ถ้าโต้ตอบญาติแบบนี้...จะแรงไปมั้ยคะ

กระทู้สนทนา
ญาติที่ว่านี่ เป็นลุงเขยค่ะ ครอบครัวนี้มีลูกสาว 1 คน เมื่อก่อนมีอะไรที่ไม่ถูกใจเราก็จะทน ๆ มันไป วางเฉยไปบ้าง แต่เหมือนเขาจะไม่รู้ตัวเลย ว่าคนอื่นรู้สึกอย่างไรกับครอบครัวเขา

เมื่อหลายปีก่อน เราเหมารถทัวร์พาญาติ ๆ เืกือบ50 คน ไปเที่ยว โดยญาติที่ช.ม. ก็ขับรถแล้วมาจอดทิ้งไว้ที่บ้านเรา (เราอยู่ภาคเหนือ) แต่มีครอบครัวอาอยู่ที่สุพรรณบุรีอีก 1 ครอบครัว ตอนแรกว่าให้มาเจอกันที่ร้านอาหารที่จะไปแวะกินข้าวระหว่างทาง แต่ลุงเขยคนนี้จัดการไปคุยกับเจ้าของรถทัวร์บอกว่าให้ขับไปรับอาที่ดอนเจดีย์ด้วย แล้วค่อยไปบางแสน เราก็คิดนะว่ามันเสียเวลาและค่าน้ำมันเพิ่ม เพื่อครอบครัวเดียว ทั้ง ๆ ที่มันมีวิธีที่ง่ายกว่านั้นตั้งเยอะ ตลอดทริปนั้นลุงเขยจะนั่งประกบคนขับให้แวะนั่นแวะนี่ ซึ่งเรารำคาญมาก เราบอกพี่สาวเราว่าครั้งหน้าถ้าพาไปเที่ยวจะไม่ชวนครอบครัวนี้อีก

ต่อมาเราเหมารถตู้พาญาติไปเที่ยวอีกแล้ว เที่ยวนี้ไปเชียงราย แน่นอนว่าลุงเขยก็ขอไปด้วย ซึ่งเราปฏิเสธไปว่า เที่ยวนี้ขอไปเฉพาะผู้หญิง ผู้ชายไม่เกี่ยว

เรารู้สึกว่าเราไม่ชอบเขาเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ แต่เราก็นิ่ง ๆ ไว้
แล้วตระกูลเราชอบนัดกินข้าวกันไง คนนั้นจ่ายบ้าง คนนี้จ่ายบ้าง คนที่ไม่เคยจ่ายเลยคือครอบครัวนี้ค่ะ

ตอนที่เราเลี้ยง เราจะโทร.นัดวันเวลาล่วงหน้าทั้งกับญาติ ๆ และทางร้าน แจ้งรายการและจำนวนชุดอาหารเรียบร้อย  รู้มั้ย ใครมาถึงร้านก่อนคนแรก ครอบครัวลุงเราค่ะ มาแล้วก็สำรวจเมนูอาหาร พร้อมกับสั่งอาหารเพิ่มเองเรียบร้อย สั่งมาแล้วไม่มีคนกิน ทำไงดีล่ะ อ๋อ ไม่เป็นไร ฉันห่อกลับบ้านเอง เรางี้เซ่อไปเลย

เวลาไปร้านอาหารที่มีห้องคาราโอเกะ ครอบครัวนี้จะรีบไปก่อน สามคนพ่อแม่ลูกร้องเพลงกันสนุกสนาน ลูกเป็นคนคุมเครื่องเอง เพลงนี้พ่อร้องสิ อุ้ยเพลงนี้ลูกร้องเพราะ เอาสิ เอาสิ  เออ ตกลง กรูจ่ายเงินเพื่อให้ครอบครัวเมิงร้องเพลงเหรอเนี่ยะ

