เปิดตอน โคโระที่กำลังอ่านหนึ่งสืออยู่ในห้องเรียน อิโซไกเลยพูดบอกดูโคโระอารมณ์ดีจัง(พูดไปก็ยิงใส่หัวโคโระไปด้วยแต่โคโระหลบได้)เลยถามว่ามีแผนอะไรหลังเลิกเรียนรึเปล่า โคโระบอกเขาว่าจะไปดูหนังที่ฮาวายสักหน่อย เป็นหนังที่ฉายเฉพาะที่อเมริกาไม่นานนี้ก็เลยต้องไปดูที่นั้น อีกคนก็เลยบอกไม่แฟร์เลย โคโระหัวเราะบอกด้วยความเร็ว 20 มัคสบายๆอยู่แล้ว พอดูหนังสือที่โคโระอ่านก็เห็นว่าเป็น "โซนิคนินจา" ที่พวกนักเรียนบางคนก็พอรู้ว่าเป็นเรื่องแนวซุปเปอร์ฮีโร่ก็เลยบอกให้โคโระมาเล่าให้ฟังพรุ่งนี้เลย และพอดีนั้นก็มีอีกคนที่กำลังอ่านหนังสือเล่มเดียวกับโคโระและสนใจหูผึ่งขึ้นมาทันที นั้นคือ นางิสะ และ คารุมะ
พอเลิกเรียนโคโระก็เตรียมตัวจะไปแล้ว ตอนนั้นนางิสะกับคารุมะก็มาบอกให้พาพวกเขาไปด้วย บอกพวกเขาเองก็อยากจะดูเรื่องนี้เหมือนกัน โคโระถามชอบแนวนี้งั้นเหรอ นางิสะบอกรักเลยทีเดียวแต่คงได้แต่รอโดยไม่มีทางได้ดูเพราะไม่ฉายในประเทศ โคโระเองก็แปลกใจที่คารุมะเองก็ชอบแนวนี้เหมือนกัน คารุมะบอกเขาชอบที่ผู้กำกับและเรื่องนี้มันผิดไปจากปกติที่เขาทำงานหนังจากการ์ตูนอเมริกา
ขณะที่คุยๆอยู่เสียงริทสึก็ดังจากมือถือของนางิสะบอกเธอเองก็อยากไปเหมือนกัน พอนางิสะหยิบมือถือตัวเองขึ้นมาดูก็ถึงกับเหงื่กตกที่ริทสึเล่นแฮ็คเข้ามาในเครื่องเขาเลย(แต่ก็บอกขอโทษที่บุกรุก) นางิสะถามทำไมถึงมาอยู่ในมือถือเขา ริทสึบอกแบบนี้มันสะดวกดีที่จะแชร์ข้อมูลกับทุกคนได้เธอเลยดาวน์โหลดช่องปลายทางไว้ในมือถือของทุกคนเรียบร้อยแล้ว(ประมาณว่าทำให้มือถือสามารถเชื่อมต่อกับริทสึได้) และริทสึก็ให้เรียกเธอในมือถือนี้ว่า "โมบายริทสึ" นางิสะคิดเลยว่าถึงไงโดยพื้นฐานก็คือตัวริทสึเองไม่ใช่เหรอ ริทสึบอกเธออยากหาข้อมูลเรื่องความเร็วของโคโระด้วย โดยกล้องในมือถือคงจะอ้างอิงในการลอบสังหารได้ โคโระเห็นแบบนี้ก็ตกลงจะให้พวกนางิสะไปด้วยก็ได้ ทั้งการดูหนังและเรื่องความเร็วของเขาเลย
