เคยคิดมานานมากแล้วว่าจะแก้ปัญหารถติดในกรุงเทพฯได้ยังไง อันดับแรกเลยคนในเมืองมันเยอะเกิน เพราะความเจริญมันกระจุกตัวอยู่ในกรุงเทพฯซะส่วนใหญ่ หัวเมืองตามภาคอื่นๆก็พอโอเคแต่ก็ยังเทียบไม่ได้เสี้ยวของกรุงเทพฯ ทุกวันนี้อะไรๆก็กรุงเทพฯไปซะหมด คนจังหวัดอื่นๆก็เลยแห่กันเข้ามากรุงเทพฯกันใหญ่
ทำยังไงถึงจะเอาคนออกไปจากกทม.ได้ ก็คงต้องกระจายเศรษฐกิจและความเจริญออกไปยังจังหวัดอื่นๆ คนจะได้ไม่ต้องเข้ามาหางานในกทม. ตรงนี้ตามหลักการแล้วก็ไม่รู้ว่าจะต้องทำควบคู่ไปกับระบบรางอย่างพวกรถไฟความเร็วสูงระหว่างจังหวัดหรือไม่อย่างไร เพราะถ้าไม่มีการเชื่อมต่อทางระบบรางที่มีประสิทธิภาพแล้ว โอกาสที่เศรษฐกิจจะเดินก็คงยาก อาจจะต้องเริ่มจากขยายฐานเมืองของหัวเมืองใหญ่ๆของแต่ละภาคอย่างเชียงใหม่, ขอนแก่น, โคราช, ชลบุรี, สงขลาก่อน สร้าง infrastructure ในจังหวัดให้ดีๆ แล้วค่อยคิดขยายความเจริญจากจังหวัดหัวเมืองสู่จังหวัดข้างเคียงไปอีกทอด
เท่าที่เคยดูทีวีมา ยังไม่เคยเห็นพรรคไหนชูนโยบายกระจายเศรษฐกิจไปยังจังหวัดอื่นๆเลย (หรือผมอาจจะพลาดไป) ก็ไม่แน่ใจว่ามันจะไปกระทบการทำมาหากินในระบบใดของใครหรือเปล่า (รฟท. เป็นต้น) ทั้งๆที่เป็นสิ่งที่ควรจะต้องทำลำดับแรกๆ คือไม่ได้มองว่าจะทำเพื่อมาช่วยแก้ปัญหากรุงเทพฯซึ่งเป็นเพียงผลพลอยได้ แต่มันก็จะดีต่อตัวประเทศในระยะยาวด้วย ทั้งตลาดงาน การท่องเที่ยว เป็นต้น พรรคไหนชูนโยบายนี้แล้วทำได้ จะเลือกทุกสมัยเลย จริงๆ
ในกทม.เองก็ต้องสร้างระบบ public transport ที่มีประสิทธิภาพ และครอบคลุมทุกพื้นที่ มีรถเมล์เป็นระบบ feeder ให้ระบบราง อย่างที่อ.บอกในคลิป คนในเมืองใหญ่ๆลักษณะเป็น City อย่างกรุงเทพฯนี่ คนควรจะต้องใช้ระบบขนส่งมวลชนมากกว่าพาหนะส่วนตัวอย่างรถยนตร์, มอเตอร์ไซด์, หรือแม้กระทั่งจักรยาน
ปัญหาใหญ่ๆอีกข้อที่สำคัญเลยก็คือ 'ค่านิยม' ของคนไทย ที่เป็นวัตถุนิยม รวมทั้งใช้รถยนตร์เป็นเครื่องบ่งบอกฐานะของตัวเอง เค้าถึงมีวลีว่าชายใด 'หน้าตาดี มีรถขับ โทรศัพท์ถ่ายรูปได้' สาวก็มาติดแล้ว ไปถามคนหลายๆคนว่าจะทำอะไรอันดับแรกหลังจากเรียนจบก็คือ เก็บตังค์ซื้อรถ อีกทั้งนโยบายรถคันแรกนี่ยิ่งทำให้คนซื้อรถเอามาวิ่งเพิ่มเข้าไปอีก ไม่รู้ว่าคิดมาได้ไง
