เปิดข้อมูลข้าราชการ 1.4 หมื่นคน ถูกฟ้องล้มละลาย ‘ครู’ ครองแชมป์

เปิดข้อมูลข้าราชการ 1.4 หมื่นคน ถูกฟ้องล้มละลาย ‘ครู’ ครองแชมป์เสี่ยงถูกให้ออกมากสุด เร่งถก สำนักงาน ก.พ. เปิดช่องให้โอกาสทำงานต่อ

นายณรินทร์ ชำนาญดู นายกสมาคมผู้บริหารโรงเรียนมัธยมศึกษาแห่งประเทศไทย (ส.บ.ม.ท.) เปิดเผยว่า ตามที่ที่ประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายการแก้ไขปัญหาหนี้สินครูและบุคลากรทางการศึกษาของ กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ที่มีนายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ หารือการปรับแก้ พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547 เพื่อให้ครูและบุคลากรทางการศึกษา ที่ถูกฟ้องล้มละลาย ไม่ต้องออกจากราชการ เนื่องจากเป็นคดีทางแพ่งไม่ใช่การทุจริต

โดยขณะนี้อยู่ระหว่างทำประชาพิจารณ์สอบถามความเห็นผู้เกี่ยวข้องนั้น ปัจจุบันมีข้าราชการ ที่มีปัญหาหนี้สินจำนวนมาก ในส่วนของข้าราชการครูมีหลายคนที่เป็นหนี้กับสหกรณ์ออมทรัพย์ครูและเป็นหนี้กับสถาบันการเงินควบคู่กัน

“ตาม พ.ร.บ.สหกรณ์ พ.ศ.2553 มาตรา 42/1 จะมีการหักเงินเดือนเพื่อจ่ายหนี้ให้กับสหกรณ์โดยตรง จึงทำให้ในส่วนของสหกรณ์จะไม่มีการฟ้องร้องครูที่เป็นลูกหนี้ แต่เมื่อถูกหักเงินส่วนนี้ ครูที่มีหนี้หลายช่องทางก็จะไม่มีเงินเหลือพอที่จะคืนเงินให้กับสถาบันการเงินอื่นๆจึงทำให้ถูกฟ้องล้มละลาย โดยในปี 2567 มีข้าราชการถูกฟ้องล้มละลายกว่า 7,000 คน ปัจจุบันมีจำนวนเพิ่มขึ้นถึง 14,000 คน และในจำนวนนี้เป็นข้าราชการครูกว่า 5,000 คน ซึ่งหากถูกฟ้องล้มละลายก็จะถูกให้ออกจากราชการ ไม่มีอาชีพทำให้เกิดปัญหาต่าง ๆ ตามมา” นายณรินทร์ กล่าว

นายณรินทร์ กล่าวต่อว่า คณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายการแก้ไขปัญหาหนี้สินครูฯ จึงเร่งแก้ปัญหาดังกล่าว โดยเตรียมเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.)พิจารณาเพื่อขับเคลื่อนกฏหมายที่ช่วยเหลือข้าราชการในทุกสาขาอาชีพ ไม่เพียงแต่ข้าราชการครูเท่านั้น โดยสาเหตุที่ไม่ควรให้ออกจากราชการ เพราะเห็นมองว่า การล้มละลายไม่ใช่การทุจริต เป็นคดีแพ่ง ไม่ใช่คดีอาญา ดังนั้นควรได้รับโอกาสในการทำงานต่อไป เพราะหากถูกบังคับออกจากราชการก็จะเสียช่องทางการหารายได้เป็นการสร้างภาระเพิ่ม

“จากนี้จะต้องหารือกับทางคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.)ซึ่งเป็นผู้แลภาพรวมของข้าราชการทั่วประเทศ รวมไปถึงหารือกับคณะกรรมการบริหารราชการแผ่นดินตามกรอบการปฏิรูปประเทศยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง (ปยป.) เพื่อยกก่อนจะนำเรื่องนี้เข้าเสนอที่ประชุมครม.ต่อไปซึ่งเป็นขั้นตอนปกติของการผลักดันร่างกฏหมาย”นายณรินทร์ กล่าว

นายณรินทร์ กล่าวต่อว่า กรณีนี้ถือเป็นเรื่องสำคัญ เนื่องจากปัจจุบันมีข้าราชการที่ถูกให้ออกจากราชการจำนวนมาก จึงควรเร่งผลักดันเพื่อให้กฏหมายมีผลบังคับใช้เร็วที่สุด หากช้าไปกว่านี้ ก็อาจทำให้มีข้าราชการเดือดร้อน ถูกฟ้องล้มละลาย ต้องออกจากราชการ เพราะกฏหมายไม่มีผลย้อนหลัง และหากถูกให้ออกแล้ว ก็ไม่สามารถกลับมาเป็นข้าราชการได้อีก

ที่มา  :Prachachat - ประชาชาติ 
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่