เผยยางไทยผลผลิตสุดต่ำ300กก./ไร่/ปี ขณะที่”กัวเตมาลา”กรีดน้ำยางได้ไร่ละ1พันกก. จี้ รบ.ช่วย โดยดึงงบฯจาก2ลล.มาพัฒนายาง

เผยยางไทยผลผลิตสุดต่ำ แค่300กิโลกรัม/ไร่/ปี ขณะที่”กัวเตมาลา”กรีดน้ำยางได้ไร่ละ1พันกิโล จี้ รบ.ช่วย

วันที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2556 เวลา 14:45:56 น.


นายบุญส่ง นับทอง นายกสมาคมสหพันธ์ชาวสวนยางพาราแห่งประเทศไทย ให้สัมภาษณ์ที่จ.ภูเก็ต ระหว่างเข้าร่วมประชุมยางพาราอาเซียนว่า ในการประชุมครั้งนี้ได้รับข้อมูลใหม่ๆ ด้านการผลิตยางพาราของประเทศเพื่อนบ้าน อาทิเมียนมาร์ ลาว กัมพูชา อินเดียและจีน ขณะที่มาเลเซีย ซึ่งเคยลดพื้นที่ปลูกยางพาราจาก7แสนไร่ ปัจจุบันกลับมาขยายพื้นที่เพาะปลูกยางมากขึ้นกว่าเดิมเป็นล้านไร่ สำหรับไทยปลูกยางมาก 18ล้านไร่ มีผลผลิตโดยเฉลี่ย 3.7ล้านตัน

นายบุญส่งกล่าวว่า เกษตรกรปลูกยางพาราของไทยจะต้องปรับปรุงตัว โดยเฉพาะการเสาะหาพันธุ์ยางที่ให้ผลผลิตสูง เนื่องจากในปัจจุบัน ยางไทยให้ผลผลิตเพียง 300กิโลกรัม(ก.ก.)ต่อไร่ต่อปี ส่วนมาเลเซีย 400ก.ก./ไร่/ปี ที่กัวเตมาลา อยู่ในละตินอเมริกา ราว 1,000ก.ก./ไร่/ปี ทั้งนี้กรมวิชาการเกษตรของไทยสามารถเพาะพันธุ์กล้ายางให้ได้ผลผลิตสูงถึง 450ก.ก./ไร่/ปี และในบางแปลงให้น้ำยาง 600ก.ก./ไร่/ปี

นายบุญส่งกล่าวว่า รัฐบาลจะต้องส่งเสริมสนับสนุนเกษตรกรหันมาเพาะปลูกพันธุ์ยางให้ได้ผลผลิตที่สูงขึ้น ควบคู่กับการสนับสนุนด้านปัจจัยการผลิต เช่นปุ๋ย นอกจากนี้ ในพื้นที่การทำสวนยาง ภาคใต้ประสบปัญหาแรงงานกรีดยาง จึงต้องให้ทุกภาคส่วนหันมาช่วยเหลือรวมทั้งอยากให้รัฐบาลเน้นการแปรรูปยางพาราเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มมากขึ้น

“เวลานี้มีสต็อคยางอยู่ประมาณสองแสนตัน รัฐบาลต้องเร่งนำมาแปรรูปสร้างมูลค่าเพิ่ม เช่นนำมาผสมกับแอสฟัลต์ทำเป็นถนนยางพารา ซึ่งกระทรวงเกษตรฯและกระทรวงคมนาคมรว่มทดลองทำในเส้นทางเชื่อมระหว่างจังหวัดกระบี่กับอำเภอขนอม จังหวัดนครศรีธรรมราช”นายบุญส่งกล่าว

นายบุญส่งกล่าวว่า ยางพารายังสามารถนำมาแปรรูปเป็นวัสดุรองคอสะพาน หรือเป็นส่วนประกอบในการรับน้ำหนักของรางรถไฟ ตลอดจนนำไปทำเป็นถังขนาดใหญ่หรือBig Tank สามารถกักเก็บน้ำและพับเก็บได้ ช่วยแก้ปัญหาภัยแล้ง

“ขณะนี้รัฐบาลออกพระราชบัญญัติกู้เงิน2ล้านล้านบาทนำมาใช้ในการปรับปรุงพัฒนาระบบขนส่งคมนาคม ทั้งรถไฟความเร็วสูง รถไฟรางคู่หรือการก่อสร้างถนนเชื่อมเครือข่ายทั่วประเทศ หากรัฐบาลดึงงบฯบางส่วนมาใช้พัฒนายางพาราเพื่อนำไปเป็นวัสดุของโครงการก่อสร้างทางรถไฟ หรือถนนเป็นการช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับตลาดยางพารา”
นายบุญส่งกล่าว


http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1365654704&grpid=&catid=05&subcatid=0503
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่