ประชาชนสวะ
ที่คุณสาธิต ได้อุตส่าห์ให้คำนิยามกับ กรณีประชาชนเข้าไปเห็นต่างในกรณี ความไม่มีกาละเทศะใน FB เรื่องการนำนักการเมืองที่เสียชีวิต หรือเจ็บป่่วยมาล้อเลียน
จนเป็นเหตุให้ คุณสาธิต ถึงกับออกอาการ ต่อว่าประชาชนที่ไม่เห็นด้วยกับคุณว่า ประชาชนชั้นสวะ
บอกตามตรงว่า นับวันธาตุแท้ ในการมองเกลียดชังประชาชนในชาติ ที่เห็นต่างกับคุณ มันยิ่งเด่นชัด ๆ ๆ ๆ จนไม่สามารถให้คำจำกัดความได้ว่า ผู้แทนคนนี้ เป็นผู้แทนจากอะไร จากประชาชนคนไหน แตกต่างกับประชาชนชั้น สวะ อย่างไร
ตอนนี้ คุณสาธิต ลุแก่อำนาจ ถึงขนาดเนรคุณประชาชน ทั้ง ๆ ที่ก่อนจะมีการเลือกตั้ง คุณสาธิต พร้อมที่จะกราบ หมาที่ประชาชนชั้นสวะจูงไปถ่ายได้โดยไม่ลังเลใจ เนื่องจากก่อนการเลือกตั้ง ประชาชน คือสิ่งที่คุณสาธิตำให้ได้ทุกอย่าง เพราะต้องการให้ประชาชนช่วยเลือกตัวคุณและพรรคของคุณสาธิตสามารถเข้าไปนั่งชูคอในสภา
พอคุณสาธิตได้เป็นตัวแทนสมใจแล้ว คุณสาธิตก็สามารถ เรียกประชาชนที่คุณสาธิต เคยไหว้ปะหลก ๆ ว่า สวะ ได้อย่างเต็มภาคภูมิ
ผมไม่รู้ว่า คนพรรคการเมืองนี้ เขาเรียกว่าอะไร กับวิธีการเช่นนี้
ผมจำได้ว่า ในเขตที่ผมใช้สิทธิเลือกตั้งนั้น ส่วนมากผมจะสลับการลงคะแนนให้แต่ละพรรค แต่ละคน ในการเลือกตั้ง โโยจะดูภาพรวมจาก การทำงานในอดีต และนโยบายเป็นการตัดสินใจ
ผมจำได้ว่า ครั้งใดที่ผมลงคะแนนให้พรรคประชาธิปัตย์ และ ในเขตนั้น ประชาธิปัตย์ชนะ คุณชวนก็จะบอกว่า ความสกปรก การโกง ความเลว ความชั่ว ความ ฯลฯ ไม่อาจทานกระแสเสียงอันบรุสุทธิผุดผ่องของประชาชนได้ (ฮา) คะแนนที่ พรรคได้มา เป็นพลงอันบริสุทธิ ซึ่งน่าจะมาจากประชาชนอันมีคุณภาพ (ประโยคหลังนี้ผมเติมเอง)
แต่ในทางกลับกัน หากมีการเลือกตั้งครั้งต่อมา แล้ว เผอิญผมไม่เลือกพรรคนี้อีก แต่ไปเลือก พรรคอื่นแทน แล้ว ประชาธิปัตย์แพ้ คุณชวนก็จะออกมากรีดผมว่า แพ้เพราะเงิน แพ้เพราะประชาชนเห็นแก่ได้ แพ้เพราะ ประชาชนไม่ดี (ไม่ฮา)
ทั้ง ๆ ที่เสียงบริสุทธิ หรือเสียงจากความเลวร้าย มันก็มาจากไอ้ฐานเสียงของประชาชน กลุ่มเดิมคนเดิม
