ลองมา ช่วยกัน ตามข่าวเก่าๆ แล้ว จับผิด เสี่ยช้างกัน ว่า เราหลงข้ามอะไรไปหรือป่าว

ยาวๆหน่อยนะ ว่างๆ ค่อย นั่งอ่าน นั่งวิเคราะห์ จะได้ตาม ถูก สำหรับคนที่คิดจะ เข้ามาซื้อลงทุน หรือ ขายหุ้นทิ้งออกไป จะได้มีข้อมูลประกอบ


หลายคนพูดถึง ความเขี้ยวลากดิน หรือ ธรรมาภิบาล  ของคุณ อนันต์ เสี่ยงช้าง แห่งบางกอกแลนด์ กันเยอะ ทำให้การขึ้นมา  ของ Bland รอบนี้  พร้อมการ Take Action หลายๆอย่างของ

เสี่ยช้าง รอบนี้ มัน ของจริง หรือ หลอกทุบ เหมือนที่ ผ่านมาในรอบก่อน

ผมเอง ก็พยายามจะมองหาจุดบอด ที่ ซ่อนอยู่ในเกมส์ ของเสี่ยช้าง แต่ว่า ณ เวลานี้ ยังมองไม่เห็น ว่า จะมี มุมไหน ที่จะทำให้ในระยะกลาง หรือ ระยะยาว Bland มันจะไม่วิ่งไปตามเป้า

หมายที่ เห็นๆกันอยู่ตอนนี้ คือ มูลค่าบุ้คที่แท้จริงของมัน

คือ มองแล้ว  ยอมรับ ว่าอ่านเกมส์ ว่า รอบนี้ คุณอนันต์น่าจะเอาจริง ในการพัฒนา บีแลนด์อย่างจริงจัง หรือ อย่างน้อย ก็ดันราคาจริงจังล่ะ

ถามว่าทำไม ถึงคิดอย่างนั้น

ลองมาดูเหตุผลกัน แล้ว ค่อยๆ ช่วยคิดหาช่องโหว่ และ แย้งส่วนที่ผมข้ามไปได้ ครับ ช่วยๆกันจับผิดเสี่ยช้างหน่อย



มีการพูดถึงการที่คูณอนันต์เก็บหุ้นในช่วงหลังจากการขาย อิมแพ็ค ออกไป ประมาณ 5 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะช่วงก่อนหน้าหุ้นขึ้นรอบนี้ นี่ก็เก็บเพิ่มไปอีกรวๆแล้ว กว่า 15%

ผมเองไม่ได้สนใจมากนักว่า ต้นทุนการเก็บหุ้นของ คุณอนันต์แกอยู่เท่าไร  เพราะว่า ต้นทุนจริง ของเค้า รวมพรรคพวกพี่น้อง ญาติโยม นอมินี่เค้า นี่ถือกัน อยู่รวมๆ  ราวๆ เกินครึ่งนึงมาแต่ไหนแต่ไร ตั้งแต่ยุค บีแลนด์  ราคา กว่าร้อยบาท จนตกมาติดดิน

ไม่รวมไปถึงการเพิ่มทุน ขายให้กลุ่มทุนต่าง   ทั้งฮ่องกง และ พวก เกาะเคลย์แมน ซึ่งก็ว่ากันว่าเป็น กลุ่ม ของเค้า เงาของเค้า เป็นส่วนใหญ่ ดังนั้น ต้นทุนเค้า คงคำนวนกันไม่ถูก แต่ ที่แน่ๆ แกคือ เจ้าของใหญ่ และคุม เกมส์ของบางกอกแลนด์ทั้งหมดเบ็ดเสร็จ แน่นอน

ดังนั้น เมื่อผมจะเข้ามาลงทุน กับแก  แทนที่ผมจะมองต้นทุนหุ้นแก ผมเลยมามองว่าแกกำลังจะเล่นอะไร หรือ ทำอะไรกับบริษัทมากกว่า

ตอนราวๆ ห้าปีก่อน   ตอน ที่แก แยกเอาอิมแพ็ค ออกมาจาก บีแลนด์  ตั้งเป็นบริษัทใหม่  Impact Exhibition Management ( IEM ) โดยโอนที่ดิน และสิ่งปลูกสร้างทั้งหมด ที่ประเมินราคา ณ ตอนนั้นมีมูลค่า 9,559 ล้าน  แล้ว ขาย หุ้น IEM จำนวน 44% ขายให้กับ จูดแลนด์ (Juutland)ซึ่งไม่เป็นเปิดเผย ว่าคือใคร  แต่ว่ากันว่า ก็คงเป็น เงา หรือ  นอมินี่แกเองนั่นแหละมาช่วย   ซึ่งในตอนนั้น (แม้แต่ในตอนนี้) ต้อง บอกว่า อิมแพ็ค หรือ IEM นี่คือ เส้นเลือดใหญ่สร้างรายได้เลี้ยงบางกอกแลนด์ ที่หนี้ท่วมตัว

