ขอระบาย

กระทู้สนทนา
เป็นกระทู้แรกของหนู ไม่รู้โพสต์ถูกที่หรือเปล่า ขอออกตัวก่อนนะคะ ว่าโพสต์นี้ขอระบาย ขอกำลังใจ  แม่หนูกำลังป่วยหนัก หนูไม่ได้อยู่ดูแลแม่ เพราะต้องมาอยู่ต่างประเทศ มีแต่พี่สาวคนเดียว ที่ค่อยดูแล พ่อก็แก่ เจ็บป่วยตามประสาคนแก่อีกด้วย หนูเป็นคนอุดรคะ บ้านอยู่ในเขตอำเภอบ้านดุง ครอบครัวฐานะก็ไม่มีเงินเท่าไร  แม่ของหนูเริ่มป่วยเป็นเบาหวาน เมื่อ 6ปีที่แล้ว พอตรวจเจอว่าเป็นเบาหวาน ปีแรกแม่ก็ยังคงทรงตัวดี ไม่ค่อยมีอาการเท่าไร ก็ทานยาของโรคเบาหวาน เหมือนคนอื่นที่เป็นในหมู่บ้าน วันไหนเหนื่อย เบาหวานขึ้นลงก็ไปหาหมอ ปีที่สองเริ่มแย่ลงกว่าปีแรก ยาทานก็ไม่ค่อยจะมีผลอะไร ร่างกายก็ผอมลง กินเท่าไรน้ำหนักก็ไม่เพิ่ม  แม่เป็นเบาหวานสองปี แต่ร่างกายเหมือนคนเป็นมาสิบกว่าปี หรือแย่กว่านั้น น้ำหนักจาก 60 กก ลดลงจนถึง 39กก แม่มีภาวะช็อก อยู่ตลอด สามวันช็อกที สี่วันช็อกที ไปหาหมอ นอนโรงพยาบาลในอำเภอ อาการดีขึ้น ก็กลับบ้าน เป็นอยู่แบบนี้ตลอดทั้งปี คนอื่นที่เป็นเบาหวานสิบปี ยังดูแข็งแรงกว่าแม่ของหนูอีก เราทางบ้าน จึงขอหมอตรวจให้ละเอียด ตรวจหาโรคอื่น กลัวจะมีโรคอื่นแทรก พอตรวจแล้ว หมอก็บอกกับทางเรา ไม่เจออะไร นอกจากเบาหวาน กินยาไปเรื่อยๆ เดียวก็ดี หลังจากนั้นมา แม่กลับแย่ลงมาก หนูก็เครียด ทุกคนรอบข้างก็แย่ หนูจึงเล่าระบายให้เพื่อนทางนี้ฟัง และก็ได้คำแนะนำที่ดี เธอบอกหนูว่า อาการเดียวกับป้าพี่เลย ป้าเธอก็แย่ จนทางบ้านคุยกันว่า ตัดสินใจ ส่งโรงพยาบาลศรีนครินทร์ เป็นที่สุดท้าย ป้าเธอจึงรอดมาทุกวันนี้  หนูจึงบอกทางบ้านว่า ให้ไปขอใบส่งตัวจากโรงพยาบาล ส่งไปโรงพยาบาลศรีนครินทร์ [ขอนแก่น] ตอนแรกแม่จะไม่ไป แม่บอกว่า จะตายก็อยู่นี้ละ ไม่ต้องไปให้เสียเงินหรอก ตอนนั้น หนูได้เงินโบนัส จึงส่งกลับบ้าน ให้แม่เป็นค่าเดินทางไปโรงพยาบาลที่ใหม่ หนูบอกกับแม่ว่าไปเถอะแม่ ไปตรวจให้ลูกสบายใจ เพื่อจะดีกว่าที่นี้ แม่ก็ยอมไป จึงไปขอใบส่งตัวจากโรงพยาบาล แต่หมอกับบอกเราว่า อยู่ที่นี้ก็ตรวจแล้ว ยาก็มีให้กินเหมือนที่อื่น ไม่ต้องไปหรอก แม่บอกว่าส่งตัวไปเถอะ ลูกอยากให้ไป สิ่งที่หมอพูดกับเราอีกครั้งคือ ไม่เขียนใบส่งตัวให้ ถ้ามีเงินมากนัก ก็ไปเองเลย นี้คือคำพูดของคนเป็นหมอ  ในเมื่อไม่ได้ เราก็ไม่เอา เราก็ไปเอง พอถึงโรงพยาบาลใหม่  ศรีนครินทร์ หมอพูดจาดีมาก หมอแค่เห็นอาการแม่ยังไม่ได้ตรวจ  หมอบอกกับเราว่า แม่เป็นไทรอยด์เป็นพิษรวมกับเบาหวาน ทางโรงพยาบาลอำเภอทำไม ปล่อยผู้ป่วยไว้นานขนาดนี้ หมอพาแม่ไปตรวจทุกอย่าง และหมอก็ให้ยามาทาน และหมอก็เขียนใบส่งตัว ให้กลับมารักษาที่อำเภอเหมือนเดิน แต่ให้หมอทางอำเภอรักษาและ สั่งยาตามที่โรง พยาบาลศรีนครินทร์ ให้ เพราะระยะเวลาเดินทางไปรักษาจากอุดรถึงขอนแก่น มันไกลไม่สะดวก