โปรดอ่าน
เรื่องราวที่จะเล่าต่อจากนี้ เป็นอดีตซึ่งผ่านมาได้ถึง 5 ปีแล้ว ย้อนวัยสมัยที่เรียน ปวส.ภาควันอาทิตย์ ช่วงแรกๆ ซึ่งวันธรรมดา เราใช้เวลาในการเข้ากะทำงาน เป็นเวลา 8 ชม. ที่ซุปเปอร์มาเก็ต หรือที่เรียกว่าห้างขนาดเล็ก หรือก็คือร้านสะดวกซื้อ แห่งหนึ่ง (ขออภัยในความติดเล่น)โอเคร ก็…..มาเข้าเรื่องกันเลย
เรื่องมีอยู่ว่า … เราตอนทำงานมันมีบุคคลๆหนึ่งที่ขายก๋วยเตี๋ยวอยู่หน้าที่ทำงาน ขอเรียกด้วยสรรพนามว่า = เจ๊ ซึ่งปกติพี่ที่ทำงานเรา มักจะสั่งก๋วยเตี๋ยวเพื่อรับประทานกัน เพราะขายช่วงเย็น 5 โมง ไปจนถึง 4-5 ทุ่ม บางก็เที่ยงคืน เราก็แค่พนักงานธรรมดาที่เข้ากะไม่เป็นเวลา แต่ส่วนมากจะเข้ากะกลางคืน เพราะผู้จัดการจัดให้ แต่…
> ส่วนตัวแล้ว เรากะผู้จัดการไม่ค่อยจะมีปฏิสัมพันธมิตร ที่ดีต่อกันสักเท่าไหร่ เพราะเราเอาใจไม่เก่ง เหมือนพนักงานบางคน และเราก็ไม่ช่ายคนที่หน้าตาดีอะไร และอีกอย่างคือ เราไม่ค่อยเพิ่มยอดขายหรือ ที่เรียกว่า plus sales ต่อหน้าแกสักเท่าไหร่ แต่ เราก็ ps ตลอดนะ เวลาเข้ากะกับรุ่นพี่ ต่อพอเข้ากะ กับผู้จัดการที่ไร มันจะไม่ค่อย แบบรู้สึกอึดอัด อย่างบอกไม่ถูก จนกระทั่ง…
เข้าเรื่องกันเลยดีกว่า
วันนั้นก็ยังคงเป็นวันทำงานที่แสนจะธรรมดาวันหนึ่ง ผจก.เข้ากะเช้าลากมาจนถึง ตอนเย็น ซึ่งกะเย็น จนถึง 6-7 เช้า เป็นกะที่เราต้องรับผิดชอบใน week นี้ นั้นแหละ มาปับ เข้าเครื่องนับเงินต้นเพื่อตัดลบตอนปิดเครื่อง เหมือนอย่างทุกๆวัน ผจก. บ่นลูกค้าเยอะ เหรียญไม่แยกให้ ธนบัตร ก็ปนกะมั่วไปหมด และคือเรานับเงินก็หาว่าช้า เพราะเอาเวลาไปเรียงธนบัตร กะเหรียญจนทำให้ช้า พอนับเสร็จ ไม่พอ เราก็รีบเคลียร์ลูกค้าในร้าน พอไม่มีลูกค้าแล้ว เราก็ยืน รอตรวจเพื่อให้พนักงานกะเช้ากับบ้าน (ตรวจ คือ ตรวจเช็คความเรียบร้อยเพื่อให้แน่ใจว่า ไม่ได้เอาของในร้านไป เอากลับไปแค่ของส่วนตัวในล็อกเกอร์แค่นั้น )
โอเครจากนั้น…
เจ๊ที่ขายก๋วยเตี๋ยวเดินมาทำหน้าบึ่งตึง พร้อมกับ เอ่ยวาจาออกมาว่า
น้องเขาเป็นอะไร? ทำไม? ไม่ยิ้มเลย
เราคิอในใจ : ห่ะ ซึ่งลูกค้าเข้าร้านเรามองหน้า คนที่เดินเข้ามาตลอด บางทีเราก็ไม่รู้ว่าเรายิ้มหรือป่าว แต่ด้วยหน้าที่แล้ว เรา็พยามยามทำหน้าให้รับโลกมากที่สุด แต่ เจ๊ คนที่พูด พูดออกมาซึ่งยังไงก็หมายถึง เราแน่นอนอ่ะ เพราะ ณ ตรงนั้นไม่มีใครนอกจากเรา แต่ในขณะที่เจ๊พูด เจ๊แทบจะไม่ได้มองหน้า หรือ สบตาผมเลย และที่แย่ไปกว่านั้นคือ ผจก. เดินมาพอดี จนได้ยินเข้า เรียบร้อย โดนสวดไปตามระเบียบ คือ เราไม่รู้ว่า *ีป้า เนี่ยมันเป็นอะไรของมัน (ขออนุญาตเป็นสรรพนามด่วน มันทำทำไปเพื่ออะไร เหมือนลงกะเราอ่ะ เราก็ไม่ได้ไปทำอะไรให้นะ หรือไม่ชอบหน้าเรา เห้ยทำงี้มันกระทบต่องานนะ รู้ว่าต้องผ่านมันไปให้ได้ แต่เหมือนมาเพิ่มความเกลียด ความไม่ชอบให้ผู้จัดการอ่ะ คือ ที่รู้ๆเลยนะ คือเราไม่เคยซื้อก๋วยเตี๋ยวร้าน *ีป่านี่ กินเลย เพราะเราทานข้าวมากจากบ้าน เย็นกลับ เช้ากลับก็ทานที่บ้าน หรือเพราะแบบนั้น แกถึงทำแบบนี้งงนะ คือเรากะว่า ถ้าวันไหนเบื่อ ก็ว่าจะไปลองทาน ร้านแกดูบ้าง แต่พอรู้งี้คือ ไม่จ้า ต่อให้พี่ที่ทำงานเลี้ยง ก็ไม่ทาน ไม่สนพอ รสชาติเค้าว่ากันงั้นๆ เหอะ พอจ่ะ พอเลย จบ.