การจะเลือกหรือไม่เลือก จะรักหรือไม่รัก พรรคประชาธิปัตย์ จึงไม่ใช่หมายความว่า พวกเขาคือสวะ พวกเขาคือศัตรู หรือต้องเอาพวกเขาไปฆ่าทิ้งเสีย
ผมอยากให้คุณดู นักการเมืองฝั่งตรงข้าม ที่เขาบอกกันว่า มันเลว มันโอ่ มันไม่ดี เคยชี้แจงกรณี โดนประชาชนมาขับไล่ ถึงโรงแรมว่า
แม้นเขาจะเป็นนักการเมืองที่ต้นทุนทางสังคมต่ำ แต่เขาเลือกที่จะหนี หนีประชาชนที่มาไล่หัวซุกหัวซุ่น ทั้ง ๆที่เขามีสิทธิจะเรียกเจ้าหน้าที่ให้ระดมกำลังมาใช้มาตรการรุนแรงกับประชาชนที่เห็นต่างกับเขา ในฐานะ มท.๑ ก็ได้ แต่เขาไม่ทำ
เพราะเขาเป็นผู้แทน เขามาจากเสียงของประชาชน ฉะนั้นเขาจะไม่มีวันทำร้ายประชาชน
วันนี้ ผมไม่อยากจะกล่าวหา ว่า พรรคประชาธิปัตย์ โกรธ เกลียด ขยะแขยง ประชาชนที่ไม่ชอบพรรคประชาธิปัตย์ ขนาดไหน
กล้ากระทั่งยัดข้อหา เผาเมือง ให้กับประชาชน ทั้ง ๆ ที่ คนเห็นกันทั่วโลกว่า ตายไปก่อนแล้วทั้งนั้น ก่อนจะมีเหตุจลาจลและมีตึกใน กทม. โดนเผา
กล้ากระทั่ง ทวงถาม สีแดงที่พวกเขาอุตส่าห์เลือกมาเป็นสีสัญลักษณ์ ที่พวกเขาใช้เพียงสีเดียว ไม่เคยเปลี่ยนแปลงชื่อเปลี่ยนสี จนจำกันไม่ไหว
ทั้ง ๆ ที่เขาก็ไม่ได้บอกว่า ห้ามมิให้ใครเอาไปใช้
กล้าแบ่งแยก ประชาชน ใส่ร้ายประชาชน ดูถูกประชาชน เพียงแค่พวกเขามาทวงความเป็นธรรมที่โดนปล้นไป
ครั้งต่อไป หากต้องเดินทางไปหาเสียงที่ใด ผมเห็นควรว่า ประกาศไปเลยนะครับใครไม่เลือก พรรคของผมคือประชาชนชั้นสวะ
ใครเลือกพรรคของผมคือประชาชน ชั้นสูงกินอยู่กันบนหอคอยงาช้าง
เอาชัด ๆ เอาจะ ๆ
โทษทุกอย่าง ไม่เว้นกระทั่งประชาชน โโยไม่เคย พิจารณาถึงความประพฤติของตนเอง
ทักษิณ ไม่ได้อยู่ ๆ ก็บินลงมาให้ประชาชนเลือกท่วมท้น
ตอนเป็นหัวหน้าพรรคพลังธรรม สส.ก็สอบได้คนเดียว คือ สุดารัตน์
ทักษิณ พูดกับลูกพรรคชัดเจนว่า ยอมรับการลงทัณฑ์ จากประชาชน ยอมรับมติประชาชน
เรา (พรรคพลังธรรม ในขณะนั้น) ต้องพิจารณาตนเอง
แล้วเขาก็ส่งทีมลงไปวิจัยภาคสนาม ถามถึงความต้องการของประชาชน
เขาจึงกลบมาชนะใจประชาชนได้ในที่สุด
สำหรับพรรคที่อ้างว่ตัวเองคือสถาบันการเมืองหนะหรือ
โทษทุกอย่าง แต่ไม่เคยโทษตัวเอง
มันถึงแพ้เลือกตั้งอย่างยาวนานแบบนี้งัย ไอ้กร๊วกทั้งหลายเอ้ยยยยยย