ต่อมาแม่มีอาการดีขึ้น น้ำหนักเพิ่ม แข็งแรงขึ้น ทรงตัวดีมาตลอด จนเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว แม่เป็นไข้ ทานข้าวไม่ได้ มีไข้สูง จึงไปโรงพยาบาล ทีนี้ตรวจเจอวัณโรค หมอบอกให้นอนโรงพยาบาลสามวัน หมอให้ยาฆ่าเชื้อ แต่แม่กับแพ้ยา วันแรกยังฉีดยาแก้แพ้ให้ แม่ก็ทรงตัว สามวันผ่านไปเป็นเจ็ดวัน เป็นไข้ตลอด นับจากวันที่สอง แม่แย่ลงและแย่ลง เพราะหมอไม่ดูแลเลย แพ้ยาจนอ้วกตลอด ก็ยังให้แต่ยาตัวเดิม ทานข้าวไม่ได้ ก็ไม่ให้น้ำเกือ ปอดก็ตรวจแค่วันแรก  เหมือนนอนรอความตาย จนพี่สาวทนไม่ได้  เราจึงคิดจะย้ายเข้าเอกชน พี่สาวจึงโทรไปโรงพยาบาลเอกชนในจังหวัด สอบถามค่าใช้จ่ายในการย้าย โดยจะให้รถโรงพยาบาลทางเอกชนมารับตัว และโรงพยาบาลเอกชน ก็ได้โทรมาที่โรงพยาบาลอำเภอ สอบถามว่าอาการคนป่วยเป็นยังไง หมอทางอำเภอบอกว่า กำลังจะให้ลองยาตัวใหม่ ไม่อยากให้ย้ายผู้ป่วย พี่สาวถึงรอ ยังไม่ย้าย เพราะเห็นว่า หมอมาดูแลในช่วงเช้า เอายามาฉีดให้  คิดว่าคงจะรักษาให้ดีขึ้น พอตกช่วงเย็นแม่แพ้ยา เพราะมันคือยาตัวเดิม บอกพยาบาลก็เฉย ไม่มาดูเลย สามสี่ชั่วโมงผ่านไป แม่แพ้หนัก ไม่มีแรงแม้แต่จะหายใจ นอนขด ร้องโอ้ยๆ พยาบาลยังไม่ดูแล พี่สาวทนไม่ไหวจึงโว้ยวาย ขอประวัตคนป่วยจะย้ายด่วน ถ้าปล่อยให้อยู่แบบนี้ แม่ต้องตายแน่ พยาบาลกับพูดว่า ไหนว่าจะย้ายตั้งแต่เมื่อวาน ทำไมไม่ย้าย จะไปเองหรอ ุพี่สาวจึงพูดขึ้นว่า ก็เพราะกูคิดว่าจะรักษาได้ไง กูถึงอยู่ ไม่ใช่แม่พวกคุณ ไม่เข้าใจหรอก คนไข้จะตายต่อหน้ายังไม่สนใจ พี่สาวก็โว้ยวายใหญ่เลยคะ เพราะมันสุดจะทน หมอเวรจึงมา และบอกว่าไม่สามารถสั่งย้ายได้ เพราะไม่ใช้หมอประจำตัว และประวัติคนป่วยก็ไม่ครบ ต้องรอหมอตอนเช้า เรารอไม่ในนาทีนั้น พี่สาวจึงบอกหมอว่า หนูรอไม่ได้มีประวัติเท่ารั้ย เอาเท่านั้น ทางพยาบาลโกรธพี่สาว คนป่วยจะแย่ รถเข็นยังไม่เอามาให้ แม่ต้องเดินลงจากชั้นสองเอง พอถึงโรงพยาบาลเอกชน เค้ารีบช่วยเหลืออย่างด่วน จะด้วยเหตุผลเพราะเอกชนจ่ายเงินจึงทำงานดี แต่มันก็ทำให้เราอุ่นใจ ที่เห็นแม่มีคนช่วยเหลือ ต่างจากการนอนรอความตาย ร้องโอ้ยๆ ใจคนรอบข้างก็จะขาดไปด้วย หมอเอกชนให้น้ำเกือ และปอดของแม่ก็ขาดเกือแร่  และหมอช่วยให้แม่หายใจดีขึ้น ให้ยาฆ่าเชื้อ ให้ยาแก้แพ้คัน พยาบาลกับหมอเดียววิ่งเข้า วิ่งออก อาการแม่ก็ดีขึ้นมา หายใจได้ดีขึ้น เมื่อคืนนี้ หนูร้องให้ทั้งคืนเลย เป็นห่วงแม่มาก เช้านี้จะรีบโทรไปดูอาการ ยังไงจะมาส่งข่าวนะคะ ขอบคุณทุกคนที่เสียเวลาอ่าน อยากเล่า อยากระบาย มันหดหู่ ใครไม่เจอกับตัว ไม่อาจเข้าใจได้ว่า มันทรมานแค่ไหน อยู่ไกลบ้าน ไม่มีโอกาสได้ดูแลเลย เวลาพ่อแม่ป่วย อยากกลับก็ๆไม่ได้ ตอนนี้ต้องหาเงินช่วยพี่สาวรักษาแม่
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่