จากนั้นโคโระก็เล่นจับนางิสะและคารุมะเขามาในเสื้อตัวเอง นางิสะพูดกับคารุมะถึงจะคิดว่าไม่น่าจะควรถามแต่ก็ถามเลยว่าพวกเขากำลังทำเรื่องเหลือเชื่ออยู่ใช่รึเปล่า คารุมะบอกคิดว่างั้นและไม่คิดว่าตะวเองจะปลอดภัยด้วย แต่โคโระบอกไม่ต้องห่วงบอกเขาจะค่อยๆเร่งความเร็วช้าๆเพื่อไม่ให้เป็นภาระกับร่างกายของพวกนางิสะเกินไป
ทันทีนั้นโคโคะก็เริ่มบินทันที พวกนางิสะถึงกับตกใจกับความเร็วถึงจะรู้อยู่แล้วว่าเร็วแค่ไหน แถมแป๊บเดียวก็เห็นมหาสมุทรแล้วด้วย แต่นางิสะก็แปลกใจที่ไม่รู้สึกถึงลมหรือได้ยินเสียงเลย แต่ก็รู้สึกว่าหัวของโคโระดันลมออกไปหมด โคโระบอกนางิสะตาดีจริงๆ บอกความลับก็อยู่ที่ผิวหนังของเขาเอง โดยปกติหัวของเขาจะนิ่มแต่พอเจอแรงกดสูงมันจะแข็งทำให้เวลาเขาใช้ความเร็วสูงจึงไม่โดนแรงลมบีบซึ่งการบินด้วยความเร็วเหนือเสียงมันจะเกี่ยวข้องถึงกฎการเคลื่อนที่ของฟิสิกส์ที่พวกนางิสะยังไม่รู้ แต่โคโระก็อธิบายว่าถ้าจะให้มีอะไรที่เหมือนกับผิวหนังของเขาล่ะก็...
โคโระก็เอาบิกเกอร์กับน้ำและแป้งมันฝรั่งออกมา โคโระอธิบายว่าบอกเป็นบทเรียนเล็กๆน้อยๆถึง "พฤติกรรมแบบไดลาแทนซี่" แล้วโคโระก็ผสมแป้งมันฝรั่งเข้ากับน้ำในบิกเกอร์ให้ดู นางิสะอึ้งไปเลยที่เล่นสอนกันกลางอากาศแบบนี้(ในเรื่องไม่ได้อธิบายว่า พฤติกรรมแบบไดลาแทนซี่ เป็นยังไงเลยจะอธิบายให้สำหรับคนที่ไม่รู้ - อธิบายอย่างง่ายๆที่สุดก็คือของหนืดที่หากใช้แรงน้อยๆสัมผัสจะรู้สึกหนืดๆคล้ายของเหลว แต่ถ้าใช้แรงมากๆสัมผัสมันจะแข็งขึ้นจนคล้ายกับของแข็ง ยิ่งแรงมากเท่าไรก็ยิ่งแข็ง) ริทสึก็ถามคารุมะว่าอยู่ตัวติดกันแบบนี้แล้วไม่คิดจะสังหารโคโระหน่อยเหรอ บอกเลยโอกาสแบบนี้ใช่ว่าจะมีอีก คารุมะบอกริทสึอย่างพูดไร้สาระน่า ถ้าสังหารโคโระซะตอนนี้พวกเขาก็ได้ตกลงมหาสมุทรแปซิฟิคด้วยความเร็วเหนือเสียงกันพอดี เพราะงั้นก็ได้แต่ฟังที่สอนไปเงียบๆนั้นแหละ
