กระทู้ขอบคุณเจ้าหน้าที่ istudio สาขา Mega Bangna , พนักงานรักษาความปลอดภัยห้าง Mega Bangna และพนักงานที่เกี่ยวข้องทุกท่านนะคะ
ยาวนิดนึงนะคะ
เหตุการณ์เกิดเมื่อวานนี้ 23 ธันวาคม 2555
ครอบครัวเรา (แม่สามี สามี เรา และลูกสาวอายุ 6 เดือน) ได้เดินทางไป Mega Bangna
เริ่มจาก
ออกเดินทางจากบ้านเวลาประมาณบ่าย 2 แม่สามีชวนไปทานข้าวที่ Mage Bangna
แต่ไปกันไม่ถูก แม่จึงใช้ iphone 4 โทรหาญาติและถามทางตลอดการเดินทาง
หลังจากโทรเสร็จ ก็เก็บมือถือลงด้านข้างกระเป๋า (เสียบไว้ช่องเล็ก กระเป๋าไม่มีซิบ)
พอถึงห้าง ที่จอดรถอยู่ใต้ห้างฝั่งด้านหน้าของห้าง จอดรถ แม่สามีอุ้มหลานเดินเข้าห้างไปก่อน
ส่วนแฟนก็หิ้วกระเป๋าแม่ กระเป๋าเมียและกระเป๋าลูก เดินตามไป
และเรากางรถเข็น จัดที่นอนบนรถเข็น ล็อกรถแล้วเดินตามไปท้ายสุด
เสร็จก็ขึ้นลิฟท์ไปทานข้าวที่ร้าน CoCo ICHIBANYA ซึ่งเป็นร้านด้านหน้าห้างปลีกซ้าย
ทานข้าวกันไป สักพักแม่ก็อุ้มหลานไปเดินเล่นนอกร้าน และสั่งให้ระวังมือถือหายเพราะกระเป๋าไม่มีซิป แล้วแม่ก็อุ้มหลานเข้าไปในห้างเลือกตุ๊กตาที่บูธอิเกีย (บูธเล็กๆด้านหน้าห้าง)
พอเรากับสามีทานข้าวเรียบร้อย จ่ายเงินเสร็จก็ออกจากร้าน (กระเป๋าสามีเราวางไว้ข้างตัวทั้ง 3 ใบ)
แม่ยังเลือกตุ๊กกตาไม่เสร็จ (ซื้อเยอะมากค่ะ ตั้งใจจะเอาไปแจกเด็ก ๆ)
เราจึงอุ้มลูกพาไปเดินเล่นอีกด้านนึง สามีส่งกระเป๋าคืนแม่เค้าไป
และเอากระเป๋าเรากับลูกใส่รถเข็นและตามเรามา นานราวครึ่งชั่วโมง เราเดินกลับมาที่บูธอิเกีย
แม่สามีบ่นว่าโทรศัพท์หายยย !!! ค้น ๆ หา ๆ กันอยู่นาน ไม่เจอ
(อีตาสามีก็ไม่รู้เรื่องเพราะแม่สั่งให้ระวังแต่ไม่ดู ตอนหยิบออกมาจากรถก็ไม่ได้ดู)
แม่สามียืนยันว่าเอาใส่กระเป๋ามาแล้ว หลังจากโทรบนรถก็เสียบกระเป๋ามาชัวร์ !!!
