A Little Strip To Tease Your Heart...ถอดทีละนิดพิชิตใจ (ถอด...ชิ้นที่สิบสอง สร้างความร้าวฉานคืองานของมนต์อัปสร???)

กระทู้สนทนา
คุณนายนวลกลับมาแว้วววค่า  หายหน้าไปนาน  ส่งน้องมิลค์มากระชับพื้นที่หัวใจคุณธีขาต่อแล้วค่ะ  

ความเดิมตอนที่แล้วค่ะ สำหรับใครที่พลาดไปหรือลืมกันไปแล้ว  

http://ppantip.com/topic/30032786/comment2


ถอด...ชิ้นที่สิบสอง

                       ภาพสาวน้อยหน้าตาน่ารักในชุดเกาะอกสีชมพูสดใสกอดอกนั่งกอดกระเป๋าเป้ทำหน้ายับยุ่ง ดึงดูดสายตาให้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาไม่น้อย  รวมถึงคุณหมอท่านผู้อำนวยการประจำโรงพยาบาลที่กำลังจะเดินขึ้นลิฟต์เพื่อไปที่ห้องทำงานด้านบนด้วย


                      “อ้าวหนูมิลค์ทำไมมานั่งอยู่ตรงนี้ละคะ”  


                     คนที่ทำหน้ายับยุ่งเพราะกลุ้มใจว่าจะหาทางขึ้นไปเจาะแจ๊ะคุณธีขา เอ้ย ไม่ใช่ขึ้นไปทำภารกิจปกป้องอธิปไตยคุณธีขาจากบรรดาเก้งกวางบ่างชะนีอย่างไรดี  ยิ้มแฉ่งหน้าบานเป็นจานเชิงเมื่อได้ยินเสียงทุ้มใจดีทุ้มหู


                        “อุ้ย คุณลุงเทพสวัสดีค่ะ”  พร้อมไหว้เสียอ่อนช้อยจนนางสาวไทยสิบเวทีรวมกันยังต้องอาย


                        “รอพี่เค้าหรือลูก  ทำไมไม่ขึ้นไปรอข้างบน  หรือพี่เค้าไม่ได้ให้รหัสผ่านไว้คะ”คนรับไหว้ถามพร้อมรอยยิ้มเอ็นดู


                        “คุณธีขาให้รหัสไว้ค่ะแต่หนูมิลค์เกรงใจคุณธีขานะค่ะกลัวจะไปรบกวนการทำงานของคุณธีนะค่ะ   อีกอย่างจะให้หนูมิลค์อยู่กับคุณธีขาสองต่อสอง  คงไม่ค่อยดีเท่าไหร่ค่ะ”เจ้าตัวพูดด้วยสีหน้าหนักอกหนักใจ สร้างภาพราวกับตัวเองเป็นสาวน้อยใสซื่อไร้เดียงสาขี้เกรงใจ  โดยเจ้าตัวจงใจลืมพูดถึงความจริงที่ว่าว่าตัวเองทั้งจำรหัสลิฟต์ผู้บริหารที่ธีรักษ์บอกไม่ได้แล้ว แถมยังไม่ได้หยิบสมุดเล่มที่จดดรหัสผ่านมาอีกด้วยไม่อย่างนั้นคนอย่างมนต์อัปสรไม่มีทางมานั่งหน้าแฉล้มตรงนี้หรอก  ป่านนี้ขึ้นไปมองอาหารตาอย่างคุณธีขานานแล้ว


                         “นั่นซิ  ลุงก็ลืมนึกถึงเรื่องชื่อเสียงของหนูไป”  คุณเทพทำสีหน้าหนักใจ


                         “อุ้ย  ไม่เกี่ยวกับชื่อเสียงของหนูมมิลค์หรอกค่ะคุณลุงเทพขา   ลำพังตัวหนูมิลค์นะไม่เป็นไรค่ะ   แต่คุณธีสิคะหนูมิลค์กลั้วกลัวคุณธีขาจะถูกครหานินทาน่ะค่ะ”


                           คำตอบของมนต์อัปสรเรียกทั้งรอยยิ้มและเสียงหัวเราะด้วยเอ็นดูจากคนฟัง  


                          “ว่าแต่ว่าวันนี้คุณพี่รินขาไม่มาหรือคะ”


                          “น้องรินมีนัดกับเพื่อนนะค่ะหนูมิลค์อีกสักพักถึงจะเข้ามา” ยามพูดถึงภรรยาสายตาของคุณเทพเต็มไปด้วยความรักความเอ็นดู  “แต่ลงว่าหนูจะนั่งรออย่างนี้ไม่ดีมั้งคะลูก  มาไปกับลุงดีกว่า  ถ้าลำบากนักเดี๋ยวลุงให้ตาธีเปิดประตูไว้ก็ได้  ไปค่ะขึ้นข้างบนดีกว่า”   พูดจบก็ทำท่าจะเข้ามาช่วยมนต์อัปสรหิ้วกระเป๋าใบใหญ่ข้างตัว  


                          “อุ้ย  ไม่เป็นไรค่ะคุณลุงเทพขา  หนูมิลค์ถือได้ค่ะ”  


                         คุณเทพมองท่ากอดกระเป๋าเพื่อยืนยันคำพูดว่าเกรงใจของมนต์อัปสรอย่างขำๆ  


                        “ตามใจลูก”


