มีเรื่องตลกที่พูดกันเล่นๆ ( แต่น่าจะจริง 55 ) ว่า...

ถ้าเกลียดใครนี่ ยุให้ไปเปิดฟิตเนสเลย รับรอง 555

ธุรกิจนี้ยากกว่าที่คิดนะครับ

ทุนต้องหนา สายป่านต้องยาว

ค่าบริหารต่อเดือนสูงมาก

เจ้าใหญ่ๆที่ล้มนี่ จะว่าไป มือแรกนี่ รวยไปแล้วนะ แต่ท่ามกลางเสยงสาปแช่งก็ไม่ไหวนะ ^^

เจ้าใหญ่ๆที่ยังอยู่ก็ทุนหนา บริหารจัดการดี ( แต่วงในเค้าว่าก็ขาดทุนนะ อยู่ได้เพราะชื่อเสียงและสายป่าน )

แต่ถ้าอยากทำจริงๆก็จะบอกคร่าวๆ ( แต่ผมไม่ได้เกลียด จขกท นะ 555 )

มีเงินทุนเท่าไร พอซื้อเครื่องไหม 200,000 นี่น้อยมากนะครับ ด้วยความเคารพ ( ลู่วิ่งดีๆที่ใช้ในยิมได้ ก็150,000 Up แล้วนะครับ )

มีพื้นที่เองไหม ถ้าต้องเช่า สัญญายังไง เท่าไหร่

มีพื้นที่ + เครื่อง ที่รองรับสมาชิก ( ช่วงพีค 16.00-20.00 ) มาพร้อมๆกันนี่ได้กี่คน

ข้างบนจะบอกได้ว่าต้องมีพนักงานกี่คน

ค่าจ้างพนักงาน + ค่าเช่า + ค่าเสื่อมเครื่อง นี่ก็อ่วมแล้วนะครับ ต่อเดือน

ไม่รวมค่าการตลาด ค่าจิปาถะ

แล้วพอได้รายจ่ายแล้ว มาดูว่าจะคิดค่าสมาชิกเท่าไหร่ มีประเภทไหนบ้าง

ต้องขายได้เดือนละเท่าไร ถึงจะพอค่าใช้จ่าย

รายละเอียดอีกเยอะครับ นี่คร่าวๆ

ลูกค้าอยากได้ที่ดีๆ แต่จ่ายถูกๆ นี่คือความจริง ^^

คนไทย ( ไม่ได้ว่าทั้งหมดนะครับ แค่จากที่เจอมา ) ส่วนใหญ่ไม่ได้รักการออกกำลังกาย ไม่คิดว่าต้องทำเป็นประจำ ไม่มีวินัยในการออกกำลังกาย

ประเภทถ้าไม่หมอสั่ง รึต้องออกกำลังกายแล้วตอนนี้ ไม่งั้นตายแน่ๆ 555  ก็ไม่ค่อยจะใส่ใจกันหรอกครับ คิดว่ายังแข็งแรงอยู่ ^^

20 - 30 % ของสมาชิก ที่จะมาใช้บริการประจำ พวกนี้เป็นกลุ่มที่ซีเรียสจริงจัง เล่นแล้วเห็นผล เล่นแล้วหยุดไม่ได้ มีวินัยในตัวเองสูง

แล้วก็จะมีพวก มาเพื่อให้ได้รู้ว่าฉันนี่เป็นเมมเบอร์ฟิตเนสนะ  มาอยู่ตั้งแต่เช้ายันเย็น กินน้ำอัดลม กาแฟ ( แจกฟรีในฟิตเนส ก็คิดเอาล่ะกันนะ T_Y )

เล่นพอเป็นพิธี จับกลุ่ม เม้ามอย พอกลุ่มใหญ่หน่อย สร้างอำนาจ ต่อรอง เรียกร้องจะเอานู่นนี่นั่น ( แต่จ่ายเท่าเดิมนะ ปีต่อไปลดให้ด้วย  T__T )

นอกนั้นมาๆหายๆ เล่นแล้วปวดเมื่อย ขีเกียจ ก็จะมาบ้างไม่มาบ้าง พอหมดอายุสมาชิกก็จะไม่ต่อ เพราะคิดว่าไม่คุ้ม

แล้วก็ต้องหาลูกค้าใหม่ๆ เข้ามาทดแทนไปเรื่อยๆ ทำการตลาด ทำนู่นนี่

สรุป

เอาเงินไปทำอย่างอื่นดีกว่าครับ ผมรัก จขกท นะ ถึงเตือน 555