ปรจิตวิทยา (parapsychology) เป็นวิทยาศาสตร์แขนงหนึ่งที่นักวิทยาศาสตร์
จำนวนไม่น้อยที่เป็น
"กายวัตถุนิยม"ไม่ชอบเอามากๆ
เพราะในด้านหนึ่งของปรจิตวิทยาไปทับซ้อนกับความเชื่อในทางจิตหรือทางศาสนา
ของพวกนิวเอเจอร์ (newage movement) โดยเฉพาะศาสนาพุทธ
แต่ความจริงการวิจัยในทางปรจิตวิทยา จะเป็นเรื่องของความรู้หรือประสบการณ์เหนือธรรมชาติ
(paranormal) ไม่ว่าจะเป็นวิธีการ (methods) หรือบริบท (context)
ซึ่งเป็นไปอย่างมีระบบและถือว่า
เป็นวิทยาศาสตร์ร้อยเปอร์เซ็นต์...
เมื่อหลายสิบปีก่อน หลังจาก นพ.เอียน สตีเวนสัน ศาสตราจารย์ทางจิตวิทยา
แห่งมหาวิทยาลัยเวอร์จิเนีย มาเมืองไทยครั้งแรก (เพื่องานวิจัยเรื่องการระลึกชาติ)
และเรามีสมาคมวิจัยทางจิตแห่งประเทศไทย (Society of Psychical Research of Thailand)
ที่หวือหวาเฟื่องฟู ขึ้นมาในตอนแรกๆ แล้วก็ค่อยๆ หดหายลงไปเรื่อยๆ
จนกระทั่งหลายปีหลังๆ มานี้ ก็เงียบไปไม่ได้ข่าวคราวอะไรอีกเลย...
ในเมื่ออะไรๆ ในโลกในจักรวาลนี้ เป็นการสรรค์สร้างขึ้นโดยธรรมชาติ หรือจะพูดกันให้จำเพาะเจาะจง
ลงไปว่าเป็นนิยามของคำว่า "ธรรมชาติ"
สิ่งนั้นก็คือ
"มัชฌิมาปฏิปทา" ที่พระพุทธองค์ได้ทรงสอนเรามาตั้งแต่เมื่อ 2,500 ปีมาแล้ว
หรือว่าคือความสมดุลพอดีหรือซิมเมตรีของสรรพสิ่ง ทุกปรากฏการณ์ทั้งหลายทั้งปวงของจักรวาล
ซึ่งในระยะหลังๆ มานี้เอง ที่ทางวิทยาศาสตร์เพิ่งจะค้นพบเช่นนั้น
ความจริงคือ คนในโลกนี้ส่วนมาก โดยเฉพาะนักวิชาการปัญญาชนทั้งหลาย
ที่เรียนมาทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเก่า ๆเดิม ๆ คนพวกนี้มักจะคิดว่าเรื่องราวอะไรต่อมิอะไร
ที่เกี่ยวกับจิตกับวิญญาณหรือกับศาสนา นอกจากจะไม่เป็นวิทยาศาสตร์แล้ว ยังเชื่อว่าวิทยาศาสตร์
เป็นเรื่องเดียวกับเทคโนโลยี เพราะว่ามนุษย์สามารถนำวิทยาศาสตร์มาประยุกต์เพื่อผลิตประดิษฐ์เทคโนโลยีใหม่ ๆ
ทำให้คุณภาพชีวิตของมนุษย์ดีขึ้น (แต่ศีลธรรมในจิตใจกลับเสื่อมลง)
และยังคิดว่ามนุษย์นั้นสูงส่งทั้งๆ ที่รูปกายเหมือนสัตว์ หากว่าลอกหนังที่หุ้มร่างกายออก
แต่ก็เชื่อว่าไม่ใช่สัตว์ เนื่องจากมนุษย์มีสติปัญญา สามารถคิดค้นและสามารถใช้เทคโนโลยีเป็น
เรื่องของจิต ของวิญญาณ ของศาสนานั้น ล้วนเป็นสิ่งที่มองไม่เห็นและตรวจ จับ วัด ชั่งหยั่งดูไม่ได้
ไม่ว่าจะใช้อุปกรณ์วิทยาศาสตร์ชนิดไหนก็ตาม
หลายๆ คนที่เรียนมาทางวิทยาศาสตร์ มักจะตั้งคำถามแบบนี้เสมอๆว่า ที่ว่ามีวิชาวิทยาศาสตร์ทางจิตนั้น
จิตมันจะเป็นวิทยาศาสตร์ไปได้อย่างไร...?
เพราะครูสอนวิทยาศาสตร์(โ- ๆ)หลายคนบอกเหมือนๆ กันว่า มันไม่มีวิทยาศาสตร์ทางจิตจริงๆหรอก
ถ้ามีก็เป็นแต่(ปรจิตวิทยา)ศาสตร์จอมปลอม (pseudoscience หรือ scientism)
เพราะเชื่อว่า
ไม่มีใครทำซ้ำๆ ในเรื่องของจิตได้ อันเป็นข้อพิสูจน์ความเป็นวิทยาศาสตร์ที่สำคัญที่สุด
ในเมื่อไม่มีข้อพิสูจน์ จิตก็ไม่ใช่วิทยาศาสตร์ จบ...
