[CR] เล่าเรื่องการเดินทาง 2,200 กิโลเมตร 3 แผ่นดิน ไทย-พม่า-ลาว ตอนที่ 4. เดินทางวันที่ 4..อุทยานประวัติศาตร์สุโขทัย (1/2)

ความเดิมตอนที่แล้ว
จาก link นี้ครับ :
กระทู้แรก เกริ่นนำเรื่อง :
http://ppantip.com/topic/33108342
ตอนที่ 1..อุทยานประวัติศาสตร์อยุธยา :
http://ppantip.com/topic/33113437
ตอนที่ 2..อุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร :
http://ppantip.com/topic/33117448
ตอนที่ 3..สุดประจิมที่ริมเมย (1/2)
http://ppantip.com/topic/33119147
ตอนที่ 2..อุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร (2/2)
http://ppantip.com/topic/33119204

หมายเหตุ ตอนสุดท้ายข้างบนนี้ ซึ่งหมายถึงตอนที่ 2..อุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร (2/2) พิมพ์ผิดครับ ต้องเป็น ตอนที่ 3..สุดประจิมที่ริมเมย (2/2) ครับ  ตอนพิมพ์นั้นน่าจะประมาณตี 5 กว่า ๆ สงสัยง่วงจัด เลยพิมพ์ชื่อเรื่องผิด แล้วเวลาตรวจทานก็ไม่ได้ดูชื่อเรื่อง ขออภัยเป็นอย่างสูงมา ณ. ที่นี้นะครับ

ก่อนเริ่มเข้ากระทู้ของวันนี้ ก็ขอขอบคุณเพื่อนสมาชิกหลายท่านนะครับที่ได้ comment มาซึ่งเป็นประโยชน์มาก ยกตัวอย่างเช่น กระทู้อ้างอิง "ความเดิมตอนที่แล้ว" ข้างบน มีการเพิ่มกระทู้ทั้งหมดตั้งแต่ต้นเรื่องที่เริ่มเขียน โดยให้เหตุผลว่า สำหรับสมาชิกท่านอื่นที่เพิ่งเข้ามาอ่าน และอยากรู้เรื่องราวทั้งหมดตั้งแต่ต้น จะได้ไม่เสียเวลาไปไล่กดแต่ละกระทู้ในกระทู้นั้น ๆ จนถึงเรื่องเริ่มต้นครับ  ก็ค่อย ๆ เรียนรู้ครับ เขียน comment เข้ามานะครับ จะได้ปรับปรุง กว่าจะจบตอน (10 วันของการเดินทาง) ก็คงจบวิทยายุทธไหมฟ้า ขั้น 9 พอดี

เอาละเข้าเรื่องกระทู้ของวันนี้กัน

ตอนที่ 4. อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย

กำหนดการสำหรับวันจันทร์ที่ 5 มกราคม 2558  ไปทานข้าวเช้าที่ร้านซิวกิมเลิศรส ทานข้าวเที่ยงที่ ร้านไม้กลางกรุง ภาคบ่าย ไปเที่ยวที่อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย อาหารเย็นที่ร้านอาหารเฟื่องฟ้า  
  
เมื่อคืนนี้ก่อนแยกย้ายกันเข้าห้องพักตัวเอง ก็ได้บอกกล่าวสมาชิกว่า พรุ่งนี้ (หมายถึงวันจันทร์ที่ 5) ทุกคนตื่นเช้าตามสบายไม่รีบ เพราะจะไปทานข้าวเช้ากันข้างนอก เพราะว่าที่โรงแรมไม่มีอาหารเช้าให้ แล้วร้านที่จะไปทาน เปิดร้าน 9 โมงครึ่ง เพราะฉะนั้น เช้าวันนี้ เลยจับไก่ตัวเดิมคลุมปี๊ปไว้ ไม่ให้ส่งเสียงร้อง แต่อย่างไรก็ตาม คนเคยตื่นแต่เช้า สุดท้าย ก็ตื่นเองอยู่ดี

