข้อ แล้วตรัสว่า
ภิกษุทั้งหลาย
สมัยนั้น ภิกษุชื่อว่า เป็นผู้ตามเห็นกายในกาย อยู่เป็นประจำ มีความเพียรเผากิเลส มีสัมปชัญยะ มีสติ นำอภิชฌาและโทมนัสในโลก ออกเสียใด
ภิกษุทั้งหลาย
เราย่อมกล่าว ลมหายใจเข้าและลมหายใจออก ว่าเป็นกายอย่างหนึ่ง ใน กาย (หมู่แห่งธรรม) ทั้งหลาย
ภิกษุทั้งหลาย เพราะเหตุนั้น ในเรื่องนี้
ภิกษุนั้น ย่อมชื่อว่า เป็นผู้ตามเห็นซึ่ง กายในกาย อยู่เป็นประจำ (เห็นอย่างไร? เห็นอะไร?)
มีความเพียรเผากิเลส มีสัมปชัญญะ มีสติ
นำอภิชฌาและโทมนัสในโลก ออกเสียได้ ในสมัยนั้น
^^^^
ย่อมชื่อว่า เป็นผู้ตามเห็นซึ่ง กายในกาย อยู่เป็นประจำ < ----- เห็นอย่างไร? เห็นอะไร? (ลมอย่างเดียว หรือไม่?)