คนที่อยู่ในกลุ่มโดนข้อหาร่วมกันพยายามฆ่า อย่างกรณีนี้ยกฟ้องได้ไหม ช่วยตอบหนูหน่อยนะคะ..เหลือเวลาอีก 1 เดือน ขีดเส้นชีวิต

เรื่องมีอยู่ว่าสมัยแฟนดิฉันเป็นหนุ่มๆได้ศึกษาอยู่ที่โรงเรียนอาชีวะแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ...หลังเลิกเรียนได้นั่งรถเมล์กลับบ้านพร้อมกับเพื่อนๆ
ในการเดินทางครั้งนี้แฟนของดิฉันและเพื่อนๆได้เจอกับคู่อริต่างสถาบันหน้าห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง (ซึ่งก็ไม่ได้มีเรื่องกันมาก่อน) เมื่อทั้ง 2 ฝ่ายได้พบกัน
ก็เกิดการปะทะกันขึ้น ทุกอย่างชุลมุนไปหมด ฝ่ายแฟนดิฉันวิ่งตามคู่อริ 2 คนออกมากับเพื่อนอีก 3 คน วิ่งไล่กันจนคู่อริพลาดพลั้งล้มลง 2 ใน 4 ของกลุ่มแฟนดิฉันได้ใช้อาวุธมีดสปาต้าฟันคู่อริ 1 คน ส่วนอีกคนที่เหลือกำลังโดนแฟนดิฉันและเพื่อนในกลุ่มอีก 1 คน รุมทำร้ายร่างกายอยู่ เหตุการณ์ผ่านไปสักพักตำรวจได้เข้ามาควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ เหตุการณ์ครั้งนี้มีผู้บาดเจ็บสาหัสอยู่ 1 ราย คือคนที่โดนเพื่อนของแฟนดิฉันฟันเข้าที่ศรีษะ ทุกคนที่มีเรื่องทะเลาะวิวาทถูกพาตัวไปโรงพัก จะมีก็แต่ผู้บาดเจ็บ 1 รายถูกหามส่งโรงพยาบาลที่ไม่ได้ไป ทุกคนถูกสอบปากคำตามปกติจนมาถึงชายหนุ่มที่โดนแฟนดิฉันทำร้ายร่าง ซึ่งเป็นเพื่อนของผู้ที่ถูกฟัน ตำรวจให้ชายหนุ่มคนนั้นเป็นคนชี้ว่าใครเป็นคนฟันเพื่อนของตน เพราะเจ้าตัวไม่สามารถมาชี้ตัวได้ ชายหนุ่มคนนั้นชี้แฟนดิฉันและเพื่อนอีก 3 คนที่เหลือตำรวจได้ทำการลงบันทึกประจำวัน เพื่อนของแฟนดิฉันโดนศาลเยาวชนกันหมดเพราะ 3 คนนั้นอายุเพียง 16-17 ปียกเว้นแฟนดิฉันคนเดียวที่อายุ 18 ปี ไม่ต้องสืบเลยว่าจะโดนศาลไหน.....แน่นอนต้องโดนศาลผู้ใหญ่แล้ว....
    
     เพื่อนของแฟนดิฉัน 3 คนถูกศาลเยาวชนตัดสินให้จำคุก 4 ปีในบ้านเมตตาแต่แฟนดิฉันต้องรอคำพิพากษาจากศาลอาญาคนเดียว เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นตั้งแต่ พ.ศ.2548 เรื่องราวล่วงเลยมาจนถึงวันที่ศาลชั้นต้นนัดฟังคำพิพากษา เพื่อนทั้ง 3 คนถูกเชิญให้มาเป็นพยานโดยให้การเป็นพยานในชั้นศาลว่าแฟนดิฉันไม่ได้เป็นผู้กระทำ (ฟันโจทย์) กล้องวงจรปิดหน้าห้างไม่สามารถนำมาเป็นหลักฐานมัดตัวแฟนดิฉันได้เนื่องจากจุดที่โจทย์โดนกระทำไม่พบภาพแฟนดิฉันยืนอยู่ตรงนั้นด้วย ศาลชั้นต้นตัดสินออกมาว่า "รอลงอาญา" ถ้าจะถามว่าโจทย์เป็นยังไงบ้าง คนที่โดนฟันศรีษะก็มีผลกระทบทางสมองแน่นอนอยู่แล้ว ไม่สามารถมาให้การในชั้นศาล เรื่องราวน่าจะจบเพียงแค่นั้น....แต่ป่าวเลยฝั่งพ่อแม่โจทย์ไม่พอใจในคำตัดสิน จึงยื่นฟ้องอุทธรณ์ต่อ
  
     เวลาผ่านไป 4 ปี พ.ศ.2552 เพื่อนทั้ง 3 คนของแฟนดิฉันออกจากบ้านเมตตากันหมดแล้ว แต่คดีของแฟนดิฉันยังไม่จบ ในปี พ.ศ.2551 เดือนตุลาคมศาลอุทธรณ์ได้เรียกตัวแฟนดิฉันมาฟังคำพิพากษา ตอนนั้นฉันคิดว่าต้องรอดแน่ๆ....คดีกลับพลิก....ศาลอุทธรณ์ตัดสินสั่งต้องโทษ 20 ปี ลดโทษให้กึ่งหนึ่งเนื่องจากไม่เคยกระทำความผิดมาก่อนเหลือ 10 ปี น้ำตาฉันไหลพรากแฟนดิฉันเข่าทรุด ทนายยืนนิ่ง ทุกอย่างดูอึนไปหมด...แปปเดียวเท่านั้นแฟนดิฉันก็ถูกล็อคตัวไปฝากขังในห้องขังด้านล่างของศาล ครอบครัวของแฟนดิฉันไม่ยอมจึงขอยื่นเรื่องต่อศาลฎีกา วันนั้นติดวันศุกร์พอดี ประกันตัวไม่ทัน แฟนดิฉันจึงถูกนำตัวไปฝากขังที่ "เรือนจำพิเศษกรุงเทพ" เป็นเวลา 5 วัน ได้ออกจากเรือนจำในวันอังคารช่วง 1 ทุ่มเศษๆ
  
     และเวลาก็ล่วงเลยผ่านไป 5 ปี จนมาครบปีพ.ศ.2557 วันอังคารที่ 29 กรกฎาคม 2557 ศาลฎีกามีคำสั่งเรียกตัวแฟนดิฉันไปฟังคำพิพากษา ตอนนี้ดิฉันไม่รู้จะทำยังไงดี กลัวใจทนายเพราะคนเก่าวิ่งเล่นเอาแต่เงินไม่ได้วิ่งเต้นเดินเรื่องให้ แฟนดิฉันเปลี่ยนทนายเป็นคนที่ 2 แล้ว (ค่าจ้างของแต่ละคนเกือบแสน) ดิฉันไม่รู้จะทำยังไง...ไม่รู้จะทำอะไรแล้ว ฉันสงสารแฟนดิฉันมาก ฉันร้องไห้ทุกวัน เป็นทุกข์ไม่มีความสุข วอนขอผู้ที่มีเมตตามีความรู้ในด้านนี้มาให้คำปรึกษาในคำตัดสินของศาลฎีกาในเรื่องที่ดิฉันกล่าวมาหน่อยนะคะ เพราะดิฉันก็ไม่รู้จะหันไปปรึกษาใครแล้วจริงๆ.......

*..กรณีที่เกิดขึ้นนี้สามารถยกฟ้องได้ไหม..*??????????????????????????????????
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่