พงษ์ศักดิ์ปรับราคาก๊าซ LPG ยกแผง ดีเดย์ภาคครัวเรือน-ขนส่ง ต้นปี56

พงษ์ศักดิ์ปรับราคาก๊าซ LPG ยกแผง ดีเดย์ภาคครัวเรือน-ขนส่ง ต้นปี56


นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ขณะนี้กระทรวงพลังงานได้ศึกษาแนวทางการปรับโครงสร้างราคาก๊าซ LPG ทั้งระบบไม่ว่าราคาก๊าซ LPG ภาคครัวเรือน และภาคขนส่ง โดยในปี 2556 LPG ภาค ครัวเรือน จะปรับขึ้นไปอยู่ที่ 24.82 บาทต่อกิโลกรัม หรือจะขึ้นอีก 6.69 บาทต่อกิโลกรัม จากปัจจุบันราคาอยู่ที่ 18.13 บาท ต่อกิโลกรัม ส่วนภาคขนส่งจะปรับขึ้นไปอยู่ที่ 24.82 บาทต่อกิโลกรัม หรือจะปรับขึ้น 3.44 บาทต่อกิโลกรัม เพิ่มจากปัจจุบัน ที่ราคาอยู่ที่ 21.38 บาทต่อกิโลกรัม สำหรับ ภาคอุตสาหกรรมราคาจะคงอยู่อัตราไม่เกิน 30.13 บาทต่อกิโลกรัมเหมือนเดิม


ทั้งนี้ ราคาก๊าซ LPGทั้งภาคขนส่งและครัวเรือนอยู่ที่ 24.82บาท/กิโลกรัม เป็นราคาที่คำนวณมาจากการผลิตจากโรงแยกก๊าซธรรมชาติ ที่ระดับราคาราว 550ดอลลาร์/ตัน ซึ่งสูงกว่าราคาควบคุมหน้าโรงแยกก๊าซฯ ในปัจจุบันที่อยู่ระดับ 333ดอลลาร์/ตัน ขณะนี้ประเทศไทยมีการนำเข้า LPG มากกว่า 1 แสนตัน/เดือน และ มีการผลิตจากในประเทศ ประมาณ 4.8 แสนตัน/เดือน ส่วนใหญ่เป็นการผลิตจากโรงแยกก๊าซธรรมชาติ มากกว่า 3 แสนตัน/เดือน และโรงกลั่นน้ำมัน กว่า 1.4 แสน ตัน/เดือน


“ประมาณช่วงต้นปี 2556กระทรวง พลังงานจะประกาศขึ้นราคาก๊าซ LPG อย่างเป็นทางการ แต่จะเป็นตอนไหนนั้น ทางคณะทำงานที่กระทรวงพลังงานตั้งขึ้นมาจะไปศึกษาวิธีชดเชยให้กับผู้มีรายได้ต่ำ และร้านค้าแผงลอยให้เสร็จก่อนว่า จะเป็นบัตรส่วนลดหรือว่าจะเป็นบัตรเครดิต พลังงานจะเหมาะสมที่สุด สำหรับวิธีการปรับขึ้นราคานั้นภาคครัวเรือนจะทยอยขึ้นเดือนละ 50สตางค์ต่อกิโลกรัม แต่ภาค ขนส่งต้องไปดูว่าจะทยอยขึ้นอย่างไร และ ในปี 2557ก็จะปรับขึ้นอีกครั้ง ส่วนรายละเอียดจะเป็นอย่างไรต้องดูมาตรการ และ ดูแลผลกระทบก่อนว่าจะได้ผลมากน้อยอย่างไร” นายพงษ์ศักดิ์ กล่าว


นายพงษ์ศักดิ์ กล่าวว่า ผลการศึกษา การช่วยเหลือผลกระทบจากการขึ้นราคาก๊าซ LPG ภาคครัวเรือนให้กับผู้มีรายได้น้อย และร้านหาบเร่แผงลอย ผลการศึกษา ได้ใช้ข้อมูลผู้มีรายได้น้อยจากฐานผู้ใช้ไฟฟ้าฟรีไม่เกิน 50 หน่วยต่อเดือน ซึ่งมีทั้งสิ้น 3.67 ล้านครัวเรือนและผู้ไม่มีไฟใช้อีก 1.9 แสนครัวเรือนรวมประมาณกว่า 3.8 ล้านครัวเรือน จากผลการศึกษาจะอุดหนุนให้เดือนละ 6 กิโลกรัม ขณะที่ร้านค้า หาบเร่ แผงลอยจะยึดโครงการอาหารสะอาด จากกระทรวงสาธารณสุขที่มี 2.85 แสนรายและได้มอบให้ไปศึกษาเพิ่มเติมที่อาจตกสำรวจประเมินว่าน่าจะมีอีกราว 1แสนราย ซึ่งร้านค้าต่างๆ เหล่านี้รัฐจะจ่าย ชดเชย 150กิโลกรัมต่อเดือนหรือประมาณ 10 ถังต่อเดือน (ถังละ 15 กิโลกรัม)


นอกจากนี้ ยังได้สั่งให้บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ไปทำแผนงานการขยายสถานีบริการก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ หรือ NGV มาให้พิจารณาโดยต้องการ ให้ทุกจังหวัดมีสถานีเติมก๊าซ NGV เพื่อให้การบริการเป็นไปอย่างทั่วถึง โดยให้ปตท.ลงทุนหรืออาจจะเปิดให้มีการร่วมทุน จากเอกชนรายอื่นๆ ก็ได้


“ถ้ามีแผนลงทุนสถานีก๊าซ NGV จึง จะอนุมัติให้มีการปรับขึ้นราคา และในระหว่างที่ยังไม่ได้ทำแผนให้เป็นที่แน่ชัด ก็จะต้องแบกรับภาระขาดทุนไปก่อน จากที่ได้รับรายงาน ปตท.รับภาระ ขาดทุนปีละ 20,000ล้านบาท หาก ต้องลงทุนเพิ่ม จะลงทุนสร้างสถานี NGV ประมาณ 5,000-7,000 ล้านบาท ซึ่งหากลงทุนได้เร็ว การพิจารณาปรับขึ้นราคาก๊าซ NGV ก็จะเกิดขึ้น และ ปตท.จะสามารถจะลดการขาดทุนได้เร็วขึ้นด้วย”
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่