                        ระหว่างขึ้นลิฟต์มนต์อัปสรซึ่งมัวแต่กรีดร้องในใจด้วยความปลาบปลื้มที่ผู้ชายตระกูลนี้ที่ทั้งคุณพ่อคุณลูกเป็นสุภาพบุรุษที่สุดในโลก  ที่สำคัญล้ำล่ำกันทั้งบ้าน  แล้วตามประสาคนเห็นอกล่ำๆไม่ได้  มนต์อัปสรเริ่มไล่สายตาไปตามแผงอกของคุณเทพที่แม้จะอายุมากแล้วแต่ก็ยังคงความสง่างามไม่มีพุ่งมากล้ำกลาย  แต่มองไปมองมาคนที่น้ำลายเริ่มจะหยดเพราะความล่ำก็สังเกตเห็นคุณเทพขยับไหล่ดูท่าทางเหมือนไม่ค่อยสบายตัวนัก


                       “คุณลุงเมื่อยไหล่หรือคะ”


                      “นิดหน่อยลูก  พอดีลุงเพิ่งผ่าตัดเสร็จน่ะค่ะ”


                      “งั้นมาค่ะ  เดี๋ยวหนูมิลค์ไปนวดให้นะคะ” มนต์อัปสรรีบเสนอตัวตามประสาคนมีน้ำใจบวกกับอยากทำคะแนนให้คุณเทพเอ็นดู


                       “ไม่เป็นไรหรอกจ้ะ  เดี๋ยวลุงทำท่าบริหารคอไหล่ที่หนูเคยสอนก็ได้”


                      “ไม่เป็นไรไม่ได้ค่ะคุณลุงเทพขา  ให้หนูมิลค์นวดเถอะค่า  อาการแบบนี้ปล่อยไว้นานๆไม่ดีนะคะเดี๋ยวเรื้อรังน่ากลัวออกค่ะ” คนอยากนวดชัดจูงใจเต็มที่   “ ถ้าคุณลุงเทพขาไม่รังเกียจระหว่างรอคุณพี่ดารินขามารับคุณลุงเทพขา   แล้วก็คุณธีขาทำงานหนูมิลค์จะนวดให้เองค่าหรือว่าคุณลุงเทพขามีงาน  หนูมิลค์ไม่กวนก็ได้นะคะ “


                       พอเห็นคนช่างพูดช่างเอาใจมีสีหน้าหน้าหงอยๆปวดคอก็ปฏิเสธคนมีน้ำใจไม่ลง


                       “ไม่ยุ่งค่ะหนูมิลค์  งั้นไปที่ห้องลุงแล้วกันนะคะ”


                      “ค่ะ”  คนตอบยิ้มหน้าบานที่สามารถออดอ้อนคุณเทพจนได้ฝึกมือสมใจ

                      ในห้องทำงานคุณหมอหนุ่มแผนกโรคหัวใจและควบตำแหน่งรองประธานโรงพยาบาล   ตอนนี้เจ้าของทำงานที่ค้างไว้เสร็จหมดแล้วครู่ใหญ่ก็เริ่มกังวลใจเมื่อคนที่บอกว่าจะกลับบ้านด้วยยังไม่มา  โทรศัพท์ไปหาก็ไม่มีคนรับสาย  สุดท้ายคุณหมอหนุ่มจึงโทรศัพท์ลงมาที่แผนกประชาสัมพันธ์ด้านล่าง


                        “แผนกโรคหัวใจสวัสดีค่ะ”


                       “ผมหมอธีรักษ์นะครับ  มีคนแจ้งว่าจะมาพบบ้างไหม”  


                       เสียงทุ้มนุ่มและคำพูดหวานหูของธีรักษ์ทำเอาคนรับแทบละลาย


                       “ไม่มีค่ะ  แต่มีคุณผู้หญิงใส่เดรสสีชมพู  ถือกระเป๋าใหญ่ๆ  มาถามหาคุณหมอนะค่ะ”


                       “แล้วตอนนี้เธออยู่ไหน”


                      “เอ่อเธอนั่งรออยู่สักครู่ค่ะ  แล้วก็เห็นเดินขึ้นไปกับท่านผู้อำนวยการค่ะ”


                       เมื่อได้รับคำตอบธีรักษ์นิ่งไปนิด  “ขอบคุณครับ”


                       ยังไม่ทันจะวางสายจากประชาสัมพันธ์ดีเสียงเรียกเข้าจากโทรศัพท์มือถือของคุณหมอหนุ่มก็ดังขึ้น


                       “ลูกธีทำงานเสร็จหรือยังคะลูก”


                       “เรียบร้อยแล้วครับคุณแม่”


                       “ดีจริง  ว่าแต่เจอกับน้องหรือยังคะลูก  นี่แม่โทรเข้าเครื่องแล้วน้องไม่รับสายแม่เลยเป็นห่วง”


                       “ยังเลยครับ ว่าแต่คุณแม่ไม่ได้อยู่กับคุณพ่อหรือครับ”


                      “อ้อแม่เพิ่งกลับมาจากบ้านเพื่อนน่ะจ้ะ  แต่อีกประมาณห้านาทีแม่ถึงโรงพยาบาลแล้วค่ะ”


                      “งั้นเดี๋ยวผมลงไปรับคุณแม่นะครับ”
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่