หลังจากตื่นแล้ว ก็ออกไปเดินสุดอากาศยามเช้า อืมม..อากาศเย็นค่อนข้างหนาวนิดๆ อุณหภูมิน่าจะอยู่ที่ประมาณ 21 องศา (ที่รู้เพราะเปิดแอร์ในห้องไว้ที่ 21 องศา พอเปิดห้องออกมา ความเย็นข้างนอกเหมือนอยู่ในห้อง ก็เดินไปที่ Lobby โรงแรม ปรากฏว่ามี คุ๊กกี้และขนมปังสด (ของฟาร์เฮ้าส์เสียด้วย) และมีเครื่องปิ้งขนมปังอยู่ข้าง ๆ พร้อม ชา กาแฟ  ก็เอาขนมปังไปปิ้งแล้วหยิบคุ๊กกี้มาหน่อยนึง ออกมานั่งทานตรงระเบียงด้านหน้า โอ้แม่เจ้า! ขนมปังใหม่สด คุ๊กกี้หอมกรอบ ๆ (เป็นคุ๊กกี้ใส้สัปะรดและคุ๊กกี้เนยชิ้นเล็กๆ) ทานกับกาแฟร้อน ๆ อร่อยมาก ขอบอก สุดท้าย เดินแอบไปจิ๊กคุ๊กกี้มากำมือนึง ไว้ทานกับกาแฟตอนบ่าย เชิญชมภาพเกี่ยวกับโรงแรมครับ :
บรรยากาศหน้าโรงแรมที่พัก:

  

อาหารเช้าแบบเบา ๆ แต่อร่อยมาก:

สถาพภายในห้องพัก (จะถ่ายตอนก่อน check in แต่ลืมทุกที ก็เลยมีสภาพอย่างนี้):


นี่ไงครับ โรงแรมเขาใช้แอร์ไดร์กิ้นส์ (อาคารอื่นไม่รู้นะครับ แต่อาคารที่พัก น่าจะชื่อ สวนสินรีโซเทล มั๊ง):

นี่ไงครับ ทีวีจอ LCD ชัดเว่อร์ แล้วยังมีเครื่องเล่น DVD ให้ด้วย อย่างที่บอก น่าจะประชาสัมพันธิ์ก้นหน่อย จะได้เอาหนังเรื่อง interview มาแอบเปิดดู:


อันนี้ต้องยอมรับว่า แอบโฆษณาโรงแรมให้เขานิดนึง เพราะของเขาดีจริง ๆ ใส่ใจทุกรายละเอียดในการเข้าพัก ในราคาห้องพักไม่ถึง 500 บาท ลบคำที่ว่า ของถูกและดีไม่มีในโลก ไปได้เลย

พอประมาณ 9 โมงเศษ ก็ check out ออกจากที่พักเดินทางไปร้าน ซิวกิมเลิศรส ที่ครัวคุณต๋อยแนะนำ (เป็นแฟนคลับของครัวคุณต๋อยน๊า แต่สงสัยไม่ได้ค่าโฆษณา) ระหว่างทางก็แวะไหว้ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชกันก่อนเพื่อเป็นศิริมงคลในการเดินทางในวันนี้ เชิญชมภาพครับ :





อีกที่ที่แวะเยี่ยมเยียน คือตรอกบ้านจีน อันลือชื่อ ก็ไม่ได้อยู่ดูนานมาก เพราะยังเช้าอยู่ บ้านเรือนยังไปเปิดและผู้คนยังไม่ได้ออกมากัน (ถนนเปลี่ยว) เชิญชมภาพครับ :



ออกจากตรอกบ้านจีน ก็เดินทางไปร้านซิวกิมเลิศรส ทางรายการครัวคุณต๋อยก็ได้บอกเส้นทางไว้ชัดเจน แป๊ปเดียว ก็เดินทางมาถึงหน้าร้านครัวคุณต๋อย เอ้ยไม่ใช่ ร้านซิวกิมเลิศรส ก็สั่งอาหารตามที่รายการครัวคุณต๋อยแนะนำ มีบะหมี่แห้งกระเพาะหมู สุกี้ ตือฮวน อืมมม...อร่อยขั้นเทพจริง ๆ  โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ตือฮวน ไม่เหม็นคาวซ้ำน้ำแกงยังเดือด ๆ ซดคล่องคอดีจริง ๆ เชิญชมภาพครับ :



อิ่มหมีพีมัน ก็เริ่มออกเดินทางจากจังหวัดตาก ไป จังหวัดสุโขทัย (ดูเข็มไมล์ วิ่งมาแล้ว 740 กม.) โดยใช้เส้นทางสาย 12