ก็เลยทำให้มาคิดว่า ถ้าทำ public transport ได้ครอบคลุมดีแล้ว คนกทม.มันจะหันมาใช้จริง (หรือเปล่าวะ) หรือว่าพอเห็นปริมาณรถน้อยลงแล้ว ถนนโล่งๆก็ยิ่งหันมาใช้รถกันเพิ่มเข้าไปอีก ตรงนี้ไม่รู้ว่าต้องไปแก้ระยะสั้นโดยเก็บภาษีรถเพิ่ม หรือเก็บค่าธรรมเนียมการเอารถมาวิ่งในเมืองในช่วง peak time แพงๆ อย่างลอนดอน เค้ามีเก็บ London congestion charge รู้สึกว่าจะ 10 ปอนด์ต่อวัน และแก้ระยะยาวโดยการปลูกฝังค่านิยมดีๆเข้าไปในหัวเด็ก
ทีนี้ถ้าปริมาณคนจากจังหวัดอื่นที่อพยพมากทม.ลดลงแล้ว จำนวนหาบแร่แผงลอยก็คงจะน้อยลง คงหาที่ลงให้รวบไปขายเป็นพื้นที่หรือตลาดเฉพาะได้ ต่อไปทางเท้าก็จะเป็นทางเท้าจริงๆ ดูจากพื้นที่ถนนในกทม.ที่น้อยมากๆแล้วคงจะไม่เหมาะที่จะใส่เลนจักรยานเข้าไปเพิ่มในถนนอีก ก็อาจจะต้องยกมาไว้ข้างบนร่วมกับทางเดินเท้าในกรุงเทพฯชั้นใน ส่วนกรุงเทพฯชั้นนอกถ้าปริมาณรถไม่มากก็อาจจะเอาไปใส่บนถนนใหญ่ใช้ร่วมกับรถยนตร์เพื่อจะได้ปั่นเร็วๆได้
รวมทั้งทำที่จอดจักรยานสำหรับคนที่ปั่นมาจอดหน้าซอยเพื่อขึ้น public transport ด้วย ส่วนเรื่องไอเดียว่าจะจอดยังไงไม่ให้หายนั่นก็เป็นอีกเรื่องที่ต้องไปว่ากันครับ
การจะมาเอาเลนจักรยานในขณะที่ปัญหามันยังหมกๆสะสมกันอยู่แบบ ณ ปัจจุบันนี้ผมว่ายังไม่เหมาะสมครับ ปัญหามันควรจะแก้ไปเป็นเปลาะๆ
ถึงตอนนี้จะแก้ปัญหารถติดในกรุงเทพฯ ส่วนตัวแล้วคิดว่ามันต้องไปแก้ที่นโยบายระดับชาติแล้วมั๊ง ซึ่งมันก็จะเป็นผลดีในทางเศรษฐกิจและการศึกษากับจังหวัดอื่นๆด้วย คนกรุงทุกวันนี้คงจะรู้สึกเหมือนๆกันว่าคนมันเยอะเกินไปแล้ว คนจังหวัดอื่นๆก็คงคิดว่าไรฟระ อะไรๆแม่มก็กรุงเทพฯ
อ้ออีกอันคือเพิ่มเงินเดือนครู คนเก่งๆจะได้หันมาเป็นครูเยอะๆ คนในจังหวัดอื่นๆก็ไม่ต้องเข้าไปเรียนในกทม.อีก เด็กในกทม.ก็จะได้ไม่ต้องนั่งรถพ่อแม่ข้ามเมืองไปเรียนรร.ดังๆ เพราะมาตรฐานรร.ใกล้กัน เลือกเรียนใกล้บ้านดีกว่า นอกจากนี้ผลดีของการกระจายเศรษฐกิจยังช่วยแก้ระบบสาธารณสุขที่หมอไม่ค่อยพอตามต่างจังหวัดได้อีกด้วย เพราะเมืองที่กันดารๆ ใครมันจะไปอยากอยู่ คนไข้ก็เยอะเพราะความรู้น้อยไม่ค่อยรักษาสุขภาพ มันก็ต้องป่วยบ่อยเป็นธรรมดา หมอก็น้อย สุดท้ายหมอก็ลาออกมาอยู่กทม.หมดสิครับ