กระทู้นี้ ...ขอไว้อาลัย ให้แก่ สส. พรรคประชาธิปัตย์
ที่คุณสาธิต ได้อุตส่าห์ให้คำนิยามกับ กรณีประชาชนเข้าไปเห็นต่างในกรณี ความไม่มีกาละเทศะใน FB เรื่องการนำนักการเมืองที่เสียชีวิต หรือเจ็บป่่วยมาล้อเลียน
จนเป็นเหตุให้ คุณสาธิต ถึงกับออกอาการ ต่อว่าประชาชนที่ไม่เห็นด้วยกับคุณว่า ประชาชนชั้นสวะ
บอกตามตรงว่า นับวันธาตุแท้ ในการมองเกลียดชังประชาชนในชาติ ที่เห็นต่างกับคุณ มันยิ่งเด่นชัด ๆ ๆ ๆ จนไม่สามารถให้คำจำกัดความได้ว่า ผู้แทนคนนี้ เป็นผู้แทนจากอะไร จากประชาชนคนไหน แตกต่างกับประชาชนชั้น สวะ อย่างไร
ตอนนี้ คุณสาธิต ลุแก่อำนาจ ถึงขนาดเนรคุณประชาชน ทั้ง ๆ ที่ก่อนจะมีการเลือกตั้ง คุณสาธิต พร้อมที่จะกราบ หมาที่ประชาชนชั้นสวะจูงไปถ่ายได้โดยไม่ลังเลใจ เนื่องจากก่อนการเลือกตั้ง ประชาชน คือสิ่งที่คุณสาธิตำให้ได้ทุกอย่าง เพราะต้องการให้ประชาชนช่วยเลือกตัวคุณและพรรคของคุณสาธิตสามารถเข้าไปนั่งชูคอในสภา
พอคุณสาธิตได้เป็นตัวแทนสมใจแล้ว คุณสาธิตก็สามารถ เรียกประชาชนที่คุณสาธิต เคยไหว้ปะหลก ๆ ว่า สวะ ได้อย่างเต็มภาคภูมิ
ผมไม่รู้ว่า คนพรรคการเมืองนี้ เขาเรียกว่าอะไร กับวิธีการเช่นนี้
ผมจำได้ว่า ในเขตที่ผมใช้สิทธิเลือกตั้งนั้น ส่วนมากผมจะสลับการลงคะแนนให้แต่ละพรรค แต่ละคน ในการเลือกตั้ง โโยจะดูภาพรวมจาก การทำงานในอดีต และนโยบายเป็นการตัดสินใจ
ผมจำได้ว่า ครั้งใดที่ผมลงคะแนนให้พรรคประชาธิปัตย์ และ ในเขตนั้น ประชาธิปัตย์ชนะ คุณชวนก็จะบอกว่า ความสกปรก การโกง ความเลว ความชั่ว ความ ฯลฯ ไม่อาจทานกระแสเสียงอันบรุสุทธิผุดผ่องของประชาชนได้ (ฮา) คะแนนที่ พรรคได้มา เป็นพลงอันบริสุทธิ ซึ่งน่าจะมาจากประชาชนอันมีคุณภาพ (ประโยคหลังนี้ผมเติมเอง)
แต่ในทางกลับกัน หากมีการเลือกตั้งครั้งต่อมา แล้ว เผอิญผมไม่เลือกพรรคนี้อีก แต่ไปเลือก พรรคอื่นแทน แล้ว ประชาธิปัตย์แพ้ คุณชวนก็จะออกมากรีดผมว่า แพ้เพราะเงิน แพ้เพราะประชาชนเห็นแก่ได้ แพ้เพราะ ประชาชนไม่ดี (ไม่ฮา)
ทั้ง ๆ ที่เสียงบริสุทธิ หรือเสียงจากความเลวร้าย มันก็มาจากไอ้ฐานเสียงของประชาชน กลุ่มเดิมคนเดิม
