ครอบครัวท่านใดเคยผ่านเหตุการยุติการตั้งครรภ์บ้าง

มันเรื่องที่ใจทรมานใจนะครับที่ต้องมาเจอเหตุการณ์แบบนี้ ก่อนอื่นก็ขออธิบายครอบครัวเรากำลังจะต้องเลือกแล้วว่าจะยุติการณ์ตั้งครรภ์หรือเสี่ยงให้เขาเกิดมาพร้อมกับการเป็นโรคธาลัสซีเมีย ซึ่งผมและตัวภรรยา มีพาหะทั้งคู่ คือถ้าผู้ที่เป็นพาหะบังเอิญไปแต่งงานกับผู้ที่เป็นพาหะด้วยกัน และถ้าทั้งสองคนถ่ายทอดยีนธาลัสซีเมียไปให้ลูก โอกาส 1 ใน 4 ลูกจะเป็นโรคธาลัสซีเมีย  แล้วลูกผมเขารับทั้งยีนของพ่อและแม่กับเท่าเป็นโรค ซึ่งทางคุณหมอก็ให้เราตัดสินใจว่าเราจะยุติหรือเสี่ยงให้เขาเกิดมาในทางการแพทย์มันก็มีแนวทางการรักษา แต่เราคงเห็นเขาทุกข์ทรมานเข้าโรคพยาบาลไปรับเลือดทุกๆเดือน คนเป็นพ่อเป็นแม่ก็ทรมานไม่ต่างจากเขา เราก็ปรึกษากับครอบครัวอธิบายว่าเกิดมาแล้วเขาต้องเป็นยังไง จนเราควรต้องเลือกแล้วละว่าควรทำยังไง เราก็ขอเลือกยุติการตั้งครรภ์ เพราะมีเวลาไม่มากแล้วตอนนี้เรา22W แล้ว ถ้าเกิน24W แล้วมันจะไม่สามารถทำได้

เคยอ่านเจอกระทู้ท่านหนึ่งได้บอกไว้ว่า
"จงไตร่ตรอง ทบทวน คิดหน้า คิดหลังให้ดี (เเต่อย่าใช้เวลานานนัก เพราะยิ่งปล่อยไปนาน ยิ่งทำการยุติลำบาก)
อย่าไปคิดว่าเราเป็นใคร? มีสิทธ์อะไรมาตัดสินชี้เป็นชี้ตายคนๆนึง?
เราเคยคิดเเบบนั้น เเต่เชื่อเถอะค่ะว่าการคิดเเบบนั้นมันไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้นมาเลย
มีเเต่จะทำให้คุณวนอยู่ loop เดิมๆ เเละโทษตัวเองอยู่ซ้ำๆ

ให้คิดซะว่า เราเป็นพ่อเเม่ เราต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ลูก หากประเมินเเล้ว การตั้งครรภ์เค้าต่อไป ไม่เพียงเเต่จะทำให้เราตกอยู่ในสภาวะที่อันตราย แต่สุขภาพของลูกที่เกิดมายังจะต้องเข้าโรงพยาบาลรักษาไม่จบไม่สิ้น ต้องเข้าโรคพยาบาลทุกเดือนซ้ำเเล้วซ้ำเล่า ลองคิดดูว่า หากถึงวันนั้นจริงๆเราจะทนเห็นสภาพลูกตัวน้อยๆของเราทนทรมานอยู่ได้มั้ย?"
นี่เป็นครั้งที่สองแล้วนะครับที่เราต้องสูญเสียลูกครั้งแรกคือน้องเขาฟ่อไปตอนยังเป็นถุงน้ำเล็กๆประมาณไม่ถึงสองเดือน
มันเป็นอะไรที่ทำใจยากมาก ซึ่งอีกไม่กี่เดือนก็จะเจอหน้ากันแล้ว เวลาเขาดิ้นก็ไปคุยกับเขาสัมผัสถึงความรู้สึกได้
คุยกันถึงอนาคตว่าลูกเราเกิดมาจะเลี้ยงเขายังไง วางแผนการใช้ชีวิตแล้ว บ้านก็ซื้อให้เขาแล้ว ความฝันเรากำลังพังทลายลง ซึ่งเราก็ต้องยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้นให้ได้

