ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่า กทม. ของพรรคเพื่อไทย ประกาศนโยบายจะให้ขึ้นรถเมล์ฟรี ผู้คนจี๊ดจ๊าด เห็นท่านโหนรถขยะแล้ว ก็รออยู่ว่าท่านจะประกาศนโยบาย คน กทม.ไม่ต้องเสียค่าเก็บขยะเมื่อใด !
เมื่อ “ว่าที่ ผู้ว่ากทม.” ประกาศไปแล้ว รัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมกลับออกมาบอกว่า กระทรวงคมนาคมไม่เกี่ยว ถ้าจะให้รถเมล์ฟรี กทม.ก็ต้องจ่ายเงินให้ ขสมก.เอง
คิดทีเล่นทีจริงว่ารัฐบาลยอมแบกรับงบประมาณของรถเมล์ แล้วให้รถเมล์ในกทม. (ไม่ต้องถึงปริมณฑล) โดยสารฟรี
ไม่ใช่เรื่องบ้า
เพราะหนึ่ง น่าจะลดเบาปัญหารถติดลงได้
สอง จะเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวกันมโหฬาร
มืองกุ้ยหลิน ที่ว่ากันว่างดงามเหมือนสวรรค์บนดิน ดึงดูดเงินจากนักท่องเที่ยวได้มหาศาล รถเมล์ในเมืองเขาขึ้นฟรี ใครๆ ไปเที่ยวก็ชมเชยรัฐบาลเมือง(รัฐบาลท้องถิ่นเขา) มาตรการนี้สร้างความรู้สึกที่ดีให้แก่ ชาวกุ้ยหลินและนักท่องเที่ยว
ที่กรุงโรม เมื่อ พ.ศ 2514 เขาแก้ปัญหาการจราจรติดขัด ด้วยวิธีให้ขึ้นรถเมล์ฟรี
“ เทศบาลกรุงโรมเกิดคิดตกขึ้นมาว่า ที่จราจรติดขัดอย่างนั้นก็เพราะรถต่าง ๆ ที่แล่นอยู่ในกรุงโรมนั้นมีมากไป และมีหลายชนิดเช่น
รถประจำทาง รถแท้กซี่ รถนั่งส่วนตัว รถบรรทุก ถ้าหากว่าทำให้รถเหล่านี้ออกแล่นในกรุงโรมให้ทันน้อยลง การจราจรก็จะไม่ติดขัด
จะทำอย่างไรดี
จะห้ามรถต่าง ๆ เป็นบางชนิดก็ไม่ได้ เพราะขัดเสรีภาพ และคนจะร้องมาก
เทศบาลกรุงโรมเล็งเห็นว่า ถ้าหากทำอย่างไรให้รถประจำทางเป็นการคมนาคมแต่อย่างเดียวหรือเกือบจะอย่างเดียวในกรุงโรมแล้ว ปัญหาจราจรก็จะแก้ได้
เมื่อคิดอย่างนี้แล้ว เทศบาลกรุงโรมก็จะสั่งให้รถประจำทางทุกสายรับผู้โดยสารฟรี ไม่คิดค่าโดยสารแต่อย่างใดทั้งสิ้น
บังเกิดผลทันตาเห็น ถนนต่างๆ ในกรุงโรมว่างลงทันที เพราะรถแท้กซี่ออกวิ่งไม่ได้เลย ไม่มีใครขึ้น รถส่วนตัวก็หายไป เพราะเจ้าของรถเสียดายค่าน้ำมัน จะไปไหนขึ้นรถประจำทางฟรีเอาดีกว่า คงเหลือวิ่งอยู่แต่รถประจำทางและรถบรรทุกของ
รถส่วนตัวนั้นเหลือแต่เพียงประปราย ไม่เป็นปัญหาอีกต่อไป......
แล้วรถประจำทางที่วิ่งฟรีนั้น จะทำอย่างไร
ปัญหานี้เทศบาลกรุงโรมตอบไว้น่าฟังว่า
รถประจำทางทุกสายนั้นร้องกันมาหนักหนานมนานแล้วว่า ขาดทุน ๆ ๆ
เพราะฉะนั้น การรับคนโดยสารฟรีก็จะต้องทำให้ขาดทุนเพิ่มขึ้น ซึ่งก็ไม่น่าจะเดือดร้อนอย่างไร เพราะขาดทุนมานานแล้ว ขาดทุนต่อไปอีกก็ได้
การขาดทุนนั้นทำให้รถประจำทางต้องเป็นหนี้สิน ข้อนี้เทศบาลก็ยอมรับ แต่เมื่อขาดทุนมานาน ก็ย่อมจะต้องเป็นหนี้สินมานานแล้ว
จะต้องเป็นหนี้สินต่อไป เพราะต้องรับคนโดยสารฟรี ก็ไม่เห็นจะเป็นไรนี่ ดูแต่เทศบาลกรุงโรมเถิด เป็นหนี้สินอยู่มิรู้ว่ากี่หมื่นล้านแล้ว หนี้เช่นนั้นไม่มีทางจะใช้ได้ เมื่อใช้ไม่ได้ก็ต้องเป็นหนี้กันต่อไป และกู้หนี้มาทำเทศบาลต่อไป เพราะเทศบาลเลิกไม่ได้ รถประจำทางก็เลิกไม่ได้ ฉันใดก็ฉันนั้น” (“คึกฤทธิ์ ปราโมช” “สยามรัฐหน้าห้า”วันที่ 13 มกราคม 2514 )