ทั้งหมดนี้มันก็ based on เงินทั้งนั้นล่ะนะครับ ถ้าไม่มีปัญหาคอรัปชั่น คงเอาเงินมาพัฒนาอะไรๆได้อีกเยอะ ถือว่ามาฟังผมบ่นแล้วกันน่ะครับ ใครอยากจะวิจารณ์ จะเสริมไอเดียอะไร หรือจะด่าผมก็ตามแต่สะดวกครับ
VIDEO
=== แก้ปัญหารถติด และกรุงเทพฯยังไม่เหมาะกับการปั่นจักรยาน ===
ทำยังไงถึงจะเอาคนออกไปจากกทม.ได้ ก็คงต้องกระจายเศรษฐกิจและความเจริญออกไปยังจังหวัดอื่นๆ คนจะได้ไม่ต้องเข้ามาหางานในกทม. ตรงนี้ตามหลักการแล้วก็ไม่รู้ว่าจะต้องทำควบคู่ไปกับระบบรางอย่างพวกรถไฟความเร็วสูงระหว่างจังหวัดหรือไม่อย่างไร เพราะถ้าไม่มีการเชื่อมต่อทางระบบรางที่มีประสิทธิภาพแล้ว โอกาสที่เศรษฐกิจจะเดินก็คงยาก อาจจะต้องเริ่มจากขยายฐานเมืองของหัวเมืองใหญ่ๆของแต่ละภาคอย่างเชียงใหม่, ขอนแก่น, โคราช, ชลบุรี, สงขลาก่อน สร้าง infrastructure ในจังหวัดให้ดีๆ แล้วค่อยคิดขยายความเจริญจากจังหวัดหัวเมืองสู่จังหวัดข้างเคียงไปอีกทอด
เท่าที่เคยดูทีวีมา ยังไม่เคยเห็นพรรคไหนชูนโยบายกระจายเศรษฐกิจไปยังจังหวัดอื่นๆเลย (หรือผมอาจจะพลาดไป) ก็ไม่แน่ใจว่ามันจะไปกระทบการทำมาหากินในระบบใดของใครหรือเปล่า (รฟท. เป็นต้น) ทั้งๆที่เป็นสิ่งที่ควรจะต้องทำลำดับแรกๆ คือไม่ได้มองว่าจะทำเพื่อมาช่วยแก้ปัญหากรุงเทพฯซึ่งเป็นเพียงผลพลอยได้ แต่มันก็จะดีต่อตัวประเทศในระยะยาวด้วย ทั้งตลาดงาน การท่องเที่ยว เป็นต้น พรรคไหนชูนโยบายนี้แล้วทำได้ จะเลือกทุกสมัยเลย จริงๆ
ในกทม.เองก็ต้องสร้างระบบ public transport ที่มีประสิทธิภาพ และครอบคลุมทุกพื้นที่ มีรถเมล์เป็นระบบ feeder ให้ระบบราง อย่างที่อ.บอกในคลิป คนในเมืองใหญ่ๆลักษณะเป็น City อย่างกรุงเทพฯนี่ คนควรจะต้องใช้ระบบขนส่งมวลชนมากกว่าพาหนะส่วนตัวอย่างรถยนตร์, มอเตอร์ไซด์, หรือแม้กระทั่งจักรยาน
ปัญหาใหญ่ๆอีกข้อที่สำคัญเลยก็คือ 'ค่านิยม' ของคนไทย ที่เป็นวัตถุนิยม รวมทั้งใช้รถยนตร์เป็นเครื่องบ่งบอกฐานะของตัวเอง เค้าถึงมีวลีว่าชายใด 'หน้าตาดี มีรถขับ โทรศัพท์ถ่ายรูปได้' สาวก็มาติดแล้ว ไปถามคนหลายๆคนว่าจะทำอะไรอันดับแรกหลังจากเรียนจบก็คือ เก็บตังค์ซื้อรถ อีกทั้งนโยบายรถคันแรกนี่ยิ่งทำให้คนซื้อรถเอามาวิ่งเพิ่มเข้าไปอีก ไม่รู้ว่าคิดมาได้ไง