ข้อมูลเพิ่มเติม.ของเราเจาะน้ำคร่ำตอน19W ก่อนหน้านี้ก็ตรวจDNAทั้งของพ่อและแม่แบบละเอียดแล้ว ตอนคนแรกเราถึงรู้ว่าเราเป็นพาหะทั้งคู่ หมอก็แนะนำให้ไปตรวจแบบละเอียดซึ่งได้ทำการตรวจครบหมดทุกอย่างแล้ว
ตัวผมเป็นเบต้าชนิดรุนแรงจำที่ดูผลได้ว่าเป็นชนิดBETA (0) 71,72 ส่วนแฟนเป็นฮีโมโกลบิน อี เสี่ยงต่อการมีลูกเป็นโรคเบต้า-ธาลัสซีเมีย ชนิดมีฮีโมโกลบิน อี

เลยอยากจะถามว่าคนที่เคยผ่านเหตุการณ์แบบนี้ คุณมีวิธีที่จะทำใจกับมันยังไงครับ มันจะไม่เป็นตราบาปติดตัวเราใช่ไหมที่เราเลือกทางนี้ให้กับเขา

ขอบคุณครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 4
เพิ่งผ่านมาเมื่อสัปดาห์ที่แล้วค่ะ ผลตรวจน้องเป็นดาวน์ ยุติการตั้งครรภ์ที่ 19week โลกถล่มทลายเลยค่ะ ตอนคุณหมอแจ้งผล หูอื้อ มือชาไปหมด คุณหมอนัดอีก 5 วันถัดไปแจ้งขั้นตอนการยุติให้ฟัง แทบไม่ได้ฟังอะไรเลย
วิธีทำใจคือคิดว่า น้องไม่สมบูรณ์ น้องจะอยู่อย่างไรถ้าเราเป็นอะไรไปก่อน พี่สาวน้องสองคนต้องมาเป็นภาระ ถ้าไม่มีพ่อแม่ ตัวน้องเองจะอยู่อย่างไร สงสารเค้าต่างๆ นานา ทำใจยากจริงๆ ค่ะ
กำลังใจที่สำคัญคือคนข้างๆ ทั้งหมด โดยเฉพาะสามี เข้าใจว่าคนเป็นพ่อเป็นแม่เจ็บเหมือนกัน แต่คนเป็นแม่อุ้มท้องน้องมา เด็กยังดุ้กดิ้กๆ ในท้องแต่ต้องไม่อยู่แล้ว น้ำตาไหลทุกครั้งเวลาลูกดิ้นเลยค่ะ หลังจากน้องจากไปแล้วค่อยทำใจได้ง่ายขึ้นแต่ก็อดคิดถึงเค้าไม่ได้นะ ต้องใช้เวลาค่ะ คนอบครัวจะช่วยเยียวยาเราดีที่สุด
ปล. เราอาจจะเป็นคนไม่เชื่อเรื่องบาป บุญ เท่าไหร่ ตรงนี้อาจจะไม่ช่วยอะไร จขกท นะคะแต่เราเชื่อในปัจจุบันและอนาคตเกิดจากสิ่งที่เราทำและวางแผนในปัจจุบันมากกว่า คิดดี ทำดี มันอยู่ที่ใจเราค่ะ
ปล2. ฝั่งคุณยายเรามีน้าชายเป็นดาวน์ คุณยายกับคุณน้าดูแลกันมาตลอด จนคุณยายป่วยและจากไป น้าชายต้องอยู่กับน้าสาว ทะเลาะกันบ่อยมาก เพราะน้าชายเอาแต่ใจ หายไปจากบ้านก็บ่อย จนกระทั่งน้าชายป่วยและเสียจากคุณยายไปอีก2 ปีต่อมา เราเห็นสภาพนี้ตั้งแต่เกิด เลยไม่อยากให้ลูกต้องเป็นแบบนี้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่