หรือเวลาจัดเลี้ยงที่บ้าน(บ้านเรามีตู้คาราโอเกะสมัยก่อนเป็นแบบกด ที่ใช้ตามร้านอาหาร โดยเราซื้อต่อมาจากพี่ชาย) ลุงเขยเราจะพกแผ่นที่มีเพลงของครอบครัวเขามาเอง หมดแผ่นนี้ ต่อแผ่นนั้น
ล่าสุดที่ข่าวเข้าหูมาคือ ครอบครัวลุงเขยได้ติดสอยห้อยตามอาเราไปกินข้าวที่บ้านคนรู้จัก  คนอื่นเขาก็นั่งกินกันไม่มีปัญหาอะไร แต่ลุงเขยเรา แกถือวิสาสะเข้าไปร้องคาราโอเกะในห้องนอนเจ้าของบ้าน แล้วลุงเจ้าของบ้านเขาเป็นคนมีมารยาทมาก เขาก็ไม่ได้ว่าอะไรซึ่งหน้านะ แต่เขาก็แอบกระซิบอาเราว่า เขาไม่ชอบลุงเขยของเราเลยค่ะ

ที่เล่ามาทั้งหมดนี้ รู้จักกันมานาน แกไปกินอะไรกับใคร แกไม่เคยจ่ายเงินเลยค่ะ
บางทีแกไปธุระกับอาเราที่ตจว. ใกล้ถึงบ้านแล้ว เขาก็เลยบอกว่างั้นแวะกินข้าวก่อนเข้าบ้านละกัน รู้มั้ย ลุงเรารีบโทร.ไปหาลูกสาวที่อยู่ที่บ้าน บอกให้มารอที่ร้านเลย มากินข้าวด้วยกัน ตอนนั้นมีลูกสาวของอาไปทำธุระด้วยกัน ลูกสาวของอาโต้ตอบการเสียมารยาทนั่นด้วยการนั่งกินข้าวเงียบ ๆ ไม่พูดกับครอบครัวแกซักคำ แกก็ยังไม่รู้ตัวอีก (เรื่องนี้ลูกอาเล่าให้ฟังค่ะ)

นิสัยของลุงเขย ที่ญาติ ๆ ต่างก็เกรงกลัวกันก็คือ แกนิสัยเหมือนผู้หญิง ชอบเข้าบ้านโน้นออกบ้านนี้แล้วคาบเอาเรื่องบ้านนี้ไปเล่าให้บ้านนั้นฟัง จนเขาทะเลาะกัน คนพวกเรารวมกันตั้งฉายาให้แกว่า "ไทยรัฐ" เรียกว่าข่าวอะไรถ้ารู้ถึงหูแก ก็ให้มั่นใจได้เลยว่าเรื่องของท่าน จะเป็นเรื่องทอล์คออฟเดอะทาวน์ในไม่ช้า ดังนั้น ถ้าลุงเขยเข้าบ้านใคร ทุกคนจะรีบหยุดเรื่องที่กำลังคุยกันไว้ก่อนค่ะ

ที่ผ่านมาเราเลี้ยงข้าวญาติพี่น้อง เราไม่เคยเสียดายเงิน ถึงแม้ญาติเราจะเยอะ(ประมาณ4-50 คน) แต่เรารู้สึกว่า ถ้ามีครอบครัวนี้มา ความสุข ความสนุกมันหายไปเยอะ มันหงุดหงิดกับความเจ้ากี้เจ้าการของแก ประมาณว่า สั่งอาหารเข้าชุดกันมั้ย เดินอาหารอะไรออกก่อนออกหลัง คือแกสามารถติดได้หมด เพราะแกทำร้านอาหาร(เจ๊ง)มาก่อน

เวลาไปกินข้าวบ้านญาติ เขาก็ไปก่อนใคร ๆ ไปนั่งกิน พอใกล้ ๆ งานเลิกเหมือนนกรู้ รีบชิ่งกลับบ้านก่อน ไม่ช่วยเก็บโต๊ะอะไรทั้งนั้น หนัก ๆ เข้า อาเราก็เลยต่อว่าป้าเราว่า ทำไม ไม่สั่งสอนลูกสาว ให้ช่วยหยิบจับงานครัวบ้าง มาช่วยกิน ก็ต้องช่วยทำด้วย ไม่ใช่มาถึงมานั่งแปะ เวลาอยากกินน้ำ อยากได้ช้อนส้อม ก็ใช้คนที่อายุน้อยกว่า ซึ่งก็คือหลาน ๆ เรานั่นแหละ พวกเด็ก ๆ ก็เอือมกันมากค่ะ

ณ ขณะนี้ เราคิดว่า เราจะไม่เกรงใจละ เราจะเลือกเชิญคนที่ไม่เรื่องมาก เฮไหนเฮนั่น โดยละเว้นครอบครัวนี้ไว้

คุณว่าแรงไปมั้ยคะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่