หลังจากนั้นไม่นานก็มาถึงฮาวายโดยสอนอธิบายเรียบร้อยและบอกเลยว่าพวกเสื้อกันกระสุนก็ใช้เทคโนโลยีแบบนี้ทำขึ้นมา บอกเมื่อสอนเสร็จแล้วก็มาไปโรงหนังที่อยู่ตรงนี้กันเลย นางิสะก็คิดเลยว่าขณะที่สอนบทเร็วอย่างรวดเร็วก็มาถึงฮาวายแล้วงั้นเหรอ
พอพวกนางิสะเข้ามาในโรงก็พูดเลยว่าหนาว ไม่เปิดแอร์แรงเกินไปหน่อยเหรอ โคโระบอกในฮาวายหากอยู่ในที่ร่มก็มักจะเปิดแอร์กันเพราะงั้นโคโระเลยบอกให้ดูแลตัวเองจากความหนาวด้วยก็เลยเอาผ้าห่มมาให้ใช้ แต่เพราะลายของผ้าห่ม(รูปหัวใจหน้าโคโระ)ทำเอาคารุมะไม่อยากใช้ ริทสึเองก็ตื่นเต้นเพราะไม่เคยดูหนังในโรงมาก่อน แต่นางิสะก็นึกได้ว่าที่นี่มันอเมริกาคงไม่มีซับญี่ปุ่นให้อ่านใช่มั้ย แบบนี้พวกเขาจะเข้าใจหนังได้รึเปล่า โคโระบอกไม่ต้องห่วงบอกเลยว่าพวกนางิสะก็เริ่มเก่งภาษาอังกฤษกันแล้วเพราะได้รับการสอนจากอิริน่า แต่โคโระก็เอาปลายหนวดของตัวเองบอกให้นางิสะใส่ไว้ที่หูแล้วจะช่วยอธิบายศัพท์ที่พวกนางิสะไม่เคยได้เรียนให้เพื่อจะได้สนุกไปกับหนังได้ แถมโคโระก็ยังเอาน้ำกับป๊อปคอร์นมาให้ด้วย นางิสะคิดเลยว่าแบบนี้รู้สึกมีความสุขดีจริงๆ
หนังในเรื่องเป็นฮีโร่ที่โดดเดี่ยวผู้ช่วยโลกท่ามกลางความหวาดวิตก เป็นตัวละครที่ทุกคนในช่วงอายุของนางิสะจะรู้สึกยกย่องแต่นางิสะก็คิดอยู่ว่าโคโระจะคิดเหมือนกันรึเปล่า แต่พอได้ยินเสียงโคโระพูดว่า "G" ไม่สิ "H" แน่ๆ นางิสะก็รู้เลยว่าโคโระกำลังสนใจแต่นางเอง(อกใหญ่) แต่ในหนังนั้นตัวร้ายเป็นพี่ชายของนางเอกเองทำให้โคโระดูอย่างสนใจ
แล้วพวกนางิสะก็กลับมาถึงโรงเรียนซึ่งก็มืดแล้ว นางิสะบอกเลยว่าสนุกจริงๆ คารุมะบอกที่ตัวร้ายเป็นพี่ของนางเอกมันน่าเบื่อไปหน่อย แถมริทสึเองยังพูดเลยว่าจากการวิเคราะห์หนังกว่าพันเรื่องเธอก็สามารถเดาออกได้เลยว่าตอนจบจะเป็นยังไงทำเอานางิสะคิดเลยว่าทั้งสองคนนี้พูดซะหมดสนุกเลย แต่กับโคโระแล้วคนละเรื่องเพราะบ่อน้ำแตกไปแล้วบอกว่าการที่พี่กับน้องถูกแยกหนทางชีวิตแบบนี้แล้วชะตากรรมโหดร้ายอะไรเช่นนี้ ทำเอารู้ถึงเลยจุดอ่อนที่ 14 ของโคโระ "แค่เนื้อเรื่องธรรมดาๆก็ยังทำเอาน้ำตาแตกได้" คารุมะพูดเลยว่าผู้ใหญ่อะไรดูแล้วถึงขั้นนี้ได้ ริทสึก็บอกร้องมาตั้งแต่ออกจากฮาวายเลย