ทำไงดีละ โทรเข้า ๆ ๆ ไม่มีใครรับ สามีรีบวิ่งกลับไปที่ร้าน ทางร้านบอกไม่มี ไม่เห็น
สามีเลยรีบเข้าไปที่ร้าน istudio ใช้ เครือง Macbook ของทางร้านค้นหามือถือจาก App
ค้นพบตำแหน่งอยู่หน้าห้าง ตรงจุดพอดีกับที่ร้านอาหาร
เรากลับเข้าไปในร้านอีกครั้ง พออยู่ในร้านก็โทรเข้า เผื่อว่าจะตกอยู่ใต้เก้าอี้แล้วพนักงานไม่เห็น
แต่เงียบบบ ไม่มีเสียงเรียกเข้า (รึเราไม่ได้ยิน?) ใช้มือถือเราโทรหาสามีถามตำแหน่งที่แน่นอน
เค้าบอกว่าตำแหน่งมันย้ายแล้วไปอีกจุดนึงใกล้ ๆ กัน (สงสัยจะมีคนขโมยแหงๆ)
เราส่งลูกให้แม่สามี และให้ไปยืนรอที่แถว ๆ ร้าน istudio
พยายามโทรคุยกับสามีตลอดเพื่อให้เค้าหาตำแหน่งที่แน่นอน
พร้อมๆ สามีก็ส่งสัญญาณตามหาเครื่อง เค้าส่งข้อความผ่านจากเครื่อง Mac ในร้าน istudio
(ต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ของทางร้านด้วยนะคะ ที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้)
แต่ที่ห้างคนเยอะ เสียงดัง ไม่สามารถฟังได้เลยเครื่องไหน เสียงไหน
และถ้ามือถือมันถูกซ่อนอยู่ในกระเป๋า ไม่มีทางได้ยินแน่ ๆ
สามีโทรมาบอกว่า สัญญาณกลับมาที่เดิมอีกแล้ว คือเหมือนคนเดินไปแล้วเดินกลับน่ะค่ะ
เราก็เดินไป เดินกลับ เค้าให้เราสังเกตุคนที่เดินผ่าน แต่ ๆ ๆ ๆ คนเยอะมากจริง ๆ
ทำได้แค่เงียบฟัง และสังเกตุคนให้มากที่สุด เราบอกสามีว่าไม่เจอคนที่ผิดปกติเลย
ระหว่างนั้นสามีลงไปแจ้ง เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ของทางห้าง เค้ารับเรื่องเอาไว้
หลังจากพยายามอยู่พักใหญ่ เราเริ่มเหนื่อย (เดินไปเดินกลับอยู่คนเดียว)
และทั้งห้างก็ไฟดับ - -* ไม่สามารถจับสัญญาณได้แล้ว เพราะ Wifi ในร้านดับไป
นานราว 5 นาที จนกระทั่งไฟมา Wifi บูธขึ้นอีกรอบจับสัญญาณได้ว่าอยู่แถวหน้าห้างเช่นเดิม
เราจึงไปแจ้งเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์อีกรอบ ให้เค้าช่วยหา เพราะเจอตำแหน่งว่าอยู่ด้านหน้าข้าง (แต่ไม่รู้อยู่ั้ชั้นไหน)
เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ให้พนักงานรักษาความปลอดภัยมารับข้อมูลต่อ
เราเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมกับบอกว่า
"พี่ช่วยหนูดูหน่อยได้ไหมค่ะ มีสัญญาณแจ้งบอกตำแหน่งแต่ไม่รู้ว่ามันคือตรงไหนของห้าง"
พี่พนักงานรักษาความปลอดภัยรับคำ เราจึงพาพี่เค้าำไปที่ร้าน istudio ให้เค้าดูตำแหน่งที่จับสัญญาณได้
พนักงานรักษาความปลอดภัยอย่างน้อย 4 คนช่วยกัน วอหาและกระจายกำลังกัน
แต่ไม่เจอ เวลาผ่านไปนานนับจากมือถือหาย จนกระทั่งแจ้งเจ้าหน้าที่ใช้เวลานานราวเกือบ 3 ชั่วโม
งที่เราเดินไม่หยุด
ไม่มีวี่แววว่าจะเจอใครที่น่าสงสัย แม่สามีเริ่มถอดใจ เราก็เหนื่อยมาก ส่วนยัยตัวเล็กก็เริ่มจะไม่ไหวแล้ว
เดินกลับไปหาสามีที่ร้าน istudio แล้วบอกว่า พอเหอะ ไม่ไหวแล้วอ่ะ
สามีบอก อือ จริง ๆ แล้วที่ต้องตามหาให้เจอ เพราะข้อมูลเรื่องงานของแม่ทั้งหมดอยู่ในมือถือ
(แม่เป็น ผจก.แบงค์น่ะค่ะ) และเสียดายรูปยัยตัวเล็กด้วย
แต่ในเมื่อมันไม่เจอก็คือไม่เจอ สามีจะลบข้อมูลทุกอย่างในเครื่อง
เราบอกว่าอย่าเลย ปล่อยไว้อย่างนั้นแหละ หากมีคนขโมยจริงเดียวเค้ากลับบ้านไปเราก็ค้นหาเค้าเดียวก็ต้องเจอ
สุดท้ายครอบครัวเราแจ้งทางเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยว่าคงไม่เจอแล้วจริง ๆ รวมทั้งขอบคุณ (เรากับสามียกมือไหว้ขอบคุณเค้าจากใจจริงที่ช่วยเหลือ) และเจ้าหน้าที่แนะนำให้ไปแจ้งความ
หลังจากนั้นก็พากันกลับบ้าน พอมาถึงรถ ผ่างงงง !!!