เส้นทางช่วงนี้ดีมากครับ เป็นทาง 4 เลน ถนนเรียบและค่อนข้างตรง ขับสบาย ไม่ค่อยมีรถวิ่ง (หรือว่าพวกเราออกเช้าเกินไปหรือเปล่าก็ไม่รู้) ระยะทางประมาณ 86 กิโลเมตร  ขับมาเรื่อย ๆ จนเข้าไปทางอุทยานฯ แต่เช้านี้เรายังไม่เข้าไปอุทยานฯ เพราะอะไรหรือ เดี๋ยวมีคำตอบ ก็ขับตรงเข้าเมือง จากอุทยานฯ เข้าตัวเมืองสุโขทัย ระยะทางประมาณ 12 กิโลเมตร ก็ขับตรงไปที่ร้าน ไม้กลางกรุง อยู่ถนนจรดวิถีถ่อง หาไม่ยาก (แต่ขับหลงมาแล้ว) คือ จะสังเกตุว่าเข้าตัวเมืองได้ก็คือ.....(อะไรให้ทาย) รับรองทายถูก คำตอบคือ "รถติด" ก็เป็นสภาพของชีวิตในเมืองไม่ว่าที่ไหน ๆ  จุดสังเกตุของร้านคือ พอข้ามสะพานแม่น้ำยม แล้วเลี้ยวไปตามถนนจรดวิถีถ่องประมาณซักกิโลเมตรนึง ดูป้ายอาคเนย์ประกันภัยทางซ้ายมือไว้ ร้านอยู่ตรงข้ามพอดี ที่ตั้งใจไปร้านนี้ก็เพื่อทานก๋วยเตี๋ยวสุโขทัย (ก็ไม่รู้ว่าเจ้าเดิม เจ้าต้นตำรับ เจ้าเก่าหรือเจ้าก๊าาาววววเก่า) เพราะมีตัวเลือกมาก เช่น เจ๊แฮ ก๋วยเตี๋ยวใต้ต้นกระจี้ เยอะแยะไปหมด ก็ต้องตัดสินใจเลือกร้านนึง แต่เคยดูจากรูป (ในพันทิปมั๊ง) ร้านสวยดี น่านั่ง ก็เอาสภาพแวดล้อมเป็นตัวตัดสินก็แล้วกัน ใช้ได้ครับ ต้นไม้หน้าร้านเยอะดี (ก็หลง หาไม่เจอ ก็เพราะต้นไม้มันบังหน้าร้านเต็มไปหมด) อาหารก็อร่อย ไม่หวานมาก ที่เด็ดก็คือ สาคูยัดใส้กะทิ (ไม่รู้เรียกถูกหรือเปล่า) อร่อยมากครับ ขอเตือนคนอ้วน เชิญชมภาพครับ :
    


บรรยากาศภายในร้าน:

หน้าร้านมีต้นไม้เต็มไปหมด:

นี่ของแถม บนโต้ะมีโบรชัวร์บอก 10 สิ่งที่มาสุโขทัย ห้ามพลาด:


มีความสุขกับมื้อเที่ยงแล้ว ก็เดินทางไปที่พัก ชื่อ Foresto Sukhothai Guesthouse (ก็จะไม่เรียกว่า เกสฮ้งเกสเฮ้าส์อะไรนะครับ เรียกว่าโรงแรมเฉย ๆ เป็นที่รู้กัน) ก็ข้ามสะพานข้ามแม่น้ำยมกลับมานิดเดียวมีซอยเล็กๆ ทางซ้ายมือก็ขับเลี้ยวเข้าไป โรงแรมอยู่ทางขวามือไม่กี่ก้าวจากปากซอย  Check in เปิดห้องพักแทบผงะ แม่เจ้า! ห้องกว้างขวางมาก (ห้องกว้างกว่าโรงแรมปกติ น่าจะเท่าครึ่ง) วิ่งไล่จับกันสบาย เข้าไปห้องน้ำ ว้าว..มีฝักบัวแบบอาบน้ำอุ่นธรรมดาและมีฝักบัวแบบ Rain shower ที่เป็นฝักบัวแสตนเลสกลม ๆ ใหญ่ ๆ อยู่เหนือหัว อีกอย่างที่ต้องตกตะลึง คือห้องน้ำเป็นกระจกใสมองผ่านออกมาที่ห้องนอนได้ สงสัย คืนนี้ได้เบิ้ลกันล่ะ (แหะ ๆ หมายถึง อาบน้ำ 2 ครั้งน่ะ ครั้งแรกอาบฝักบัว ครั้งที่สองอาบ Rain shower  อย่าคิดมาก)  เนื่องจากวันนี้ พวกเรา check in โรงแรมตอนบ่าย ก็เลยมีเวลาพักผ่อนและเดินสำรวจโรงแรม เชิญชมภาพครับ :
ห้องกว้างขวาง น่าวิ่งไล่จับมาก:


หน้าห้องพักดูร่มรื่นดี:


มีที่จอดรถ น่าจะพอเพียงสำหรับแขกที่มาพัก:

ห้องน้ำมีสุขภัณฑ์ครบ:

มีฝักบัวแบบ Rain shower แถมให้ด้วย:

และนี่ที่บอก มองจากห้องน้ำออกมาเห็นเตียง (ดีนะมีมู่ลี่ให้ด้วย):


ก็นอนงีบเอาแรงกับสักครู่ เพราะบ่ายนี้ แดดแรงมาก คิดว่าน่าจะออกไปอุทยานซักบ่าย 3 โมง ซักพักต่างคนต่างก็ Zzzzzzzzzzz.....

ตื่นขึ้นมาได้เวลา ก็ออกเดินทางไปอุทยานฯ ก็วิ่งกลับมาเส้นทางเดิม คือ 12 กิโลเมตร ก่อนถึงอุทยานฯ ประมาณ 3 กิโลเมตร มีถนนเล็ก ๆ ทางขวามือ เลี้ยวเข้าไป แล้วเลี้ยวขวาตรงทางแยกเพื่อไปยัง วัดช้างล้อม วัดนี้รู้สึกอยู่ด้านหลังของโรงแรมใหญ่แห่งนึง สามารถเดินเลาะจากโรงแรมมาที่วัดนี้ได้ ลองสืบค้นชื่อโรงแรมกันเอง หาไม่ยาก เชิญชมภาพครับ :



ภาพ Panorama นี้ เครดิตภาพจากกล้อง ปัจจัย 6+ ของแม่บ้านครับ:


ออกจากวัดช้างล้อม ตรงไปหน้าอุทยานฯ เลี้ยวขวาไปตามทางถนนวิ่งไปเรื่อย ๆ มีป้ายบอกทางไปวัดศรีชุม ที่ที่จะเป็นหนึ่งในไฮไล้ท์ของวันนี้ (น่าจะเป็นหนึ่งใน unseen Thailand ด้วยนะครับ เพราะว่า สวยงามมากจริง ๆ) พอจดอรถเสร็จ ก็เดินไปที่ทางเข้า เสียค่าผ่านทาง เอ้ย ค่าเข้าชม จำไม่ได้ว่า เท่าไร น่าจะ 20 หรือ 30 บาท จ่ายเงินเสร็จ ก็ค่อย ๆ เดินเยื้องย่างเข้าไป ภาพที่ปรากฏจากปากทางเข้า เห็นเป็นวัดเล็ก ๆ ที่ดูแล้ว ไม่น่ามีอะไรเด่น แต่พอค่อย ๆ เดินเข้าไปใกล้เข้า ใกล้เข้า ภาพที่ปรากฏต่อสายตา คือ ระหว่างเหลือบประตู มีองค์พระองค์ใหญ่กำลังจ้องมองมา ยิ่งเดินเข้าไปใกล้ ที่เห็นเป็นเหลือบประตู ก็ค่อย ๆ กว้างขึ้น กว้างขึ้น เผยให้เห็นองค์พระองค์ใหญ่ อยู่ในโบสถ์แคบ ๆ..โอมายก็อด (Oh my God!) ฝรั่งที่อยู่ข้าง ๆ อุทานเบา ๆ เพื่อไม่ให้เป็นการน้อยหน้า เราก็อุทานบ้าง..โอ้มายบุ๊ดด้า (Oh my Buddha!) พระองค์นี้เป็นของคนไทย (เว้ยเฮ้ย) ไม่ใช่องค์พระของเธอ...
ชื่อสินค้า:   ซิวกิมเลิศรส ไม้กลางกรุง อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ร้านอาหารเฟื่องฟ้า (ปลาแม่น้ำ)
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่