แล้วทั้งสองคนก็ขอตัวกลับโคโระก็ลาบอกมืดแล้วให้กลับระวังๆด้วย แต่ก่อนกลับโคโระก็บอกให้ทั้งสองคนกลับไปเขียนความประทับใจของหนังเป็นภาษาอังกฤษเขียนด้วยมือมาส่งพรุ่งนี้ด้วย นางิสะถึงกับเหวอที่เล่นให้การบ้านกันแบบนี้เลย โคโระบอกจะให้ไปฮาวายฟรีๆเหรอแค่นี้ก็ถือว่าถูกแล้ว
ระหว่างทางกลับนางิสะก็ถอนหายใจจนคารุมะถามว่ามีอะไร นางิสะบอกเป็นครั้งแรกของเขาเลยที่ไปฮาวายแถมเรียนไปด้วย ดูหนัง แล้วกลับมาใน 5 ชั่วโมง คารุมะบอกพูดก็ถูก ริทสึเองก็บอกที่พวกนางิสะไม่รู้สึกว่าร่างกายรับภาระอะไรเลยก็เพราะโคโระค่อนข้างจะระวังพวกนางิสะ บอกแน่ใจเลยว่าโคโระใช้หนวดขณะที่บินนั้นปัดแรงลม ฝุ่น สิ่งสกปรกหรืออะไรทำนองนั้นให้ (ความเร็ว 20 มัค ถ้ามีเศษเล็กๆเท่าเข็มกระเด็นมาก็แรงพอๆกับกระสุนปืนได้เลย) พวกนางิสะเลยคิดว่าทิวทัศน์วันนี้ที่โคโระมองดูตลอดจะเป็นยังไง คารุมะก็รู้สึกว่ายิ่งรู้จักโคโระความหมายของการคงอยู่ของโคโระก็ยิ่งจางลงไปจากความคิดแล้ว
ทางโคโระพอส่งพวกนางิสะแล้วก็คิดว่าได้เวลาต้องกลับเหมือนกันเพราะสัญญากับมิมุระว่าจะสอนเลขที่บ้านด้วย แล้วโคโระก็บินไป และได้บินผ่านชายคนหนึ่งที่มองดูไป โดยคนเสื้อคลุมก็ถามคนๆนั้นว่าเป็นยังไงบ้าน ตามองทันโคโระรึเปล่า คนๆนั้นก็พยักหน้า คนคลุมหน้าก็บอกดีมากแบบนี้ก็พอจะฆ่าโคโระได้ ชายคนนั้นก็พูดว่า "พี่" คนคลุมหน้าก็บอกว่าใช่ โคโระเป็นพี่และพรุ่งนี้ก็จะเป็นอาจารย์ด้วย บอกเลยว่าให้โคโระจ่ายค่าตอบแทนที่ทำดวงจันทร์เป็นแบบนี้กัน
จบตอน
[Spoil] Assassination Classroom - 28
พอเลิกเรียนโคโระก็เตรียมตัวจะไปแล้ว ตอนนั้นนางิสะกับคารุมะก็มาบอกให้พาพวกเขาไปด้วย บอกพวกเขาเองก็อยากจะดูเรื่องนี้เหมือนกัน โคโระถามชอบแนวนี้งั้นเหรอ นางิสะบอกรักเลยทีเดียวแต่คงได้แต่รอโดยไม่มีทางได้ดูเพราะไม่ฉายในประเทศ โคโระเองก็แปลกใจที่คารุมะเองก็ชอบแนวนี้เหมือนกัน คารุมะบอกเขาชอบที่ผู้กำกับและเรื่องนี้มันผิดไปจากปกติที่เขาทำงานหนังจากการ์ตูนอเมริกา