ก็เลยทำให้มาคิดว่า ถ้าทำ public transport ได้ครอบคลุมดีแล้ว คนกทม.มันจะหันมาใช้จริง (หรือเปล่าวะ) หรือว่าพอเห็นปริมาณรถน้อยลงแล้ว ถนนโล่งๆก็ยิ่งหันมาใช้รถกันเพิ่มเข้าไปอีก ตรงนี้ไม่รู้ว่าต้องไปแก้ระยะสั้นโดยเก็บภาษีรถเพิ่ม หรือเก็บค่าธรรมเนียมการเอารถมาวิ่งในเมืองในช่วง peak time แพงๆ อย่างลอนดอน เค้ามีเก็บ London congestion charge รู้สึกว่าจะ 10 ปอนด์ต่อวัน และแก้ระยะยาวโดยการปลูกฝังค่านิยมดีๆเข้าไปในหัวเด็ก
ทีนี้ถ้าปริมาณคนจากจังหวัดอื่นที่อพยพมากทม.ลดลงแล้ว จำนวนหาบแร่แผงลอยก็คงจะน้อยลง คงหาที่ลงให้รวบไปขายเป็นพื้นที่หรือตลาดเฉพาะได้ ต่อไปทางเท้าก็จะเป็นทางเท้าจริงๆ ดูจากพื้นที่ถนนในกทม.ที่น้อยมากๆแล้วคงจะไม่เหมาะที่จะใส่เลนจักรยานเข้าไปเพิ่มในถนนอีก ก็อาจจะต้องยกมาไว้ข้างบนร่วมกับทางเดินเท้าในกรุงเทพฯชั้นใน ส่วนกรุงเทพฯชั้นนอกถ้าปริมาณรถไม่มากก็อาจจะเอาไปใส่บนถนนใหญ่ใช้ร่วมกับรถยนตร์เพื่อจะได้ปั่นเร็วๆได้
รวมทั้งทำที่จอดจักรยานสำหรับคนที่ปั่นมาจอดหน้าซอยเพื่อขึ้น public transport ด้วย ส่วนเรื่องไอเดียว่าจะจอดยังไงไม่ให้หายนั่นก็เป็นอีกเรื่องที่ต้องไปว่ากันครับ
การจะมาเอาเลนจักรยานในขณะที่ปัญหามันยังหมกๆสะสมกันอยู่แบบ ณ ปัจจุบันนี้ผมว่ายังไม่เหมาะสมครับ ปัญหามันควรจะแก้ไปเป็นเปลาะๆ
ถึงตอนนี้จะแก้ปัญหารถติดในกรุงเทพฯ ส่วนตัวแล้วคิดว่ามันต้องไปแก้ที่นโยบายระดับชาติแล้วมั๊ง ซึ่งมันก็จะเป็นผลดีในทางเศรษฐกิจและการศึกษากับจังหวัดอื่นๆด้วย คนกรุงทุกวันนี้คงจะรู้สึกเหมือนๆกันว่าคนมันเยอะเกินไปแล้ว คนจังหวัดอื่นๆก็คงคิดว่าไรฟระ อะไรๆแม่มก็กรุงเทพฯ
อ้ออีกอันคือเพิ่มเงินเดือนครู คนเก่งๆจะได้หันมาเป็นครูเยอะๆ คนในจังหวัดอื่นๆก็ไม่ต้องเข้าไปเรียนในกทม.อีก เด็กในกทม.ก็จะได้ไม่ต้องนั่งรถพ่อแม่ข้ามเมืองไปเรียนรร.ดังๆ เพราะมาตรฐานรร.ใกล้กัน เลือกเรียนใกล้บ้านดีกว่า นอกจากนี้ผลดีของการกระจายเศรษฐกิจยังช่วยแก้ระบบสาธารณสุขที่หมอไม่ค่อยพอตามต่างจังหวัดได้อีกด้วย เพราะเมืองที่กันดารๆ ใครมันจะไปอยากอยู่ คนไข้ก็เยอะเพราะความรู้น้อยไม่ค่อยรักษาสุขภาพ มันก็ต้องป่วยบ่อยเป็นธรรมดา หมอก็น้อย สุดท้ายหมอก็ลาออกมาอยู่กทม.หมดสิครับ
ทั้งหมดนี้มันก็ based on เงินทั้งนั้นล่ะนะครับ ถ้าไม่มีปัญหาคอรัปชั่น คงเอาเงินมาพัฒนาอะไรๆได้อีกเยอะ ถือว่ามาฟังผมบ่นแล้วกันน่ะครับ ใครอยากจะวิจารณ์ จะเสริมไอเดียอะไร หรือจะด่าผมก็ตามแต่สะดวกครับ