วันที่ 27 ธ.ค. ของปีที่ผ่านมา ผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์สลายการชุมนุม
เมื่อเดือนเม.ย.-พ.ค.2553 จำนวน 16 คน เข้าพบพนักงานสอบสวน
กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)

เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ
เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกฯ และอดีต ผอ.ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน
(ศอฉ.) ในข้อหาพยายามฆ่า

นายเสกสิทธิ์ ช้างทอง เหยื่อกระสุนปืนที่ถูกยิงตาบอด 2 ข้าง เปิดเผยว่าไม่สามารถ
ผ่าตัดเอาหัวกระสุนออกจากตาซ้ายได้ เพราะกระสุนฝังจุดสำคัญบริเวณดั้งจมูกและทับ
เส้นประสาทอยู่ จนทำให้ตาทั้ง 2 ข้างบอดสนิท

และไม่สามารถประกอบอาชีพขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างได้อีก



นายณรงค์ศักดิ์ สิงห์แม ผู้บาดเจ็บในวัดปทุมวนาราม กล่าวว่า ระหว่างที่นั่งพัก
ตรงฟุตปาธภายในวัดได้ยินเสียงปืนดังขึ้น และถูกยิงเข้าที่ขาซ้าย หน้าท้อง และ
หน้าอก รวม 4 นัด บาดเจ็บสาหัส

บาดแผลที่หน้าอกนั้นหากไม่ถูกเหรียญที่คล้องคอไว้อาจจะเสียชีวิตไปแล้วก็ได้
ระหว่างนั้นยังเห็นว่ามีผู้ถูกยิงอีกหลายราย รวมทั้งสื่อมวลชนชาวต่างชาติด้วย

ที่มาแจ้งความกับดีเอสไอเพื่อต้องการให้ดำเนินคดีกับผู้รับผิดชอบในข้อหา
พยายามฆ่า เนื่องจากเป็นการกระทำที่โหดร้ายต่อประชาชน

ก่อเหตุได้แม้กระทั่งภายในวัด ซึ่งประกาศเป็นเขตอภัยทาน



คำให้การของผู้ได้รับบาดเจ็บหรือพิการจากเหตุการณ์สลายการชุมนุม
จะมีส่วนช่วยลดความคลุมเครืออันนำไปสู่ความไม่แน่ใจของคนทั่วไป
ที่มีต่อเหตุการณ์ดังกล่าวได้ชัดเจนขึ้น

เพราะเป็นคำบอกเล่าโดยตรงของผู้ประสบเหตุที่สามารถรอดชีวิต
จากการใช้อาวุธจริง กระสุนจริง ที่มีน้ำหนักและความน่าเชื่อถือกว่าสิ่งอื่นๆ

กระบวนการพิสูจน์ความจริงและความยุติธรรมยังอาจ
ต้องเดินต่อไปด้วยเวลาและระยะทางอีกยาวนาน

แต่ข้อเท็จจริงที่ค่อยๆ ปรากฏระหว่างกระบวนการนี้เอง
ที่จะช่วยให้สังคมมีวินิจฉัยที่ถูกต้องเที่ยงธรรมมากขึ้น

เป็นคุณูปการสำคัญอย่างหนึ่งของของคำให้การจาก
ผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว

http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNMU56SXpNREE0Tnc9PQ==&sectionid=

กระทู้นี้ไม่ intrend  เพราะไม่เกี่ยวกับ  เหนือเมฆ  ไม่ใช่เรื่องเขาพระวิหาร
ขอกลับมาเรื่อง  ผลของสลายการชุมนุม  ที่ค่อยๆแจ่มชัดขึ้นทุกที  .....