http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1359179114&grpid=00&catid=08&subcatid=0800
updated: 26 ม.ค. 2556 เวลา 15:30:12 น.
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
ไทย ซูซูกิ ลุยตลาดรถขนาดกลาง ชูแผน "อีโคมาร์เก็ตติ้ง" หวังโกยยอดขาย 1.2 แสนคัน พร้อมดันไทยขึ้นชั้นฮับใหญ่สุดหลังบริษัทแม่โยกไลน์ผลิตเครื่องยนต์เรือป้อน อาเซียน เทงบฯอีก 1,000 ล้านเพิ่มการผลิตตั้งไลน์ผลิตรถใหม่
นาย เลิศศักดิ์ นววิมาน ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายขายและการตลาด บริษัท ไทยซูซูกิ มอเตอร์ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายรถจักรยานยนต์ซูซูกิ เปิดเผยว่าปีนี้บริษัทตั้งเป้ายอดขายรวมไว้ที่ 120,000 แสนคัน จากยอดจำหน่ายตลาดรถที่ 2 ล้านคัน หลังจากในปีที่ผ่านมามียอดขาย 76,300 คัน จากที่ตั้งเป้าไว้ในปีที่ผ่านมา 120,000 คัน เนื่องจากในปีที่ผ่านมามีการเปิดตัวรถจักรยานยนต์รุ่นใหม่เพียง 2 รุ่น ต่างจากคู่แข่งที่มีการเปิดตัวหลายรุ่น
ดังนั้นจึงได้เตรียมแนะนำรถ รุ่นใหม่อย่างน้อย 4 รุ่น พร้อมใช้งบฯการตลาดกว่า 700 ล้านบาท มุ่งเน้นอีโคมาร์เก็ตติ้งให้สอดคล้องกับผลิตภัณฑ์ที่ประหยัดน้ำมัน เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และมีสมรรถนะที่ดี ล่าสุดกับการแนะนำรถจักรยานยนต์อีโครุ่น "เล็ทส์" ด้วยลีปเทคโนโลยีที่ประหยัดน้ำมันได้ถึง 56 กม.ต่อลิตร ต่อจากรถจักรยานยนต์อีโครุ่นแรก คือ "เน็กซ์" ที่ได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี
นอกจากนี้ยังเตรียมแนะ นำรถจักรยานยนต์ขนาดกลางที่ได้จำหน่ายแล้วในบางประเทศ แต่จะผลิตพร้อมกับจำหน่ายในประเทศไทยเป็นที่แรก ซึ่งจากการที่แนะนำรถจักรยานยนต์ขนาดที่ใหญ่ขึ้น บริษัทก็เตรียมขยายซูซูกิ ลีสซิ่ง จากที่มีอยู่ 18 แห่ง จะเพิ่มเป็น 24 แห่งทั่วประเทศ
ส่วน แผนการดำเนินงานของหลังบริษัทแม่ได้วางตำแหน่งให้ซูซูกิในประเทศไทยเป็นฐาน การผลิตทั้งรถจักรยานยนต์ และเครื่องยนต์เรือ สำหรับตลาดอาเซียนและการส่งออกในประเทศอื่น ๆ ล่าสุดได้ใช้งบประมาณกว่า 1,000 ล้านบาท สำหรับขยายกำลังการผลิตเครื่องยนต์เรือ รวมถึงการตั้งไลน์การผลิตรถจักรยานยนต์รุ่นใหม่
ซึ่งแผนการขยาย กำลังการผลิตเครื่องยนต์เรือนั้น จากเดิมมีกำลังการผลิต 64,000 เครื่องต่อปี แต่ในปีนี้ตั้งเป้ายอดผลิต 70,000 เครื่องต่อปี จึงได้ขยายกำลังการผลิตด้วยการติดตั้งเครื่องจักรใหม่ในโรงงานเดิม และการตั้งโรงงานใหม่ขึ้นอีกแห่งในบริเวณโรงงานที่ จ.ปทุมธานี ซึ่งจะส่งออกไปจำหน่ายทั่วโลก
ด้านการตั้งไลน์การผลิตสำหรับรถ จักรยานยนต์นั้น จะรองรับการผลิตสำหรับรถรุ่นใหม่ที่จะเปิดตัวในปีนี้ถึง 4 รุ่น โดย 1 ใน 4 รุ่นดังกล่าว จะมีการผลิตรถจักรยานยนต์ขนาดกลางระดับ 200 ซีซี ขึ้นไปด้วย ขณะที่รถรุ่นที่จำหน่ายอยู่แล้วในปัจจุบันนั้นบริษัทมีกำลังการผลิตเพียงพอ กับความต้องการของลูกค้าแล้วที่จำนวน 120,000 แสนคันต่อปี