การที่ เสี่ยช้าง ขาย Impact ออกไปตอนนั้น บางคน อาจจะมองว่ามันคือการยักย้ายถ่ายเทสินทรัพย์บริษัทออกไป ซึ่งในตอนนั้น ก็อาจจะ มีคนคิดได้ว่า  แกเอาของดีของบริษัทขายให้ตัวเอง หรือ คนกันเองในราคาต่ำ กินกำไร หรือป่าว  

แต่ทว่าราคาที่ขาย  ณ ตอนนั้น ราคาที่ขาย IEM 44% ออกไปในราคา 7 พันล้าน นั้นแพงกว่า ราคาประเมิน ที่เพิ่งประเมินไป ว่ามีมูลค่าอยู่ราวๆ 4.2 พันล้าน  ซึ่งก็ส่งผลทำกำไรส่วนต่างให้กับ  บีแลนด์ ในดีลนี้ ถึง 2.8 พันล้าน ก็ถือว่า ไม่เลวทีเดียว

และ ผลจากการขายครั้งนั้น ทำให้ บีแลนด์ได้เงินกำไร จากการขาย ราวๆ 2.8 พันล้าน มาลบขาดทุนสะสม และได้เงินมาล้างหนี้ บริษัทออกไปหลายพันล้าน ทำให้ลดต้นทุนดอกเบี้ย ลงไปได้ มากขึ้น   ช่วยให้ บีแลนด์ อยู่รอดมาได้

และ หลังจากนั้น อีก สามสี่ปีที่ผ่านมาจนถึงวันนี้ คุณอนันต์ แกก็จัดการ  โยกย้าย เคลียร์บัญชีต่างๆ จนขาดทุนสะสม ของบริษัท และ หนี้ส่วนใหญ่ จำนวนมหาศาล ที่ตกค้างมาตั้งแต่ยุคฟองสบู่แตก หมดไป  ทั้งด้วยการต่อรองลดหนี้ เปลี่ยนหนี้เป็นทุน ขายสินทรัพย์ ตกค้างเก่าๆ จนเคลียร์หนี้ได้หมด   เริ่มมีกำไร และปันผลได้ เป็นครั้งแรก รวมทั้งพวกหนี้ จากพวกหุ้นกู้ต่างๆ ด้วย

แถม ตอนนี้ ยังเหลิอเงินสำรองที่ตั้งสำรองหนี้ที่เป็นคดีความฟ้องร้องหุ้นกู้ ต่างๆ ที่ตั้งสำรองไว้ อีก ราวๆ สามพันแปดร้อยล้าน ซึ่งมันหมดอายุความไปแล้ว และจะทะยอยรับรู้ กลับมาเป็นรายได้ และกำไรพิเศษ ให้กับบีแลนด์ ต่อๆมา อีก เป็นลำดับ

ดังนั้น ณ เวลานี้ ปัญหาเรื่องหนี้ ของ บีแลนด์ เรียกว่าหมดไป (แต่จะมีพวกกำไรพิเศษกลับเข้ามาเพิ่ม รายได้ และกำไรสะสม )


และ วันนี้  ในวันที่ อิมแพคเติบใหญ่ แข็งแรงทำรายได้ดี สร้างกำไรให้กับ บีแลนด์ เป็นหลัก (แน่นอน จูดแลนด์ ที่เป็นเงา ของคุณอนันต์ ก็ได้รับอานิสสงค์ นี้ด้วย 44% ของยอดรวม ที่ทำกำไรปีล่ะ ประมาณพันล้าน)

แต่แล้ว คุณอนันต์ ก็ เดิม เกมส์ซื้อ หุ้น อิมแพ้ค(IEM)  44% คืนจาก จูดแลนด์ (ซึ่งก็น่าจะเป็นเงาเค้านั่นแหละ) กลับมาให้ ในราคา แค่ สองพันเจ็ดร้อยล้าน (ถูกกว่าตอนซื้อไปเป็นเท่าตัว) ทั้งที่มูลค่าจริง มันโตขึ้นกว่าเดิม อีกเยอะ ทำให้ บีแลนด มีกำไร เพิ่มมา หลายพันล้าน และ บุ้คโตขึ้นอีกอื้อ ตามข่าวที่ เราทราบและรอฟัง และ ก็เพิ่งประกาศมา เมื่อไม่นานมานี้

