ขอความเห็น คุณพ่อคุณแม่ผู้มีประสบการณ์ตรงเมื่อต้องตัดสินใจ "ยุติการตั้งครรภ์ หรือ เก็บลูกที่ไม่แข็งแรงไว้"

กระทู้คำถาม
ก่อนอื่นที่ต้องขอโทษเพื่อนๆสมาชิกท่านอื่นก่อนนะคะ สาเหตุที่ จขกท บอกว่าขอความเห็นผู้มีประสบการณ์ตรงเพราะว่า จขกท เคยเป็นคนนึงที่ไม่มีประสบการณ์ตรงแต่ตอนนี้...ตอนที่ต้องมาตัดสินใจเรื่องนี้ มันทำให้ จขกท รู้ว่ามันไม่ง่ายอย่างที่คิดไว้ตอนแรกเลย เลยอยากได้ความเห็นจากผู้ที่ผ่านเหตุการณ์เดียวกันมาแล้วจะดีกว่าค่ะ

จขกท เพิ่งได้รับผลตรวจน้ำคร่ำเมื่อวันศุกร์ที่ 4 ค่ะ ท้องนี้เป็นท้องที่สอง ผลออกมาว่าน้องในท้อง (21 W.) น่าจะมีปัญหาเรื่องธาลัสซีเมีย ชนิดเบต้าอี แต่เพื่อความมั่นใจคุณหมอขอยืนยันผลตรวจอีกทีศุกร์นี้ 11/1/2556 (จริงๆก็ถือว่าโชคดีเหมือนกัน พอดี จขกท เจาะน้ำคร่ำ 2 หลอดค่ะ หลอดนึงตรวจธาลัส อีกหลอดตรวจดาวน์ แต่หลอดที่ตรวจธาลัส น้ำคร่ำปนเลือดแม่ไปด้วย ทำให้คุณหมอต้องไปแบ่งเซลล์ของหลอดที่ 2 มาตรวจใหม่อีกทีค่ะ) แต่คุณหมอก็บอกว่าค่อนข้างมั่นใจกับผลอันแรกว่าน้องน่าจะมีปัญหาแน่นอน ให้คุณพ่อคุณแม่ตัดสินใจไว้เลยว่าจะทำยังไงกับน้อง เพราะนับถึงวันที่ 11 อายุครรภ์ก็เกือบ 22 W. แล้ว

ตั้งแต่ฟังผลมาก็นอนไม่หลับเลย ตัดสินใจไม่ถูก ทั้ง 2 คนยังไม่กล้าคุยเรื่องนี้กันอย่างเป็นเรื่องเป็นราว คุยกันพักๆ พอถึงตอนต้องตัดสินใจก็เงียบ เลยอยากทราบความเห็น และประสบการณ์จากคุณพ่อคุณแม่ที่เคยตัดสินใจ "ยุติการตั้งครรภ์" หรือ "เก็บน้องเอาไว้" ว่าคิดถูกหรือผิดอย่างไร หากตัดสินใจใหม่ได้จะทำเหมือนเดิมหรือไม่

ขอบคุณล่วงหน้านะคะ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 14
เข้ามากอดคุณ และจะทิ้งเบอร์หมอไว้ให้ค่ะ เค้าเป็นเพื่อนเรา ที่เราคิดว่าเค้าเป็นผู้เชี่ยวชาญหนึ่งในไม่กี่คนของเมืองไทยเรื่องธาลัสซิเมียและโครโมโซมผิดปรกติ เค้าประจำอยู่รามาฯ นะคะ แต่ไปหาที่พญาไท1 ก็ได้ เข้าวันอังคาร และพุธเย็น และเสาร์เช้า อยากได้ผลเลือดไปคุยกับเค้าก่อนค่ะ ชื่อ คุณหมอโอบจุฬ ตราชู แต่ติดต่อกับพยาบาลก่อนนะคะ ชื่อคุณติ๋ว เบอร์ 081 639 7700 บอกว่าอยากปรึกษาคุณหมอเรื่องธาลัสซิเมีย ชนิดเบต้า