ขณะที่คุยๆอยู่เสียงริทสึก็ดังจากมือถือของนางิสะบอกเธอเองก็อยากไปเหมือนกัน พอนางิสะหยิบมือถือตัวเองขึ้นมาดูก็ถึงกับเหงื่กตกที่ริทสึเล่นแฮ็คเข้ามาในเครื่องเขาเลย(แต่ก็บอกขอโทษที่บุกรุก) นางิสะถามทำไมถึงมาอยู่ในมือถือเขา ริทสึบอกแบบนี้มันสะดวกดีที่จะแชร์ข้อมูลกับทุกคนได้เธอเลยดาวน์โหลดช่องปลายทางไว้ในมือถือของทุกคนเรียบร้อยแล้ว(ประมาณว่าทำให้มือถือสามารถเชื่อมต่อกับริทสึได้) และริทสึก็ให้เรียกเธอในมือถือนี้ว่า "โมบายริทสึ" นางิสะคิดเลยว่าถึงไงโดยพื้นฐานก็คือตัวริทสึเองไม่ใช่เหรอ ริทสึบอกเธออยากหาข้อมูลเรื่องความเร็วของโคโระด้วย โดยกล้องในมือถือคงจะอ้างอิงในการลอบสังหารได้ โคโระเห็นแบบนี้ก็ตกลงจะให้พวกนางิสะไปด้วยก็ได้ ทั้งการดูหนังและเรื่องความเร็วของเขาเลย
จากนั้นโคโระก็เล่นจับนางิสะและคารุมะเขามาในเสื้อตัวเอง นางิสะพูดกับคารุมะถึงจะคิดว่าไม่น่าจะควรถามแต่ก็ถามเลยว่าพวกเขากำลังทำเรื่องเหลือเชื่ออยู่ใช่รึเปล่า คารุมะบอกคิดว่างั้นและไม่คิดว่าตะวเองจะปลอดภัยด้วย แต่โคโระบอกไม่ต้องห่วงบอกเขาจะค่อยๆเร่งความเร็วช้าๆเพื่อไม่ให้เป็นภาระกับร่างกายของพวกนางิสะเกินไป
ทันทีนั้นโคโคะก็เริ่มบินทันที พวกนางิสะถึงกับตกใจกับความเร็วถึงจะรู้อยู่แล้วว่าเร็วแค่ไหน แถมแป๊บเดียวก็เห็นมหาสมุทรแล้วด้วย แต่นางิสะก็แปลกใจที่ไม่รู้สึกถึงลมหรือได้ยินเสียงเลย แต่ก็รู้สึกว่าหัวของโคโระดันลมออกไปหมด โคโระบอกนางิสะตาดีจริงๆ บอกความลับก็อยู่ที่ผิวหนังของเขาเอง โดยปกติหัวของเขาจะนิ่มแต่พอเจอแรงกดสูงมันจะแข็งทำให้เวลาเขาใช้ความเร็วสูงจึงไม่โดนแรงลมบีบซึ่งการบินด้วยความเร็วเหนือเสียงมันจะเกี่ยวข้องถึงกฎการเคลื่อนที่ของฟิสิกส์ที่พวกนางิสะยังไม่รู้ แต่โคโระก็อธิบายว่าถ้าจะให้มีอะไรที่เหมือนกับผิวหนังของเขาล่ะก็...
