บนโลกนี้ยังมีคนรวยที่คิดแบบนี้อีกเยอะมั้ย??

กระทู้สนทนา
เรามีความคิดสับสนไปหมดเลยค่ะตอนนี้ เกี่ยวกับเรื่อง ความรวย ความจน ศีลธรรม และการศึกษา
เริ่มเล่าเลยนะคะ พอดีมาอยู่กับแฟนค่ะ คบกันมาได้หลายปีแล้ว ที่บ้านแฟนมีธุรกิจส่วนตัวซึ่งก็ทำกำไร
ได้ดีอยู่ในระดับนึง แต่พอหลังๆดิฉันรู้สึกว่าไม่เข้ากับตัวเอง (เป็นอู่ซ่อมรถค่ะ) ประกอบกับ ดิฉันทำงาน
ร่วมกับพ่อแฟนไม่ได้ เพราะท่านเอาแต่ใจเเล้วคิดตลอดว่าดิฉันจะมาหวังเอาสมบัติท่าน
ดิฉันก็พูดกับแฟนตรงๆนะคะว่ารู้สึกยังไงกับพ่อของแฟน แฟนดิฉันจึงตัดสินใจว่างั้นเราก็หาเงินมาทำธุรกิจ
อีกตัวดีกว่า ทำเป็นของเรา2คนเอง ดิฉันก็เห็นด้วยกับความคิดนี้

แฟนดิฉันจึงเข้าไปขอคำปรึกษากับพี่สาวของเค้า พี่สาวแฟนดิฉันเป็นคนละพ่อกันค่ะ แต่พอของ
แฟนดิฉันท่านเป็นคนเลี้ยงดูมา ประเด็นคือที่ตัวพี่สาวของแฟนดิฉันนี่แหละค่ะ

ครอบครัวขอวเธอรวยมาก รวยจนดิฉันไม่อยากเชื่อถ้าไม่เหนด้วยตาตัวเอง บ้านราคาหลายสิบล้าน
รถรวมกันนี่ก็ได้บ้านอักหลายหลังเลยค่ะ ครอบครัวของพี่สาวแฟนดิฉันทำธุรกิจ2อย่างหลักๆคือ
บริษัท รัยออกแบบตกแต่งภายในแบะธุรกิจขายเพชรจิวเวลรี่
จริงๆดิฉันก็เข้าไปพบปะพูดคุยเอาของไปเยี่ยมทางพี่สาวของแฟนอยู่เป็นประจำ ทุกครั้งที่ไปดฉันก็รุ้สึกเหมือน
ตัวเล็กลงเหมือนเมล็ดถั่วเขียว ด้วยท่าทางนางพญา ของพี่สาวแฟน แต่เธอก็เป็นกันเองค่ะ พูดจาหยอกล้อสบถ
หยาบคายเหมือนเราๆคนทั่วไป พูดจาตรงๆฉะฉาน จึงทำให้ดิฉันรุ้สึกดีขึ้น แต่การไปเยี่ยมเพื่อขอคำปรึกษาในการ
ทำธุรกิจของดิฉันครั้งนี้ ทำให้ดิฉันเกิดข้อสงสัยมากมายกับคนรวย

เมื่อเข้าไปเริ่มคุย เค้าก็ให้คำแนะนำดีเยอะๆค่ะ ทั้งตัวพี่สาวแฟนและสามีของเธอ
ทั้ง2จะพูดประมาณว่า ต้องคำนึงถึงอะไรบ้าง หลักสูตรต่างๆ พูดไทยคำอังกฤษคำ ซึ่งดิฉันก็เบลอๆ
แล้วทุกครั้งที่พูดจะต้องมีคำพูดประมาณว่า พี่ยอมรับนะว่าพี่เก่ง ซึ่งเก่งมากเลยล่ะ
ที่พี่มาอยู่จุดนี้ได้ , พี่ก็รุ้แหละว่าพี่ฉลาดพี่ถึงรวยทุกวันนี้ ... จะมีคำพูดแบบนี้ทุกประโยคบทสนทนา
ตอนเเรกดิฉันก็คิดว้าพวกท่านพูดทำนองหยอกเอิญ แต่ฟังไปฟังมายอตัวเองเยอะไปมั้ย??
และก็มาสรุปตัวดิฉันด้วยว่า เป็นคนทะเยอทะยานอยากได้อยากมี อีกหน่อยได้เงินเท่านี้เดี๋ยวก็จะอยาก
มากขึ้น ดิฉันก็ ทำหน้าเอ๋อๆเเล้วก็ไม่ได้พูดอะไร เค้าบอกว่าดิฉันมาจากครอบครัวที่ไม่เคยมีเงิน
แน่นอนเมื่อมีโอกาสได้มีเงิน ก็จะทำทุกอย่าง !! ดิฉันโกรธมากค่ะที่มาตัดสินกันแบบนี้ แต่ก็ไม่ได้
พูดหรือเถียงอะไรไปเพราะเกรงใจแฟน วันนั้นทำให้ดิฉันคิดต่างทันทีกับคนรวย