มือถือนอนแอ้งแม้งอยู่ใต้ท้องรถ - -" เฮ้ยยยยยยย.....
มันเป็นความรู้สึกที่บอกไม่ถูกเลย
ทั้งโกรธ (โกรธที่ตรูเดินจนเหงื่อซก) + ไม่รู้จะโกรธใคร มันตกตอนไหน ใครทำตกแล้วทำไมไม่มีใครเห็น
ทั้งดีใจ (ของไม่หาย)
ทั้งละอายใจ (เจ้าหน้าที่มาช่วยกันเต็มที่มากๆ)
ปนงงว่าทำไมสัญญาณมันเคลื่อนที่ได้เอง
สุดท้ายไม่ว่าจะยังไงก็ตาม ครอบครัวเราประทับใจเจ้าหน้าที่ทุกท่านทั้งของร้าน istudio และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทุกท่าน
ขอขอบคุณจากใจจริงค่ะ
กระทู้ขอบคุณ istudio และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยห้าง Mega Bangna ค่ะ
ยาวนิดนึงนะคะ
เหตุการณ์เกิดเมื่อวานนี้ 23 ธันวาคม 2555
ครอบครัวเรา (แม่สามี สามี เรา และลูกสาวอายุ 6 เดือน) ได้เดินทางไป Mega Bangna
เริ่มจาก
ออกเดินทางจากบ้านเวลาประมาณบ่าย 2 แม่สามีชวนไปทานข้าวที่ Mage Bangna
แต่ไปกันไม่ถูก แม่จึงใช้ iphone 4 โทรหาญาติและถามทางตลอดการเดินทาง
หลังจากโทรเสร็จ ก็เก็บมือถือลงด้านข้างกระเป๋า (เสียบไว้ช่องเล็ก กระเป๋าไม่มีซิบ)
พอถึงห้าง ที่จอดรถอยู่ใต้ห้างฝั่งด้านหน้าของห้าง จอดรถ แม่สามีอุ้มหลานเดินเข้าห้างไปก่อน
ส่วนแฟนก็หิ้วกระเป๋าแม่ กระเป๋าเมียและกระเป๋าลูก เดินตามไป
และเรากางรถเข็น จัดที่นอนบนรถเข็น ล็อกรถแล้วเดินตามไปท้ายสุด
เสร็จก็ขึ้นลิฟท์ไปทานข้าวที่ร้าน CoCo ICHIBANYA ซึ่งเป็นร้านด้านหน้าห้างปลีกซ้าย
ทานข้าวกันไป สักพักแม่ก็อุ้มหลานไปเดินเล่นนอกร้าน และสั่งให้ระวังมือถือหายเพราะกระเป๋าไม่มีซิป แล้วแม่ก็อุ้มหลานเข้าไปในห้างเลือกตุ๊กตาที่บูธอิเกีย (บูธเล็กๆด้านหน้าห้าง)
พอเรากับสามีทานข้าวเรียบร้อย จ่ายเงินเสร็จก็ออกจากร้าน (กระเป๋าสามีเราวางไว้ข้างตัวทั้ง 3 ใบ)
แม่ยังเลือกตุ๊กกตาไม่เสร็จ (ซื้อเยอะมากค่ะ ตั้งใจจะเอาไปแจกเด็ก ๆ)
เราจึงอุ้มลูกพาไปเดินเล่นอีกด้านนึง สามีส่งกระเป๋าคืนแม่เค้าไป
และเอากระเป๋าเรากับลูกใส่รถเข็นและตามเรามา นานราวครึ่งชั่วโมง เราเดินกลับมาที่บูธอิเกีย
แม่สามีบ่นว่าโทรศัพท์หายยย !!! ค้น ๆ หา ๆ กันอยู่นาน ไม่เจอ
