เนื่องจากดิฉันได้ไปซื้อ Deal ทำผมมาค่ะ ซึ่งร้านทำผมนี้เคยนำคูปองมาขายแล้วครั้งนึงเมื่อปีก่อน ดิฉันเคยซื้อ และเห็นว่า่ถูกและทำดีมาก มาครั้งล่าสุด ก็เลยรีบซื้อไว้ และโทรไปจองกับเจ้าของร้าน
เจ้าของร้านรับจอง ถามบาร์โค้ด รหัสต่างๆที่อยู่บนคูปอง เพื่อจะเช็คว่าดิฉันซื้อมาเพื่อนำมาใช้บริการ เจ้าของร้านก็จดชื่อ วัน เวลาที่ดิฉันจะไปทำ คือวันที่ 5 ม.ค 2556 ดิฉันโทรมาจองล่วงหน้าแล้วประมาณ 1 อาทิตย์ เพราะเห็นว่า คูปองจะหมดเขตการใช้ในวันที่ 12 ม.ค. 2556
เมื่อวันเสาร์ที่ 5 ดิฉันก็เตรียมจะออกไปทำผม แต่ก็เอะใจว่า ปกติร้านทำผมจะโทรมาหาก่อน 1 วันเพื่อ คอนเฟิร์ม พอดิฉันกำลังจะออกจากบ้านก็เลย ลองโทรไปที่เบอร์ของเจ้าของร้าน
เจ้าของร้าน : คุณนัดไว้วันไหนค่ะ
ดิฉัน : วันที่ 5 นี่ค่ะ
เจ้าของร้าน : นัดไว้อาทิตหน้ารึป่าวค่ะ
ดิฉัน : งั้นวันนี้เข้าไปได้มั้ย (ดิฉันเริ่ม งง และโมโหนิดหน่อย)
เจ้าของร้าน : เต็มแล้วค่ะ งั้นเป็นอาทิตหน้าแล้วกันค่ะ
ดิฉันก็ตกลง เพราะคิดว่าไม่ติดธุระอะไร
พอถึงวันที่ 12 ม.ค. 2556 ดิฉันไปตามนัด แต่ไม่ได้โทรไปก่อน เพราะดิฉันคิดว่ามันต้องมีอะไรผิดปกติ แล้วเมื่อเข้าไปก็เจอ ช่างทำผม เค้าก็ทำหน้างงมาก แล้วก็แจ้งว่า ไม่มีชื่อพี่ค่ะ ดิฉันก็เหวี่ยงเลยค่ะ ก็อธิบายไปต่างๆนาๆ ช่างทำผมได้บอกว่า ทางเจ้าของร้านรับลูกค้าแต่ไม่โทรมาแจ้งช่างที่ร้านเลย ดิฉันเลยถามกลับไปว่า แล้ว คูปองของคุณมันหมดเขตวันที่ 12 ม.ค. ก็คือวันนี้ แล้วดิฉันจะทำยังไง ทำวันนี้ได้รึป่าว
ช่างบอกว่า ไม่ได้ค่ะ เต็มแล้ว ทั้งๆที่ ณ ตอนนั้น เป็นเวลา เที่ยงครึ่ง ดิฉันนัดไว้ บ่ายโมง และที่ร้านก็ไม่มีใครมาทำผมเลย ดิฉันก็คิดว่าโอเค ลูกค้าคนอื่นอาจจะมาช้า ก็เลยต่อสายไปคุยกับเจ้าของร้านว่า จะรับผิดชอบยังไง เพราะบ้านก็ไกลมากกว่าจะมาถึง เจ้าของร้านแจ้งว่าให้มาทำอาทิตย์หน้า คือวันที่ 20 ม.ค. 2556 ดิฉันก็ตกลงอีก
(น้องช่างทำผมบอกว่า ลูกค้าเจอแบบนี้หลายคน ที่ซื้อคูปองไป และเค้าเป็นช่างมาช่วยชั่วคราว เพราะช่างออกหมด ดิฉันก็เห็นใจ เลยจะมาวันอื่น)
เมื่อวันที่ 20 ม.ค. 2556 ช่างทำผมโทรมาตอนช่วงเช้าประมาณ 9 โมงครึ่ง ว่า พี่ค่ะวันนี้ซอยพัฒนาการไฟดับน่ะค่ะ ร้านเลยต้องปิดค่ะ นัดใหม่ได้มั้ยค่ะ ดิฉันก็ลมออกหูเลยค่ะ ด้วยความที่ยุ่งเลยบอกว่าเดี๋ยวโทรไปนัดใหม่ และวางสายไป (และโทรไปถามเพื่อนที่บ้านอยู่แถวนั้นบอก ไฟไม่ได้ดับ ดิฉันยิ่งปรี๊ดค่ะ)
ดิฉันคิดว่าเราเป็นลูกค้าที่ซื้อคูปองมาถูกๆ แล้วมาทำกับเราแบบนี้ เพียงแค่หวังเงินของเราไม่กี่ พันบาท แต่ไม่อยากทำให้เพราะเปลืองน้ำยา เพราะจริงๆ แพคเกจทำผมนี้ ราคาเกือบ 6 พัน แต่ในเมื่อคุณตัดสินใจนำคูปองไปขายก็ต้องยอมรับที่จะต้องทำผมให้ลูกค้า