ดิฉันจึงเปลี่ยนบทสนทนามาเป็นเรื่องการเรียนของแฟนดิฉัน ว่าจะทำให้เค้าจบป.ตรีให้ได้ พี่สาวของแฟนดิฉัน
ก็สวนขึ้นมาทันทีว่า อย่าไปเสียเวลาเลย เรียนน่ะ เอาเวลามาหาเงินดีกว่า พี่กล้าพูดได้เลยนะว่า ไอ้ครูที่สอน
พี่มาทุกคนน่ะ จนกว่าพี่หมด!! นี่พี่ก็จะให้ลูกออกจากโรงเรียนและ ถ้ามีคนมาถามว่าให้ออกทำไม พี่ก็จะ
บอกว่า ลูกรวยกว่าครูที่สอนอ่ะ แล้วมันจะมาสอนให้ลูกชั้นรวยได้ยังไง !! นี่พี่จะบอกอะไรให้นะ
เรา2คนลองบอกพี่มานะว่า ดูจากบ้านพี่ รถพี่ ตัวพี่ ถ้าพี่ไปบอกใครว่าจบ ป.โทจาก เยล แก2คน
ว่าทีคนเชื่อมั้ย ดิฉันกับแฟนก็พยักหน้า เค้าก็พูดต่อว่า เห็นมั้ยถ้าเรารวยอ่ะใครเค้าก็ยกย่องเชิดชูเรา
เค้าไม้สนใจหรอกว่าเราจบมาจริงหรือเปล่า เพราะฉะนั้นพี่ว่สเรา2คนไปลงทุนทำธุรกิตเถอะ พี่อยากคุยกับ
พวกแกรู้เรื่อง ทุกวันนี้พี่ไม่มีเพื่อนคุยด้วยล่ะจะให้พี่ทำยังไงอ่ะ พี่ทำตัวลำบากนะที่คุนกับเพื่อนที่จนกว่า
จะไปกินข้าวกันยังลำบากเลย แก2คนคิดดูสิ พี่2คนอยู่บ้านราคาขนาดนี้อ่ะถ้าพี่ไปเที่ยวพี่ต้อวอยู่โรงแรม
แบบไหน พี่กินข้าวกินอาหารแบบนี้อ่ะ แล้วไปกินข้าวนอกต้องกินแบบไหน พอพี่กินแพง นอนแพงเพื่อนมันก็
หาว่าพี่อวดรวย จะให้พี่ทำยังไงอ่ะ ก็พี่มีเงินอ่ะ!!!!

ดิฉันข็อคค่ะทำหน้าเอ๋อพูดไม่ออก ดิฉันยอมรับค่ะว่าพวกเค้ารวยจริง แต่ไม่คิดว่าคนที่รวยมากๆจะคิด
อะไรแบบนี้ ไม่เคยถ่อมตน ดูถูกคนอื่น หลงเงิน หลงตัวเอง ดิฉันคิดว่ามีแต่ในละครค่ะ

จะไม่อยากเข้าไปพบก็กระไร เพราะต้องปรึกษาเรื่องธุรกิจกันอีกหลายขุม
เพราะพวกท่านฉลาดเรื่องวางเกมส์ธุรกิจจริงๆค่ะ

ทีีเล่ามาทั้งหมดนี้อยากทราบว่าทุกท่านในที่นี้เคยเจอคนหรือครอบครัวแบบนี้
บ้างหรือเปล่า คนแบบนี้ในสังคมมีเยอะมั้ย?? แล้วจะต้องรับมือยังไงถ้าต้องร่วมงานกัน


การตัดสินคนอื่นในสายตาของคนมีเงิน มันง่ายดายขนาดนั้นเลยหรือ
ถ้าวันนึงดิฉันมีเงิน ดิฉันจะไม่ลืมกำพืดตัวเอง และจะไม่ตัดสินใครแบบนีิ
นี่ไม่ใช่คำพูดลอยๆของดิฉัน แค่จะเป็นสิ่งเตือนใจ ว่าจะไม่ทำแบบนี้กับใครทั้งสิ้น
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่