บทที่ ๑๘
ภายในห้องทำงานใหญ่ อนาวินยืนกอดอกมองผ่านกระจกบานหนา สมองครุ่นคิดกับหลายๆเรื่องที่ยังค้างคาโดยที่ยังไม่สามารถหาความกระจ่างได้ และมันพาให้เขารู้สึกหงุดหงิด ร่างสูงเพรียวหันกดอินเตอร์คอม
“คุณพัฒนา เข้ามาหาผมหน่อย”
“ครับ”
สิ้นคำตอบรับไม่กี่อึดใจ ร่างของเลขาฯหนุ่มวัยกลางคนก็เปิดประตูห้องเข้ามา
“มีอะไรหรือครับ คุณจิล”
“เรื่องบันทึกที่ให้อ่านน่ะ ไปถึงไหนกันแล้ว”
“คือ..ส่วนของคุณเต้กับคุณโจ้ผมได้มาแล้ว เหลือแต่ส่วนของคุณหนูเล็ก แต่คุณเต้บอกว่าอีกสอง-สามวันเขาจะจัดการให้ครับ”
“ฮึ! สุดท้ายเจ้าเต้ก็ต้องทำงานแทนหนูเล็กจนได้” อนาวินพึมพำอย่างอ่อนใจ “แล้วจากสิ่งที่เราได้มาล่ะ มีอะไรที่คิดว่าผิดสังเกตบ้างมั้ย”
พัฒนาคิดถึงบางเรื่องที่ติดอยู่ในหัว “คือ..เมื่อสี่ปีก่อน แผนกรับเหมาเปลี่ยนหัวหน้าคนงานถึงสามคนภายในปีกว่า ผมก็เลยให้คนของเราสืบหาสาเหตุของการลาออก แต่ปรากฏว่าคนแรกตายด้วยหัวใจวายเฉียบพลัน คนที่สองตายเพราะมอเตอร์ไซด์คว่ำ ส่วนคนที่สามลาออกโดยให้เหตุผลว่า ป่วยเป็นมะเร็งตับครับ”
“สามัคคีกันตายถึงสองคน ในขณะที่อีกคนก็เป็นมะเร็งเรอะ”
“ครับ..แล้วคุณขวัญก็ไม่รู้เรื่องนี้เลย”
“ช่วงนั้นขวัญกำลังเร่งทำโปรเจ็กต์ คงไม่มีเวลามาดูเรื่องนี้หรอก..แต่อาเจ็กอาจจะรู้ก็ได้..แล้วหัวหน้าคนงานรายล่าสุดของเรายังอยู่ดีมีสุขใช่ไหม”
“ไม่มีปัญหาอะไรครับ”
อนาวินครุ่นคิด “อืมม์..เป็นช่วงที่เรากับพวกรัตนากรเริ่มตีกันพอดีเลย..งั้นลองไปสืบกับพวกญาติหรือคนสนิทของพวกหัวหน้าคนงานสามคนนั่นดูหน่อยว่ามีเรื่องขัดแย้งกับใครหรือเปล่า เผื่อจะมีเบาะแสอะไรให้เราอีก”
“ครับ”
“พยายามสืบให้เงียบที่สุดนะ”อนาวินบอกพลางหยิบเสื้อสูทมาสวม “ผมจะไปเยี่ยมป๊าที่โรงพยาบาล ถ้าไม่มีเรื่องด่วนอะไรไม่ต้องโทรตามผมนะ”
“ครับ” พัฒนารับคำอีกครั้ง ก่อนหันเดินออกจากห้อง
ไฟซ่อนรัก บทที่ ๑๘-๑๙
ภายในห้องทำงานใหญ่ อนาวินยืนกอดอกมองผ่านกระจกบานหนา สมองครุ่นคิดกับหลายๆเรื่องที่ยังค้างคาโดยที่ยังไม่สามารถหาความกระจ่างได้ และมันพาให้เขารู้สึกหงุดหงิด ร่างสูงเพรียวหันกดอินเตอร์คอม
“คุณพัฒนา เข้ามาหาผมหน่อย”
“ครับ”
สิ้นคำตอบรับไม่กี่อึดใจ ร่างของเลขาฯหนุ่มวัยกลางคนก็เปิดประตูห้องเข้ามา
“มีอะไรหรือครับ คุณจิล”
“เรื่องบันทึกที่ให้อ่านน่ะ ไปถึงไหนกันแล้ว”
“คือ..ส่วนของคุณเต้กับคุณโจ้ผมได้มาแล้ว เหลือแต่ส่วนของคุณหนูเล็ก แต่คุณเต้บอกว่าอีกสอง-สามวันเขาจะจัดการให้ครับ”
“ฮึ! สุดท้ายเจ้าเต้ก็ต้องทำงานแทนหนูเล็กจนได้” อนาวินพึมพำอย่างอ่อนใจ “แล้วจากสิ่งที่เราได้มาล่ะ มีอะไรที่คิดว่าผิดสังเกตบ้างมั้ย”
พัฒนาคิดถึงบางเรื่องที่ติดอยู่ในหัว “คือ..เมื่อสี่ปีก่อน แผนกรับเหมาเปลี่ยนหัวหน้าคนงานถึงสามคนภายในปีกว่า ผมก็เลยให้คนของเราสืบหาสาเหตุของการลาออก แต่ปรากฏว่าคนแรกตายด้วยหัวใจวายเฉียบพลัน คนที่สองตายเพราะมอเตอร์ไซด์คว่ำ ส่วนคนที่สามลาออกโดยให้เหตุผลว่า ป่วยเป็นมะเร็งตับครับ”
“สามัคคีกันตายถึงสองคน ในขณะที่อีกคนก็เป็นมะเร็งเรอะ”
“ครับ..แล้วคุณขวัญก็ไม่รู้เรื่องนี้เลย”
“ช่วงนั้นขวัญกำลังเร่งทำโปรเจ็กต์ คงไม่มีเวลามาดูเรื่องนี้หรอก..แต่อาเจ็กอาจจะรู้ก็ได้..แล้วหัวหน้าคนงานรายล่าสุดของเรายังอยู่ดีมีสุขใช่ไหม”
“ไม่มีปัญหาอะไรครับ”
อนาวินครุ่นคิด “อืมม์..เป็นช่วงที่เรากับพวกรัตนากรเริ่มตีกันพอดีเลย..งั้นลองไปสืบกับพวกญาติหรือคนสนิทของพวกหัวหน้าคนงานสามคนนั่นดูหน่อยว่ามีเรื่องขัดแย้งกับใครหรือเปล่า เผื่อจะมีเบาะแสอะไรให้เราอีก”
“ครับ”
“พยายามสืบให้เงียบที่สุดนะ”อนาวินบอกพลางหยิบเสื้อสูทมาสวม “ผมจะไปเยี่ยมป๊าที่โรงพยาบาล ถ้าไม่มีเรื่องด่วนอะไรไม่ต้องโทรตามผมนะ”
“ครับ” พัฒนารับคำอีกครั้ง ก่อนหันเดินออกจากห้อง