10 ปีกับคดีหมอชาลีดูดไขมันคนไข้จนเสียชีวิต

กระทู้ข่าว
เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 19 ธ.ค. ที่ห้องพิจารณาคดีที่ 2 ศาลจังหวัดเชียงใหม่ ศาลฎีกามีกำหนดอ่านคำพิพากษาคดีดำที่ 1703/2546 กรณีนายแพทย์ชาลี กาญจนรักษ์ อายุ 48 ปี เจ้าของคลินิกศัลยกรรมความงาม "ชาลีคลินิก" เลขที่ 96/6 ถ.ราชเชียงแสน ต.หายยา อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ดูดไขมันเป็นเหตุให้ น.ส.ศิริภรณ์ หรือกุ้ง มุ่ยมา อายุ 17 ปี นักเรียนชั้น ม.5 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เสียชีวิตอยู่บนเตียงคนไข้ โดยมีพนักงานอัยการเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง มีนายกมล และนางบังเอิญ มุ่ยมา พ่อและแม่ของน้องกุ้งฝ่ายโจทก์  เดินทางมารอรับฟังคำพิพากษาของศาลฯ พร้อมกับ นายปิ่นนคร ศรีจันทร์ ทนายความเจ้าของคดีจากสภาทนายความเชียงใหม่

กระทั่ง 10.20 น. นายแพทย์ชาลี ยังไม่ปรากฏตัวคาดว่ายังคงหลบหนี ศาลจึงออกหมายจับและกำหนดนัดอ่านคำพิพากษาอีกครั้งในวันที่ 31 มกราคม 2556 ซึ่งจะให้เวลานายแพทย์ชาลีเป็นเวลา 1 เดือน หากไม่มาตามนัดจะอ่านคำพิพากษาลับหลัง เบื้องต้นได้แจ้งปรับทนายฝ่ายจำเลยแล้ว  

นายกมล มุ่ยมา อายุ 60 ปี บิดาของน้องกุ้ง กล่าวว่า ตอนนี้รู้สึกว่าความยุติธรรมในเรื่องของบุตรสาวใกล้ยุติแล้วแต่ผู้ต้องหาก็ไม่มาตามนัด ก็อยากให้ออกมามอบตัวยอมรับผลกรรมที่ก่อขึ้น ทุกวันนี้ภาพของลูกสาวยังติดตาติดใจ เป็นความเศร้าเสียใจที่หาคำบรรยายไม่ได้ หากนายแพทย์ชาลี หลบหนีไปจิงก็อยากให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยติดตามล่าตัวมาดำเนินการรับโทษโดยเร็ว

สำหรับคดีดังกล่าว เหตุการณ์ได้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 03.05 น.วันที่ 6 ธ.ค.45 พ.ต.ต.ชัยดวงทิพย์ ธงเชื้อ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองเชียงใหม่ รับแจ้งว่ามีเหตุผู้เสียชีวิตที่ชาลีคลินิค จึงเดินทางไปตรวจสอบ พบว่าผู้เสียชีวิตคือ น.ส.ศิริภรณ์ มุ่ยมา หรือ น้องกุ้ง นอนเปลือยกายมีผ้าคลุมร่างบนเตียงคนไข้ สภาพศพใบหน้าและร่างกายเขียวช้ำ ขาและเข่าข้างขวามีรอยแผลดูดไขมัน ส่วนอื่นๆ ของร่างกายมีรอยผ่าตัดเป็นแผลยาว มีคราบเลือดและไขมันติดอยู่ และพบอุปกรณ์การผ่าตัดจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน หลังจากนั้นได้แจ้งข้อกล่าวหากับนายแพทย์ชาลี ในข้อหากระทำโดยประมาทและการกระทำนั้นเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย

ต่อมาวันที่ 3 ก.พ.2547 ศาลชั้นต้นพิพากษาสั่งจำคุกนายแพทย์ชาลีเป็นเวลา 4 ปีโดยไม่รอลงอาญา นายแพทย์ชาลีได้ทำเรื่องประกันตัวและต่อสู้คดีในชั้นศาลอุทธรณ์ นอกจากนี้บิดามารดาของน.ส.ศิริภรณ์ยังได้ฟ้องทางแพ่งต่อนายแพทย์ชาลี เรียกค่าเสียหายในการเสียชีวิตของลูกสาวเป็นเงิน 12 ล้านบาท ต่อมาศาลอุทธรณ์พิพากษาสั่งจำคุก 4 ปี 3 เดือน เพิ่มฐานความผิดใช้ยาหมดอายุ ซึ่งนายแพทย์ชาลีได้ขอประกันตัวและต่อสู้ในชั้นศาลฏีกา กระทั่งมีการกำหนดตัดสินคดีในวันนี้


http://www.dailynews.co.th/thailand/173337


ไม่ทราบว่าสาเหตุการเสียชีวิตเพราะอะไรครับ

แต่ว่าเมื่อเป็นคดีความฟ้องร้องกันถึง 10 ปี ใช้เวลานานเหลือเกิน
ค่าเสียหายเรียกถึง 12 ล้าน พอสมควรหรือมากเกินไปครับ

จะมีวิธีเยียวยาหรือหาข้อยุติในกรณีแบบนี้ไม่ให้ใช้เวลานานและยุติธรรมสมควรแก่เหตุกับทุกฝ่ายอย่างไรดีครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่