มาทำความรู้จักกับ "ปรจิตวิทยา" ศาสตร์ที่ทำให้พุทธศาสนาและวิทยาศาสตร์มาบรรจบกัน
จำนวนไม่น้อยที่เป็น"กายวัตถุนิยม"ไม่ชอบเอามากๆ
เพราะในด้านหนึ่งของปรจิตวิทยาไปทับซ้อนกับความเชื่อในทางจิตหรือทางศาสนา
ของพวกนิวเอเจอร์ (newage movement) โดยเฉพาะศาสนาพุทธ
แต่ความจริงการวิจัยในทางปรจิตวิทยา จะเป็นเรื่องของความรู้หรือประสบการณ์เหนือธรรมชาติ
(paranormal) ไม่ว่าจะเป็นวิธีการ (methods) หรือบริบท (context)
ซึ่งเป็นไปอย่างมีระบบและถือว่า เป็นวิทยาศาสตร์ร้อยเปอร์เซ็นต์...
เมื่อหลายสิบปีก่อน หลังจาก นพ.เอียน สตีเวนสัน ศาสตราจารย์ทางจิตวิทยา
แห่งมหาวิทยาลัยเวอร์จิเนีย มาเมืองไทยครั้งแรก (เพื่องานวิจัยเรื่องการระลึกชาติ)
และเรามีสมาคมวิจัยทางจิตแห่งประเทศไทย (Society of Psychical Research of Thailand)
ที่หวือหวาเฟื่องฟู ขึ้นมาในตอนแรกๆ แล้วก็ค่อยๆ หดหายลงไปเรื่อยๆ
จนกระทั่งหลายปีหลังๆ มานี้ ก็เงียบไปไม่ได้ข่าวคราวอะไรอีกเลย...
ในเมื่ออะไรๆ ในโลกในจักรวาลนี้ เป็นการสรรค์สร้างขึ้นโดยธรรมชาติ หรือจะพูดกันให้จำเพาะเจาะจง
ลงไปว่าเป็นนิยามของคำว่า "ธรรมชาติ"
สิ่งนั้นก็คือ "มัชฌิมาปฏิปทา" ที่พระพุทธองค์ได้ทรงสอนเรามาตั้งแต่เมื่อ 2,500 ปีมาแล้ว
หรือว่าคือความสมดุลพอดีหรือซิมเมตรีของสรรพสิ่ง ทุกปรากฏการณ์ทั้งหลายทั้งปวงของจักรวาล
ซึ่งในระยะหลังๆ มานี้เอง ที่ทางวิทยาศาสตร์เพิ่งจะค้นพบเช่นนั้น
ความจริงคือ คนในโลกนี้ส่วนมาก โดยเฉพาะนักวิชาการปัญญาชนทั้งหลาย
ที่เรียนมาทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเก่า ๆเดิม ๆ คนพวกนี้มักจะคิดว่าเรื่องราวอะไรต่อมิอะไร
ที่เกี่ยวกับจิตกับวิญญาณหรือกับศาสนา นอกจากจะไม่เป็นวิทยาศาสตร์แล้ว ยังเชื่อว่าวิทยาศาสตร์
เป็นเรื่องเดียวกับเทคโนโลยี เพราะว่ามนุษย์สามารถนำวิทยาศาสตร์มาประยุกต์เพื่อผลิตประดิษฐ์เทคโนโลยีใหม่ ๆ
ทำให้คุณภาพชีวิตของมนุษย์ดีขึ้น (แต่ศีลธรรมในจิตใจกลับเสื่อมลง)
และยังคิดว่ามนุษย์นั้นสูงส่งทั้งๆ ที่รูปกายเหมือนสัตว์ หากว่าลอกหนังที่หุ้มร่างกายออก
แต่ก็เชื่อว่าไม่ใช่สัตว์ เนื่องจากมนุษย์มีสติปัญญา สามารถคิดค้นและสามารถใช้เทคโนโลยีเป็น
เรื่องของจิต ของวิญญาณ ของศาสนานั้น ล้วนเป็นสิ่งที่มองไม่เห็นและตรวจ จับ วัด ชั่งหยั่งดูไม่ได้
ไม่ว่าจะใช้อุปกรณ์วิทยาศาสตร์ชนิดไหนก็ตาม
หลายๆ คนที่เรียนมาทางวิทยาศาสตร์ มักจะตั้งคำถามแบบนี้เสมอๆว่า ที่ว่ามีวิชาวิทยาศาสตร์ทางจิตนั้น
จิตมันจะเป็นวิทยาศาสตร์ไปได้อย่างไร...?
เพราะครูสอนวิทยาศาสตร์(โ- ๆ)หลายคนบอกเหมือนๆ กันว่า มันไม่มีวิทยาศาสตร์ทางจิตจริงๆหรอก
ถ้ามีก็เป็นแต่(ปรจิตวิทยา)ศาสตร์จอมปลอม (pseudoscience หรือ scientism)
เพราะเชื่อว่าไม่มีใครทำซ้ำๆ ในเรื่องของจิตได้ อันเป็นข้อพิสูจน์ความเป็นวิทยาศาสตร์ที่สำคัญที่สุด
ในเมื่อไม่มีข้อพิสูจน์ จิตก็ไม่ใช่วิทยาศาสตร์ จบ...