เราเป็นธาลัสซิเมีย (เป็นเลยไม่ใช่แค่พาหะ) และเรากำลังท้องอยู่ ก่อนท้องและขณะนี้เราก็ให้เค้าดูแล คือต้องบอกว่า โรคธาลัสซิเมียเป็นอะไรที่ซับซ้อนมากกกกกกกกก และหมอน้อยคนจริง ๆ ที่จะเข้าใจรายละเอียดของโรคได้มากพอ ไปปรึกษาเค้าก่อนแล้วค่อยคิดอีกที ส่วนตัวเราตอนแรกเพื่อนแนะนำให้ทำกิ๊ฟท์เลยค่ะ เพื่อเลือกโครโมโซม ลูกไม่เป็นแน่นอน แต่เราไม่อยากทำอะ อยากเป็นธรรมชาติ ความเสี่ยงของเราลูกอย่างมากเป็นพาหะ เพราะสามีไม่เป็นอะไรเลย (สามีเลือดดีมาก ๆ)

เป็นกำลังใจให้นะคะ
ความคิดเห็นที่ 16
ถามเพื่อนมาให้แล้วค่ะ เค้าบอกว่าเบต้าอี ถ้าคลอดออกมาก็ต้องรักษาเยอะ แต่ก็มีหลายคนที่รอดมาได้ เค้าเลยถามว่าฐานะทางบ้านคุณเป็นอย่างไร มีคนดูแลเด็กไหม เพราะช่วงแรกต้องมีการเปลี่ยนถ่ายเลือดทุกเดือน หรือสามเดือน (แล้วแต่อาการ) ส่วนใหญ่เดี๋ยวนี้เมื่อทราบว่าเด็กเป็นเบต้าอีแต่เด็ก ก็จะมีการวางแผนรักษากันได้เลยก่อนที่เด็กจะโตมากขึ้นค่ะ ซึ่งแน่นอนต้องมีการผ่าตัดไขกระดูก เพราะมันเป็นวิธีเดียวที่จะรักษาให้หายได้ โดยอาจใช้ของลูกคุณอีกคนมาลองเพาะดู ซึ่งถ้าโครโมโซม และไขกระดูกเข้ากันได้ ก็รักษาได้เลย เรื่องการรักษาต้องปรึกษาหมอเด็กทันที ซึ่งทั้งรามาฯ และโรงพยาบาลเด็กมีกองทุนอยู่นะคะ เพื่อช่วยเหลือเด็กและผู้ป่วยแบบนี้ กองทุนนี้เพิ่งได้รับอนุมัติจากโรงพยาบาล ชื่อ "กองทุนโรคพันธุกรรมชนิดหายาก) รหัสกองทุน 3001210 เราฝากถึงท่านอื่น ๆ ที่ได้มาอ่านว่า หากท่านมีความยินดีจะบริจาค ก็ติดต่อได้ที่โรงพยาบาลเลยค่ะ คนไทยเป็นโรคพันธุกรรมหายากเยอะมาก และหนึ่งในนั้นที่เป็นท๊อปฮิตเลย ก็คือ โรคธาลัสซิเมีย

ถ้าฐานะบ้านคุณลำบาก เพื่อเราก็ไม่แนะนำให้เก็บเด็กไว้ เพราะแน่นอนว่าในช่วงแรกต้องมีการดูแลและประคบประหงมเป็นอย่างดี แต่ถ้าฐานะทางบ้านพอไปได้ เพื่อนเราบอกว่าลองดูก็ได้ มีคนที่เป็นเบต้าอีก็มีชีวิตอยู่ได้ประมาณเกือบห้าสิบปี (ซึ่งเราก็ว่าโอเคนะคะ)

ของคุณมีปัจจัยอีกอย่างที่ต้องคำนึงถึง คือเรื่องอายุครรภ์ เพราะ 22 W ตัวอ่อนค่อนข้างสมบูรณ์แล้วค่ะ เพื่อนบอกว่าในเคสนี้ แม้ว่าหมอสูติฯ อาจจะแนะนำให้เอาเด็กออก แต่ในความเป็นจริงไม่อยากมีใครเป็นคนจัดการเท่าไหร่

อยากทราบอะไรเพิ่มเติม ส่งข้อความมาได้นะคะ เรายินดีช่วยค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่