(อีตาสามีก็ไม่รู้เรื่องเพราะแม่สั่งให้ระวังแต่ไม่ดู ตอนหยิบออกมาจากรถก็ไม่ได้ดู)
แม่สามียืนยันว่าเอาใส่กระเป๋ามาแล้ว หลังจากโทรบนรถก็เสียบกระเป๋ามาชัวร์ !!!
ทำไงดีละ โทรเข้า ๆ ๆ ไม่มีใครรับ สามีรีบวิ่งกลับไปที่ร้าน ทางร้านบอกไม่มี ไม่เห็น
สามีเลยรีบเข้าไปที่ร้าน istudio ใช้ เครือง Macbook ของทางร้านค้นหามือถือจาก App
ค้นพบตำแหน่งอยู่หน้าห้าง ตรงจุดพอดีกับที่ร้านอาหาร
เรากลับเข้าไปในร้านอีกครั้ง พออยู่ในร้านก็โทรเข้า เผื่อว่าจะตกอยู่ใต้เก้าอี้แล้วพนักงานไม่เห็น
แต่เงียบบบ ไม่มีเสียงเรียกเข้า (รึเราไม่ได้ยิน?) ใช้มือถือเราโทรหาสามีถามตำแหน่งที่แน่นอน
เค้าบอกว่าตำแหน่งมันย้ายแล้วไปอีกจุดนึงใกล้ ๆ กัน (สงสัยจะมีคนขโมยแหงๆ)
เราส่งลูกให้แม่สามี และให้ไปยืนรอที่แถว ๆ ร้าน istudio
พยายามโทรคุยกับสามีตลอดเพื่อให้เค้าหาตำแหน่งที่แน่นอน
พร้อมๆ สามีก็ส่งสัญญาณตามหาเครื่อง เค้าส่งข้อความผ่านจากเครื่อง Mac ในร้าน istudio
(ต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ของทางร้านด้วยนะคะ ที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้)
แต่ที่ห้างคนเยอะ เสียงดัง ไม่สามารถฟังได้เลยเครื่องไหน เสียงไหน
และถ้ามือถือมันถูกซ่อนอยู่ในกระเป๋า ไม่มีทางได้ยินแน่ ๆ
สามีโทรมาบอกว่า สัญญาณกลับมาที่เดิมอีกแล้ว คือเหมือนคนเดินไปแล้วเดินกลับน่ะค่ะ
เราก็เดินไป เดินกลับ เค้าให้เราสังเกตุคนที่เดินผ่าน แต่ ๆ ๆ ๆ คนเยอะมากจริง ๆ
ทำได้แค่เงียบฟัง และสังเกตุคนให้มากที่สุด เราบอกสามีว่าไม่เจอคนที่ผิดปกติเลย
ระหว่างนั้นสามีลงไปแจ้ง เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ของทางห้าง เค้ารับเรื่องเอาไว้
หลังจากพยายามอยู่พักใหญ่ เราเริ่มเหนื่อย (เดินไปเดินกลับอยู่คนเดียว)
และทั้งห้างก็ไฟดับ - -* ไม่สามารถจับสัญญาณได้แล้ว เพราะ Wifi ในร้านดับไป
นานราว 5 นาที จนกระทั่งไฟมา Wifi บูธขึ้นอีกรอบจับสัญญาณได้ว่าอยู่แถวหน้าห้างเช่นเดิม
เราจึงไปแจ้งเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์อีกรอบ ให้เค้าช่วยหา เพราะเจอตำแหน่งว่าอยู่ด้านหน้าข้าง (แต่ไม่รู้อยู่ั้ชั้นไหน)
เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ให้พนักงานรักษาความปลอดภัยมารับข้อมูลต่อ
เราเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมกับบอกว่า
"พี่ช่วยหนูดูหน่อยได้ไหมค่ะ มีสัญญาณแจ้งบอกตำแหน่งแต่ไม่รู้ว่ามันคือตรงไหนของห้าง"
พี่พนักงานรักษาความปลอดภัยรับคำ เราจึงพาพี่เค้าำไปที่ร้าน istudio ให้เค้าดูตำแหน่งที่จับสัญญาณได้
พนักงานรักษาความปลอดภัยอย่างน้อย 4 คนช่วยกัน วอหาและกระจายกำลังกัน
แต่ไม่เจอ เวลาผ่านไปนานนับจากมือถือหาย จนกระทั่งแจ้งเจ้าหน้าที่ใช้เวลานานราวเกือบ 3 ชั่วโม
งที่เราเดินไม่หยุด
ไม่มีวี่แววว่าจะเจอใครที่น่าสงสัย แม่สามีเริ่มถอดใจ เราก็เหนื่อยมาก ส่วนยัยตัวเล็กก็เริ่มจะไม่ไหวแล้ว
เดินกลับไปหาสามีที่ร้าน istudio แล้วบอกว่า พอเหอะ ไม่ไหวแล้วอ่ะ
สามีบอก อือ จริง ๆ แล้วที่ต้องตามหาให้เจอ เพราะข้อมูลเรื่องงานของแม่ทั้งหมดอยู่ในมือถือ
(แม่เป็น ผจก.แบงค์น่ะค่ะ) และเสียดายรูปยัยตัวเล็กด้วย
แต่ในเมื่อมันไม่เจอก็คือไม่เจอ สามีจะลบข้อมูลทุกอย่างในเครื่อง
เราบอกว่าอย่าเลย ปล่อยไว้อย่างนั้นแหละ หากมีคนขโมยจริงเดียวเค้ากลับบ้านไปเราก็ค้นหาเค้าเดียวก็ต้องเจอ
สุดท้ายครอบครัวเราแจ้งทางเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยว่าคงไม่เจอแล้วจริง ๆ รวมทั้งขอบคุณ (เรากับสามียกมือไหว้ขอบคุณเค้าจากใจจริงที่ช่วยเหลือ) และเจ้าหน้าที่แนะนำให้ไปแจ้งความ
หลังจากนั้นก็พากันกลับบ้าน พอมาถึงรถ ผ่างงงง !!!
มือถือนอนแอ้งแม้งอยู่ใต้ท้องรถ - -" เฮ้ยยยยยยย.....
มันเป็นความรู้สึกที่บอกไม่ถูกเลย
ทั้งโกรธ (โกรธที่ตรูเดินจนเหงื่อซก) + ไม่รู้จะโกรธใคร มันตกตอนไหน ใครทำตกแล้วทำไมไม่มีใครเห็น
ทั้งดีใจ (ของไม่หาย)
ทั้งละอายใจ (เจ้าหน้าที่มาช่วยกันเต็มที่มากๆ)
ปนงงว่าทำไมสัญญาณมันเคลื่อนที่ได้เอง
สุดท้ายไม่ว่าจะยังไงก็ตาม ครอบครัวเราประทับใจเจ้าหน้าที่ทุกท่านทั้งของร้าน istudio และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทุกท่าน
ขอขอบคุณจากใจจริงค่ะ