จากเมื่อ 2-3 ปีก่อน ราคายางพาราสูงมาก ทำให้หลายคนหันมาปลูกยางพารากันมากขึ้น ใครมีที่ว่างก็เอาไปปลูกยาง ที่สวนที่นาก็ไถมาปลูกยาง
ทำให้มีความต้องการต้นพันธุ์ยางเป็นอย่างมาก ถือเป็นปีทองของผู้ขายกล้ายาง เพราะสามารถขายได้สูงถึงต้นละ 50 บาทก็มี
ทำให้เกษตรกรบางรายเริ่มหันมาทำกล้ายางเอง ทั้งเพื่อลดต้นทุน หรือเพาะไว้ขาย
เมื่อปีก่อนผมลงไปซื้อยางตาเขียวจากนครศรีฯ ในราคาต้นละ 18-19 บาท เพื่อเอามาชำเอง

มาปีนี้ เมื่ออาทิตย์ก่อน สั่งซื้อมาอีกเหมือนกัน แต่เป็นยาง 2 ฉัตร สูงพ้นเอว ใบแก่พร้อมปลูกได้เลย ในราคาถุงละ 20 บาท

น่าจะเป็นหนึ่งเหตุการณ์ที่บ่งบอกว่าธุรกิจกล้ายางกำลังเริ่มกลับสู่สภาพจริงของมัน หรืออาจเรียกขาลงก็ได้
เพราะที่ว่างต่างๆถูกปลูกยางไปเกือบหมดแล้วในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา
ความต้องการจึงลดลง แต่ผู้ผลิดยังคงผลิตออกมาเรื่อยๆ และอาจเพิ่มขึ้นจากผู้ผลิตรายใหม่

เมื่อความต้องการน้อย แต่ผลผลิตมาก ราคาต้องตกลงมาแน่นอน

ดังนั้นคนที่กำลังคิดจะทำธุรกิจนี้อาจต้องรีบคิดใหม่ถึงความคุ้มค่าในการลงทุน