โคโระก็เอาบิกเกอร์กับน้ำและแป้งมันฝรั่งออกมา โคโระอธิบายว่าบอกเป็นบทเรียนเล็กๆน้อยๆถึง "พฤติกรรมแบบไดลาแทนซี่" แล้วโคโระก็ผสมแป้งมันฝรั่งเข้ากับน้ำในบิกเกอร์ให้ดู นางิสะอึ้งไปเลยที่เล่นสอนกันกลางอากาศแบบนี้(ในเรื่องไม่ได้อธิบายว่า พฤติกรรมแบบไดลาแทนซี่ เป็นยังไงเลยจะอธิบายให้สำหรับคนที่ไม่รู้ - อธิบายอย่างง่ายๆที่สุดก็คือของหนืดที่หากใช้แรงน้อยๆสัมผัสจะรู้สึกหนืดๆคล้ายของเหลว แต่ถ้าใช้แรงมากๆสัมผัสมันจะแข็งขึ้นจนคล้ายกับของแข็ง ยิ่งแรงมากเท่าไรก็ยิ่งแข็ง) ริทสึก็ถามคารุมะว่าอยู่ตัวติดกันแบบนี้แล้วไม่คิดจะสังหารโคโระหน่อยเหรอ บอกเลยโอกาสแบบนี้ใช่ว่าจะมีอีก คารุมะบอกริทสึอย่างพูดไร้สาระน่า ถ้าสังหารโคโระซะตอนนี้พวกเขาก็ได้ตกลงมหาสมุทรแปซิฟิคด้วยความเร็วเหนือเสียงกันพอดี เพราะงั้นก็ได้แต่ฟังที่สอนไปเงียบๆนั้นแหละ
หลังจากนั้นไม่นานก็มาถึงฮาวายโดยสอนอธิบายเรียบร้อยและบอกเลยว่าพวกเสื้อกันกระสุนก็ใช้เทคโนโลยีแบบนี้ทำขึ้นมา บอกเมื่อสอนเสร็จแล้วก็มาไปโรงหนังที่อยู่ตรงนี้กันเลย นางิสะก็คิดเลยว่าขณะที่สอนบทเร็วอย่างรวดเร็วก็มาถึงฮาวายแล้วงั้นเหรอ
พอพวกนางิสะเข้ามาในโรงก็พูดเลยว่าหนาว ไม่เปิดแอร์แรงเกินไปหน่อยเหรอ โคโระบอกในฮาวายหากอยู่ในที่ร่มก็มักจะเปิดแอร์กันเพราะงั้นโคโระเลยบอกให้ดูแลตัวเองจากความหนาวด้วยก็เลยเอาผ้าห่มมาให้ใช้ แต่เพราะลายของผ้าห่ม(รูปหัวใจหน้าโคโระ)ทำเอาคารุมะไม่อยากใช้ ริทสึเองก็ตื่นเต้นเพราะไม่เคยดูหนังในโรงมาก่อน แต่นางิสะก็นึกได้ว่าที่นี่มันอเมริกาคงไม่มีซับญี่ปุ่นให้อ่านใช่มั้ย แบบนี้พวกเขาจะเข้าใจหนังได้รึเปล่า โคโระบอกไม่ต้องห่วงบอกเลยว่าพวกนางิสะก็เริ่มเก่งภาษาอังกฤษกันแล้วเพราะได้รับการสอนจากอิริน่า แต่โคโระก็เอาปลายหนวดของตัวเองบอกให้นางิสะใส่ไว้ที่หูแล้วจะช่วยอธิบายศัพท์ที่พวกนางิสะไม่เคยได้เรียนให้เพื่อจะได้สนุกไปกับหนังได้ แถมโคโระก็ยังเอาน้ำกับป๊อปคอร์นมาให้ด้วย นางิสะคิดเลยว่าแบบนี้รู้สึกมีความสุขดีจริงๆ
หนังในเรื่องเป็นฮีโร่ที่โดดเดี่ยวผู้ช่วยโลกท่ามกลางความหวาดวิตก เป็นตัวละครที่ทุกคนในช่วงอายุของนางิสะจะรู้สึกยกย่องแต่นางิสะก็คิดอยู่ว่าโคโระจะคิดเหมือนกันรึเปล่า แต่พอได้ยินเสียงโคโระพูดว่า "G" ไม่สิ "H" แน่ๆ นางิสะก็รู้เลยว่าโคโระกำลังสนใจแต่นางเอง(อกใหญ่) แต่ในหนังนั้นตัวร้ายเป็นพี่ชายของนางเอกเองทำให้โคโระดูอย่างสนใจ
