.... " รอ อรุณฉาย " ....
แสงจันทร์ส่อง สลัว ใต้เงาเมฆ
ยามราตรี วิเวก วังเวงแสน
เงาตะคุม รอบกาย สงบแดน
เงียบใดแม้น เสียงหัวใจ ระทึกดัง
รออรุณ วันใหม่ ใสเฉิดฉัน
รอตะวัน ส่องสว่าง สาดเส้นหวัง
รอฟ้าน้ำ พริ้วระยับ เพิ่มพลัง
พ้นภวังค์ สติรับ กำลังใจ
อีกไม่นาน อีกไม่นาน จะสมหวัง
อีกไม่นาน พ้นภวังค์ สู่สดใส
อีกไม่นาน ความมัวหม่น จะพ้นไป
อีกไม่นาน สิ่งฝันใฝ่ จะสมปอง
ความวังเวง ท่ามกลาง ความเงียบเหงา
ก็ยังลม หายใจเรา สูดสนอง
หายใจเข้า หายใจออก ตามครรลอง
ปราณสอดคล้อง เปลี่ยนสลับ ชีพดำรง
ใต้เงาจันทร์ ส่องสลัว สว่างฉาย
จุดประกาย ชีวิตหวัง หมายประสงค์
มองกลุ่มเมฆ ลอยผ่านจันทร์ สานฝันคง
จิตจำนงค์ นิ่งสงบ รออรุณ
.... " เสียงรำพึง " ....
.... " รอ อรุณฉาย " ....
.... " รอ อรุณฉาย " ....
แสงจันทร์ส่อง สลัว ใต้เงาเมฆ
ยามราตรี วิเวก วังเวงแสน
เงาตะคุม รอบกาย สงบแดน
เงียบใดแม้น เสียงหัวใจ ระทึกดัง
รออรุณ วันใหม่ ใสเฉิดฉัน
รอตะวัน ส่องสว่าง สาดเส้นหวัง
รอฟ้าน้ำ พริ้วระยับ เพิ่มพลัง
พ้นภวังค์ สติรับ กำลังใจ
อีกไม่นาน อีกไม่นาน จะสมหวัง
อีกไม่นาน พ้นภวังค์ สู่สดใส
อีกไม่นาน ความมัวหม่น จะพ้นไป
อีกไม่นาน สิ่งฝันใฝ่ จะสมปอง
ความวังเวง ท่ามกลาง ความเงียบเหงา
ก็ยังลม หายใจเรา สูดสนอง
หายใจเข้า หายใจออก ตามครรลอง
ปราณสอดคล้อง เปลี่ยนสลับ ชีพดำรง
ใต้เงาจันทร์ ส่องสลัว สว่างฉาย
จุดประกาย ชีวิตหวัง หมายประสงค์
มองกลุ่มเมฆ ลอยผ่านจันทร์ สานฝันคง
จิตจำนงค์ นิ่งสงบ รออรุณ
.... " เสียงรำพึง " ....