ที่มา :
http://www.siamrath.co.th/web/?q=node/283775
รถเมล์ฟรี.....คึกฤทธิ์ ปราโมช!!! สยามรัฐออนไลน์
เมื่อ “ว่าที่ ผู้ว่ากทม.” ประกาศไปแล้ว รัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมกลับออกมาบอกว่า กระทรวงคมนาคมไม่เกี่ยว ถ้าจะให้รถเมล์ฟรี กทม.ก็ต้องจ่ายเงินให้ ขสมก.เอง
คิดทีเล่นทีจริงว่ารัฐบาลยอมแบกรับงบประมาณของรถเมล์ แล้วให้รถเมล์ในกทม. (ไม่ต้องถึงปริมณฑล) โดยสารฟรี
ไม่ใช่เรื่องบ้า
เพราะหนึ่ง น่าจะลดเบาปัญหารถติดลงได้
สอง จะเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวกันมโหฬาร
มืองกุ้ยหลิน ที่ว่ากันว่างดงามเหมือนสวรรค์บนดิน ดึงดูดเงินจากนักท่องเที่ยวได้มหาศาล รถเมล์ในเมืองเขาขึ้นฟรี ใครๆ ไปเที่ยวก็ชมเชยรัฐบาลเมือง(รัฐบาลท้องถิ่นเขา) มาตรการนี้สร้างความรู้สึกที่ดีให้แก่ ชาวกุ้ยหลินและนักท่องเที่ยว
ที่กรุงโรม เมื่อ พ.ศ 2514 เขาแก้ปัญหาการจราจรติดขัด ด้วยวิธีให้ขึ้นรถเมล์ฟรี
“ เทศบาลกรุงโรมเกิดคิดตกขึ้นมาว่า ที่จราจรติดขัดอย่างนั้นก็เพราะรถต่าง ๆ ที่แล่นอยู่ในกรุงโรมนั้นมีมากไป และมีหลายชนิดเช่น
รถประจำทาง รถแท้กซี่ รถนั่งส่วนตัว รถบรรทุก ถ้าหากว่าทำให้รถเหล่านี้ออกแล่นในกรุงโรมให้ทันน้อยลง การจราจรก็จะไม่ติดขัด
จะทำอย่างไรดี
จะห้ามรถต่าง ๆ เป็นบางชนิดก็ไม่ได้ เพราะขัดเสรีภาพ และคนจะร้องมาก
เทศบาลกรุงโรมเล็งเห็นว่า ถ้าหากทำอย่างไรให้รถประจำทางเป็นการคมนาคมแต่อย่างเดียวหรือเกือบจะอย่างเดียวในกรุงโรมแล้ว ปัญหาจราจรก็จะแก้ได้
เมื่อคิดอย่างนี้แล้ว เทศบาลกรุงโรมก็จะสั่งให้รถประจำทางทุกสายรับผู้โดยสารฟรี ไม่คิดค่าโดยสารแต่อย่างใดทั้งสิ้น
บังเกิดผลทันตาเห็น ถนนต่างๆ ในกรุงโรมว่างลงทันที เพราะรถแท้กซี่ออกวิ่งไม่ได้เลย ไม่มีใครขึ้น รถส่วนตัวก็หายไป เพราะเจ้าของรถเสียดายค่าน้ำมัน จะไปไหนขึ้นรถประจำทางฟรีเอาดีกว่า คงเหลือวิ่งอยู่แต่รถประจำทางและรถบรรทุกของ
รถส่วนตัวนั้นเหลือแต่เพียงประปราย ไม่เป็นปัญหาอีกต่อไป......
แล้วรถประจำทางที่วิ่งฟรีนั้น จะทำอย่างไร
ปัญหานี้เทศบาลกรุงโรมตอบไว้น่าฟังว่า
รถประจำทางทุกสายนั้นร้องกันมาหนักหนานมนานแล้วว่า ขาดทุน ๆ ๆ
เพราะฉะนั้น การรับคนโดยสารฟรีก็จะต้องทำให้ขาดทุนเพิ่มขึ้น ซึ่งก็ไม่น่าจะเดือดร้อนอย่างไร เพราะขาดทุนมานานแล้ว ขาดทุนต่อไปอีกก็ได้
การขาดทุนนั้นทำให้รถประจำทางต้องเป็นหนี้สิน ข้อนี้เทศบาลก็ยอมรับ แต่เมื่อขาดทุนมานาน ก็ย่อมจะต้องเป็นหนี้สินมานานแล้ว
จะต้องเป็นหนี้สินต่อไป เพราะต้องรับคนโดยสารฟรี ก็ไม่เห็นจะเป็นไรนี่ ดูแต่เทศบาลกรุงโรมเถิด เป็นหนี้สินอยู่มิรู้ว่ากี่หมื่นล้านแล้ว หนี้เช่นนั้นไม่มีทางจะใช้ได้ เมื่อใช้ไม่ได้ก็ต้องเป็นหนี้กันต่อไป และกู้หนี้มาทำเทศบาลต่อไป เพราะเทศบาลเลิกไม่ได้ รถประจำทางก็เลิกไม่ได้ ฉันใดก็ฉันนั้น” (“คึกฤทธิ์ ปราโมช” “สยามรัฐหน้าห้า”วันที่ 13 มกราคม 2514 )
ที่มา : http://www.siamrath.co.th/web/?q=node/283775