แล้วพวกนางิสะก็กลับมาถึงโรงเรียนซึ่งก็มืดแล้ว นางิสะบอกเลยว่าสนุกจริงๆ คารุมะบอกที่ตัวร้ายเป็นพี่ของนางเอกมันน่าเบื่อไปหน่อย แถมริทสึเองยังพูดเลยว่าจากการวิเคราะห์หนังกว่าพันเรื่องเธอก็สามารถเดาออกได้เลยว่าตอนจบจะเป็นยังไงทำเอานางิสะคิดเลยว่าทั้งสองคนนี้พูดซะหมดสนุกเลย แต่กับโคโระแล้วคนละเรื่องเพราะบ่อน้ำแตกไปแล้วบอกว่าการที่พี่กับน้องถูกแยกหนทางชีวิตแบบนี้แล้วชะตากรรมโหดร้ายอะไรเช่นนี้ ทำเอารู้ถึงเลยจุดอ่อนที่ 14 ของโคโระ "แค่เนื้อเรื่องธรรมดาๆก็ยังทำเอาน้ำตาแตกได้" คารุมะพูดเลยว่าผู้ใหญ่อะไรดูแล้วถึงขั้นนี้ได้ ริทสึก็บอกร้องมาตั้งแต่ออกจากฮาวายเลย
แล้วทั้งสองคนก็ขอตัวกลับโคโระก็ลาบอกมืดแล้วให้กลับระวังๆด้วย แต่ก่อนกลับโคโระก็บอกให้ทั้งสองคนกลับไปเขียนความประทับใจของหนังเป็นภาษาอังกฤษเขียนด้วยมือมาส่งพรุ่งนี้ด้วย นางิสะถึงกับเหวอที่เล่นให้การบ้านกันแบบนี้เลย โคโระบอกจะให้ไปฮาวายฟรีๆเหรอแค่นี้ก็ถือว่าถูกแล้ว
ระหว่างทางกลับนางิสะก็ถอนหายใจจนคารุมะถามว่ามีอะไร นางิสะบอกเป็นครั้งแรกของเขาเลยที่ไปฮาวายแถมเรียนไปด้วย ดูหนัง แล้วกลับมาใน 5 ชั่วโมง คารุมะบอกพูดก็ถูก ริทสึเองก็บอกที่พวกนางิสะไม่รู้สึกว่าร่างกายรับภาระอะไรเลยก็เพราะโคโระค่อนข้างจะระวังพวกนางิสะ บอกแน่ใจเลยว่าโคโระใช้หนวดขณะที่บินนั้นปัดแรงลม ฝุ่น สิ่งสกปรกหรืออะไรทำนองนั้นให้ (ความเร็ว 20 มัค ถ้ามีเศษเล็กๆเท่าเข็มกระเด็นมาก็แรงพอๆกับกระสุนปืนได้เลย) พวกนางิสะเลยคิดว่าทิวทัศน์วันนี้ที่โคโระมองดูตลอดจะเป็นยังไง คารุมะก็รู้สึกว่ายิ่งรู้จักโคโระความหมายของการคงอยู่ของโคโระก็ยิ่งจางลงไปจากความคิดแล้ว
ทางโคโระพอส่งพวกนางิสะแล้วก็คิดว่าได้เวลาต้องกลับเหมือนกันเพราะสัญญากับมิมุระว่าจะสอนเลขที่บ้านด้วย แล้วโคโระก็บินไป และได้บินผ่านชายคนหนึ่งที่มองดูไป โดยคนเสื้อคลุมก็ถามคนๆนั้นว่าเป็นยังไงบ้าน ตามองทันโคโระรึเปล่า คนๆนั้นก็พยักหน้า คนคลุมหน้าก็บอกดีมากแบบนี้ก็พอจะฆ่าโคโระได้ ชายคนนั้นก็พูดว่า "พี่" คนคลุมหน้าก็บอกว่าใช่ โคโระเป็นพี่และพรุ่งนี้ก็จะเป็นอาจารย์ด้วย บอกเลยว่าให้โคโระจ่ายค่าตอบแทนที่ทำดวงจันทร์เป็นแบบนี้กัน
จบตอน