"เราเป็น ฮับการผลิตทั้งรถจักรยานยนต์และเครื่องยนต์เรืออยู่แล้ว แต่ปีนี้จะเพิ่มความเข้มข้นมากขึ้น ทั้งเพิ่มการผลิตเครื่องยนต์เรือสำหรับตลาดส่งออก ส่วนรถจักรยานยนต์นั้น รถขนาดเล็กยังมีการผลิตเพียงพอ แต่ก็จะเพิ่มรถขนาดกลางเข้าไปด้วย" นายเลิศศักดิ์กล่าว
ส่วนประเด็นที่ภาครัฐได้มีการปรับอัตราภาษีสรรพ สามิตสำหรับจักรยานยนต์ โดยเปลี่ยนจากการแบ่งตามประเภท 2 และ 4 จังหวัด เป็นคิดตามขนาดซีซีนั้น บริษัทมองว่าในส่วนของรถใหม่ที่จะจำหน่ายนั้นมีขนาดอยู่ที่ 200 ซีซีขึ้นไป แต่ไม่ถึง 500 ซีซี ซึ่งภาษีจะปรับเพิ่มจาก 3% เป็น 5% ก็ไม่น่าจะส่งผลมากนัก ส่วนรถขนาด 500 ซีซีขึ้นไปนั้นได้รับผลกระทบพอสมควร ซึ่งบริษัทยังคงแบกรับภาระต้นทุนที่เพิ่มขึ้นอยู่ และคาดว่าจะยังคงแบกรับได้เนื่องจากรถประเภทดังกล่าวมียอดขายต่ำกว่า 100 คันต่อปี ซึ่งจากการที่ภาครัฐปรับภาษี ก็น่าจะทำให้ลูกค้าหันมาใช้รถจักรยานยนต์ขนาดกลางมากขึ้น เพราะราคาปรับขึ้นเพียงเล็กน้อย
มาคอยดูกันต่อว่า ไลน์การผลิต BIG BIKE ของ SUZUKI ในประเทศไทย ขนาด 200 cc ขึ้นไป ที่จะขายไทยปีนี้ 1 รุ่น จะเป็นรุ่นอะไร ?
อาจจะเป็น Suzuki Inazuma 250 ก็ได้ หรือ รุ่นอื่นๆ ก็ได้
++ SUZUKI จะตั้งไลน์การผลิต BIG BIKE ในประเทศ ขนาด 200 cc ขึ้นไป ขายไทยปีนี้ 1 รุ่น ++
updated: 26 ม.ค. 2556 เวลา 15:30:12 น.
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
ไทย ซูซูกิ ลุยตลาดรถขนาดกลาง ชูแผน "อีโคมาร์เก็ตติ้ง" หวังโกยยอดขาย 1.2 แสนคัน พร้อมดันไทยขึ้นชั้นฮับใหญ่สุดหลังบริษัทแม่โยกไลน์ผลิตเครื่องยนต์เรือป้อน อาเซียน เทงบฯอีก 1,000 ล้านเพิ่มการผลิตตั้งไลน์ผลิตรถใหม่
นาย เลิศศักดิ์ นววิมาน ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายขายและการตลาด บริษัท ไทยซูซูกิ มอเตอร์ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายรถจักรยานยนต์ซูซูกิ เปิดเผยว่าปีนี้บริษัทตั้งเป้ายอดขายรวมไว้ที่ 120,000 แสนคัน จากยอดจำหน่ายตลาดรถที่ 2 ล้านคัน หลังจากในปีที่ผ่านมามียอดขาย 76,300 คัน จากที่ตั้งเป้าไว้ในปีที่ผ่านมา 120,000 คัน เนื่องจากในปีที่ผ่านมามีการเปิดตัวรถจักรยานยนต์รุ่นใหม่เพียง 2 รุ่น ต่างจากคู่แข่งที่มีการเปิดตัวหลายรุ่น
ดังนั้นจึงได้เตรียมแนะนำรถ รุ่นใหม่อย่างน้อย 4 รุ่น พร้อมใช้งบฯการตลาดกว่า 700 ล้านบาท มุ่งเน้นอีโคมาร์เก็ตติ้งให้สอดคล้องกับผลิตภัณฑ์ที่ประหยัดน้ำมัน เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และมีสมรรถนะที่ดี ล่าสุดกับการแนะนำรถจักรยานยนต์อีโครุ่น "เล็ทส์" ด้วยลีปเทคโนโลยีที่ประหยัดน้ำมันได้ถึง 56 กม.ต่อลิตร ต่อจากรถจักรยานยนต์อีโครุ่นแรก คือ "เน็กซ์" ที่ได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี
นอกจากนี้ยังเตรียมแนะ นำรถจักรยานยนต์ขนาดกลางที่ได้จำหน่ายแล้วในบางประเทศ แต่จะผลิตพร้อมกับจำหน่ายในประเทศไทยเป็นที่แรก ซึ่งจากการที่แนะนำรถจักรยานยนต์ขนาดที่ใหญ่ขึ้น บริษัทก็เตรียมขยายซูซูกิ ลีสซิ่ง จากที่มีอยู่ 18 แห่ง จะเพิ่มเป็น 24 แห่งทั่วประเทศ
ส่วน แผนการดำเนินงานของหลังบริษัทแม่ได้วางตำแหน่งให้ซูซูกิในประเทศไทยเป็นฐาน การผลิตทั้งรถจักรยานยนต์ และเครื่องยนต์เรือ สำหรับตลาดอาเซียนและการส่งออกในประเทศอื่น ๆ ล่าสุดได้ใช้งบประมาณกว่า 1,000 ล้านบาท สำหรับขยายกำลังการผลิตเครื่องยนต์เรือ รวมถึงการตั้งไลน์การผลิตรถจักรยานยนต์รุ่นใหม่
ซึ่งแผนการขยาย กำลังการผลิตเครื่องยนต์เรือนั้น จากเดิมมีกำลังการผลิต 64,000 เครื่องต่อปี แต่ในปีนี้ตั้งเป้ายอดผลิต 70,000 เครื่องต่อปี จึงได้ขยายกำลังการผลิตด้วยการติดตั้งเครื่องจักรใหม่ในโรงงานเดิม และการตั้งโรงงานใหม่ขึ้นอีกแห่งในบริเวณโรงงานที่ จ.ปทุมธานี ซึ่งจะส่งออกไปจำหน่ายทั่วโลก
ด้านการตั้งไลน์การผลิตสำหรับรถ จักรยานยนต์นั้น จะรองรับการผลิตสำหรับรถรุ่นใหม่ที่จะเปิดตัวในปีนี้ถึง 4 รุ่น โดย 1 ใน 4 รุ่นดังกล่าว จะมีการผลิตรถจักรยานยนต์ขนาดกลางระดับ 200 ซีซี ขึ้นไปด้วย ขณะที่รถรุ่นที่จำหน่ายอยู่แล้วในปัจจุบันนั้นบริษัทมีกำลังการผลิตเพียงพอ กับความต้องการของลูกค้าแล้วที่จำนวน 120,000 แสนคันต่อปี
"เราเป็น ฮับการผลิตทั้งรถจักรยานยนต์และเครื่องยนต์เรืออยู่แล้ว แต่ปีนี้จะเพิ่มความเข้มข้นมากขึ้น ทั้งเพิ่มการผลิตเครื่องยนต์เรือสำหรับตลาดส่งออก ส่วนรถจักรยานยนต์นั้น รถขนาดเล็กยังมีการผลิตเพียงพอ แต่ก็จะเพิ่มรถขนาดกลางเข้าไปด้วย" นายเลิศศักดิ์กล่าว
ส่วนประเด็นที่ภาครัฐได้มีการปรับอัตราภาษีสรรพ สามิตสำหรับจักรยานยนต์ โดยเปลี่ยนจากการแบ่งตามประเภท 2 และ 4 จังหวัด เป็นคิดตามขนาดซีซีนั้น บริษัทมองว่าในส่วนของรถใหม่ที่จะจำหน่ายนั้นมีขนาดอยู่ที่ 200 ซีซีขึ้นไป แต่ไม่ถึง 500 ซีซี ซึ่งภาษีจะปรับเพิ่มจาก 3% เป็น 5% ก็ไม่น่าจะส่งผลมากนัก ส่วนรถขนาด 500 ซีซีขึ้นไปนั้นได้รับผลกระทบพอสมควร ซึ่งบริษัทยังคงแบกรับภาระต้นทุนที่เพิ่มขึ้นอยู่ และคาดว่าจะยังคงแบกรับได้เนื่องจากรถประเภทดังกล่าวมียอดขายต่ำกว่า 100 คันต่อปี ซึ่งจากการที่ภาครัฐปรับภาษี ก็น่าจะทำให้ลูกค้าหันมาใช้รถจักรยานยนต์ขนาดกลางมากขึ้น เพราะราคาปรับขึ้นเพียงเล็กน้อย
มาคอยดูกันต่อว่า ไลน์การผลิต BIG BIKE ของ SUZUKI ในประเทศไทย ขนาด 200 cc ขึ้นไป ที่จะขายไทยปีนี้ 1 รุ่น จะเป็นรุ่นอะไร ?
อาจจะเป็น Suzuki Inazuma 250 ก็ได้ หรือ รุ่นอื่นๆ ก็ได้