ดิฉันเสียความรู้สึก เสียเวลา ลาก่อน Salon de lapis พัฒนาการซอย 30
ลาก่อน Salon de lapis พัฒนาการ
เจ้าของร้านรับจอง ถามบาร์โค้ด รหัสต่างๆที่อยู่บนคูปอง เพื่อจะเช็คว่าดิฉันซื้อมาเพื่อนำมาใช้บริการ เจ้าของร้านก็จดชื่อ วัน เวลาที่ดิฉันจะไปทำ คือวันที่ 5 ม.ค 2556 ดิฉันโทรมาจองล่วงหน้าแล้วประมาณ 1 อาทิตย์ เพราะเห็นว่า คูปองจะหมดเขตการใช้ในวันที่ 12 ม.ค. 2556
เมื่อวันเสาร์ที่ 5 ดิฉันก็เตรียมจะออกไปทำผม แต่ก็เอะใจว่า ปกติร้านทำผมจะโทรมาหาก่อน 1 วันเพื่อ คอนเฟิร์ม พอดิฉันกำลังจะออกจากบ้านก็เลย ลองโทรไปที่เบอร์ของเจ้าของร้าน
เจ้าของร้าน : คุณนัดไว้วันไหนค่ะ
ดิฉัน : วันที่ 5 นี่ค่ะ
เจ้าของร้าน : นัดไว้อาทิตหน้ารึป่าวค่ะ
ดิฉัน : งั้นวันนี้เข้าไปได้มั้ย (ดิฉันเริ่ม งง และโมโหนิดหน่อย)
เจ้าของร้าน : เต็มแล้วค่ะ งั้นเป็นอาทิตหน้าแล้วกันค่ะ
ดิฉันก็ตกลง เพราะคิดว่าไม่ติดธุระอะไร
พอถึงวันที่ 12 ม.ค. 2556 ดิฉันไปตามนัด แต่ไม่ได้โทรไปก่อน เพราะดิฉันคิดว่ามันต้องมีอะไรผิดปกติ แล้วเมื่อเข้าไปก็เจอ ช่างทำผม เค้าก็ทำหน้างงมาก แล้วก็แจ้งว่า ไม่มีชื่อพี่ค่ะ ดิฉันก็เหวี่ยงเลยค่ะ ก็อธิบายไปต่างๆนาๆ ช่างทำผมได้บอกว่า ทางเจ้าของร้านรับลูกค้าแต่ไม่โทรมาแจ้งช่างที่ร้านเลย ดิฉันเลยถามกลับไปว่า แล้ว คูปองของคุณมันหมดเขตวันที่ 12 ม.ค. ก็คือวันนี้ แล้วดิฉันจะทำยังไง ทำวันนี้ได้รึป่าว
ช่างบอกว่า ไม่ได้ค่ะ เต็มแล้ว ทั้งๆที่ ณ ตอนนั้น เป็นเวลา เที่ยงครึ่ง ดิฉันนัดไว้ บ่ายโมง และที่ร้านก็ไม่มีใครมาทำผมเลย ดิฉันก็คิดว่าโอเค ลูกค้าคนอื่นอาจจะมาช้า ก็เลยต่อสายไปคุยกับเจ้าของร้านว่า จะรับผิดชอบยังไง เพราะบ้านก็ไกลมากกว่าจะมาถึง เจ้าของร้านแจ้งว่าให้มาทำอาทิตย์หน้า คือวันที่ 20 ม.ค. 2556 ดิฉันก็ตกลงอีก
(น้องช่างทำผมบอกว่า ลูกค้าเจอแบบนี้หลายคน ที่ซื้อคูปองไป และเค้าเป็นช่างมาช่วยชั่วคราว เพราะช่างออกหมด ดิฉันก็เห็นใจ เลยจะมาวันอื่น)
เมื่อวันที่ 20 ม.ค. 2556 ช่างทำผมโทรมาตอนช่วงเช้าประมาณ 9 โมงครึ่ง ว่า พี่ค่ะวันนี้ซอยพัฒนาการไฟดับน่ะค่ะ ร้านเลยต้องปิดค่ะ นัดใหม่ได้มั้ยค่ะ ดิฉันก็ลมออกหูเลยค่ะ ด้วยความที่ยุ่งเลยบอกว่าเดี๋ยวโทรไปนัดใหม่ และวางสายไป (และโทรไปถามเพื่อนที่บ้านอยู่แถวนั้นบอก ไฟไม่ได้ดับ ดิฉันยิ่งปรี๊ดค่ะ)
ดิฉันคิดว่าเราเป็นลูกค้าที่ซื้อคูปองมาถูกๆ แล้วมาทำกับเราแบบนี้ เพียงแค่หวังเงินของเราไม่กี่ พันบาท แต่ไม่อยากทำให้เพราะเปลืองน้ำยา เพราะจริงๆ แพคเกจทำผมนี้ ราคาเกือบ 6 พัน แต่ในเมื่อคุณตัดสินใจนำคูปองไปขายก็ต้องยอมรับที่จะต้องทำผมให้ลูกค้า
ดิฉันเสียความรู้สึก เสียเวลา ลาก่อน Salon de lapis พัฒนาการซอย 30