ตามจม.ฉบับนี้



คิดยังไง ดีล อิมแพ็ค ทั้งขายออก และ ซื้อกลับมารอบนี้  บีแลนด์ ก็ได้ประโยชน์ทั้งสองรอบ

คิดเล่นๆสิครับ คุณอนันต์ เอาส่วน อิมแพ็ค 44% ของแก ที่ถือไว้ในเงา โยนคืนมาให้ บีแลนด์  ในราคา ที่แสนถูก ยิ่งกว่ามิตรภาพ แค่ 2700 ล้าน (ถูกกว่า ตอนขายไป 4300 ล้าน ) และถูกกว่า ราคาประเมินปัจจุบัน ( 6500 ล้าน) แกจะใจดี โยนเอามาให้ไว้เล่นๆเฉยๆเหรอ

ผมว่า แกต้องเดิมเกมส์ต่อ ล่ะ จะปลุก บีแลนดฺ์ตื่นเลย หรือ จะลากเฉยๆๆ แต่ก็ต้องไม่ใข่ แค่เป้านี้แน่ เพราะว่า ถ้าจะลากมาแค่นี้  สู้แกถือ อิมแพ็คส่วนนั้นกินปันผล และส่วนต่างไปเรื่อยๆ หรือ เอาไปขายคนอื่นได้มากกว่า นี้เยอะ


มองดูแล้ว ไม่ว่าแกจะทำด้วยเหลียมไหน ผมก็ยังมองว่าเกมส์ นี้ แกทำให้กับ บีแลนด์ ซึ่งแน่นอน แกอาจจะไม่ได้ทำ ด้วยความใจบุญ อยากให้ ผู้ถือหุ้นทั้งหลายได้กำไรเท่านั้น เพียงแต่ว่า ถ้าแกปั้นบีแลนด์ ให้โตขึ้นมาได้อีกครั้ง คนที่จะได้รับผลประโยชน์ สูงสุดตรงนี้ ก็คือ ตัวแกเอง และ พลพรรค ของเค้าที่ ถือหุ้นตรงนี้ไว้มากมาย และ  ผลรวม มันน่าจะมากกว่า ส่วนที่คืน กลับมาให้ บีแลนด์นี้ เหมือนเอา ทุนของตัวเอง มา  โยนใส่ธุรกิจหลักของกลุ่ม ให้โตต่อเนื่องนั่นเอง

ณ วันนี้ทุกคนรับรู้ เรื่อง สินทรัพย์ ต่างๆ ที่เหลืออยู่ ของ ฺBland ทั้ง ตัว อิมแพ็ค เมืองทอง และที่ดินแปลงยักษ์ ที่ ศรีนครินทร์
Book Value ระดับนึง ส่วนจะไปได้ใกล้เคียง Book แค่ไหน ขึ้นกับ ความสามารถในการบริหารสินทรัพย์ของบริษัทให้งอกเงยต่อไป ซึ่งตรงนี้ คือ จุดอ่อน ของ Bland มีสินทรัพย์มาก แต่นะวันนี้ ความสามารถในการนำสินทรัพย์ไปก่อให้เิกิดรายได้  ROE และ ROA ต่ำมาก

ต้องรอดู ว่า ถ้าหมดหนี้ หมดภาระดอกเบี้ย มีเงินมีทุน แล้ว จะ พัฒนาตัวเองได้แค่ไหน อย่างไร

โดยเฉพาะ ถ้าแกได้ เงินค่าแปลง W2 เข้ามาอีก 13000 ล้าน ล่ะก้อ บีแลนด์ ก็มีทุน เพิ่มอย่างแข็งแกร่ง


ตอนนี้ต้องเดาใจเสี่ยแกแล้ว ว่า แกเก็บ W2 ไว้แปลงมากแค่ไหน และ จะปล่อย W2 ได้แปลง เข้ามาแชร์บุ้ค ด้วย แต่ได้เงินมาใช้เลย หรือกดแม่ให้ต่ำๆ ไว้อย่างนี้ จน W2 หมดอายุ แล้ว ค่อยว่ากันอีกที ว่าจะออกหุ้นเพิ่มทุน อะไรมา ใหม่


ปล.การลงทุนมีความเสี่ยง พิจารณาหาข้อมูลให้รอบคอบก่อนการตัดสินใจด้วยตัวเอง นะครับ

ใครมีข้อมูลอะไรเอามาแชร์กันเพิ่มได้

ส่วนข้อมูล เรื่องที่ดิน ต่างๆ นั่น รวมสรุปไว้ข้ามไปเื่นื่องจากเราคงไ้ด้รับทราบกันมามากแล้ว