การจะเลือกหรือไม่เลือก จะรักหรือไม่รัก พรรคประชาธิปัตย์ จึงไม่ใช่หมายความว่า พวกเขาคือสวะ พวกเขาคือศัตรู หรือต้องเอาพวกเขาไปฆ่าทิ้งเสีย
ผมอยากให้คุณดู นักการเมืองฝั่งตรงข้าม ที่เขาบอกกันว่า มันเลว มันโอ่ มันไม่ดี เคยชี้แจงกรณี โดนประชาชนมาขับไล่ ถึงโรงแรมว่า
แม้นเขาจะเป็นนักการเมืองที่ต้นทุนทางสังคมต่ำ แต่เขาเลือกที่จะหนี หนีประชาชนที่มาไล่หัวซุกหัวซุ่น ทั้ง ๆที่เขามีสิทธิจะเรียกเจ้าหน้าที่ให้ระดมกำลังมาใช้มาตรการรุนแรงกับประชาชนที่เห็นต่างกับเขา ในฐานะ มท.๑ ก็ได้ แต่เขาไม่ทำ
เพราะเขาเป็นผู้แทน เขามาจากเสียงของประชาชน ฉะนั้นเขาจะไม่มีวันทำร้ายประชาชน
วันนี้ ผมไม่อยากจะกล่าวหา ว่า พรรคประชาธิปัตย์ โกรธ เกลียด ขยะแขยง ประชาชนที่ไม่ชอบพรรคประชาธิปัตย์ ขนาดไหน
กล้ากระทั่งยัดข้อหา เผาเมือง ให้กับประชาชน ทั้ง ๆ ที่ คนเห็นกันทั่วโลกว่า ตายไปก่อนแล้วทั้งนั้น ก่อนจะมีเหตุจลาจลและมีตึกใน กทม. โดนเผา
กล้ากระทั่ง ทวงถาม สีแดงที่พวกเขาอุตส่าห์เลือกมาเป็นสีสัญลักษณ์ ที่พวกเขาใช้เพียงสีเดียว ไม่เคยเปลี่ยนแปลงชื่อเปลี่ยนสี จนจำกันไม่ไหว
ทั้ง ๆ ที่เขาก็ไม่ได้บอกว่า ห้ามมิให้ใครเอาไปใช้
กล้าแบ่งแยก ประชาชน ใส่ร้ายประชาชน ดูถูกประชาชน เพียงแค่พวกเขามาทวงความเป็นธรรมที่โดนปล้นไป
ครั้งต่อไป หากต้องเดินทางไปหาเสียงที่ใด ผมเห็นควรว่า ประกาศไปเลยนะครับใครไม่เลือก พรรคของผมคือประชาชนชั้นสวะ
ใครเลือกพรรคของผมคือประชาชน ชั้นสูงกินอยู่กันบนหอคอยงาช้าง
เอาชัด ๆ เอาจะ ๆ
โทษทุกอย่าง ไม่เว้นกระทั่งประชาชน โโยไม่เคย พิจารณาถึงความประพฤติของตนเอง
ทักษิณ ไม่ได้อยู่ ๆ ก็บินลงมาให้ประชาชนเลือกท่วมท้น
ตอนเป็นหัวหน้าพรรคพลังธรรม สส.ก็สอบได้คนเดียว คือ สุดารัตน์
ทักษิณ พูดกับลูกพรรคชัดเจนว่า ยอมรับการลงทัณฑ์ จากประชาชน ยอมรับมติประชาชน
เรา (พรรคพลังธรรม ในขณะนั้น) ต้องพิจารณาตนเอง
แล้วเขาก็ส่งทีมลงไปวิจัยภาคสนาม ถามถึงความต้องการของประชาชน
เขาจึงกลบมาชนะใจประชาชนได้ในที่สุด
สำหรับพรรคที่อ้างว่ตัวเองคือสถาบันการเมืองหนะหรือ
โทษทุกอย่าง แต่ไม่เคยโทษตัวเอง
มันถึงแพ้เลือกตั้งอย่างยาวนานแบบนี้งัย ไอ้กร๊วกทั้งหลายเอ้ยยยยยย