หมายเหตุ
ก๋วยเตี๋ยวอีป้า จิงๆอดีตมันผ่านมาแล้ว แต่อยู่ๆสมองมันก็นึกขึ้นได้ จากประสบการณ์ ก็เลยอยากจะมาตั้งกะทู้ ให้เป็นเรื่องเป็นราวสักนิดนึง

เห้อออออ…. แต่เราก็สามารถผ่านมันมาได้นะ เก่งมากกก อิอิ
น้องเขาเป็นอะไร? ทำไม? ไม่ยิ้มเลย :(
เรื่องราวที่จะเล่าต่อจากนี้ เป็นอดีตซึ่งผ่านมาได้ถึง 5 ปีแล้ว ย้อนวัยสมัยที่เรียน ปวส.ภาควันอาทิตย์ ช่วงแรกๆ ซึ่งวันธรรมดา เราใช้เวลาในการเข้ากะทำงาน เป็นเวลา 8 ชม. ที่ซุปเปอร์มาเก็ต หรือที่เรียกว่าห้างขนาดเล็ก หรือก็คือร้านสะดวกซื้อ แห่งหนึ่ง (ขออภัยในความติดเล่น)โอเคร ก็…..มาเข้าเรื่องกันเลย
เรื่องมีอยู่ว่า … เราตอนทำงานมันมีบุคคลๆหนึ่งที่ขายก๋วยเตี๋ยวอยู่หน้าที่ทำงาน ขอเรียกด้วยสรรพนามว่า = เจ๊ ซึ่งปกติพี่ที่ทำงานเรา มักจะสั่งก๋วยเตี๋ยวเพื่อรับประทานกัน เพราะขายช่วงเย็น 5 โมง ไปจนถึง 4-5 ทุ่ม บางก็เที่ยงคืน เราก็แค่พนักงานธรรมดาที่เข้ากะไม่เป็นเวลา แต่ส่วนมากจะเข้ากะกลางคืน เพราะผู้จัดการจัดให้ แต่…
> ส่วนตัวแล้ว เรากะผู้จัดการไม่ค่อยจะมีปฏิสัมพันธมิตร ที่ดีต่อกันสักเท่าไหร่ เพราะเราเอาใจไม่เก่ง เหมือนพนักงานบางคน และเราก็ไม่ช่ายคนที่หน้าตาดีอะไร และอีกอย่างคือ เราไม่ค่อยเพิ่มยอดขายหรือ ที่เรียกว่า plus sales ต่อหน้าแกสักเท่าไหร่ แต่ เราก็ ps ตลอดนะ เวลาเข้ากะกับรุ่นพี่ ต่อพอเข้ากะ กับผู้จัดการที่ไร มันจะไม่ค่อย แบบรู้สึกอึดอัด อย่างบอกไม่ถูก จนกระทั่ง…
เข้าเรื่องกันเลยดีกว่า
วันนั้นก็ยังคงเป็นวันทำงานที่แสนจะธรรมดาวันหนึ่ง ผจก.เข้ากะเช้าลากมาจนถึง ตอนเย็น ซึ่งกะเย็น จนถึง 6-7 เช้า เป็นกะที่เราต้องรับผิดชอบใน week นี้ นั้นแหละ มาปับ เข้าเครื่องนับเงินต้นเพื่อตัดลบตอนปิดเครื่อง เหมือนอย่างทุกๆวัน ผจก. บ่นลูกค้าเยอะ เหรียญไม่แยกให้ ธนบัตร ก็ปนกะมั่วไปหมด และคือเรานับเงินก็หาว่าช้า เพราะเอาเวลาไปเรียงธนบัตร กะเหรียญจนทำให้ช้า พอนับเสร็จ ไม่พอ เราก็รีบเคลียร์ลูกค้าในร้าน พอไม่มีลูกค้าแล้ว เราก็ยืน รอตรวจเพื่อให้พนักงานกะเช้ากับบ้าน (ตรวจ คือ ตรวจเช็คความเรียบร้อยเพื่อให้แน่ใจว่า ไม่ได้เอาของในร้านไป เอากลับไปแค่ของส่วนตัวในล็อกเกอร์แค่นั้น )
โอเครจากนั้น…
เจ๊ที่ขายก๋วยเตี๋ยวเดินมาทำหน้าบึ่งตึง พร้อมกับ เอ่ยวาจาออกมาว่า น้องเขาเป็นอะไร? ทำไม? ไม่ยิ้มเลย
เราคิอในใจ : ห่ะ ซึ่งลูกค้าเข้าร้านเรามองหน้า คนที่เดินเข้ามาตลอด บางทีเราก็ไม่รู้ว่าเรายิ้มหรือป่าว แต่ด้วยหน้าที่แล้ว เรา็พยามยามทำหน้าให้รับโลกมากที่สุด แต่ เจ๊ คนที่พูด พูดออกมาซึ่งยังไงก็หมายถึง เราแน่นอนอ่ะ เพราะ ณ ตรงนั้นไม่มีใครนอกจากเรา แต่ในขณะที่เจ๊พูด เจ๊แทบจะไม่ได้มองหน้า หรือ สบตาผมเลย และที่แย่ไปกว่านั้นคือ ผจก. เดินมาพอดี จนได้ยินเข้า เรียบร้อย โดนสวดไปตามระเบียบ คือ เราไม่รู้ว่า *ีป้า เนี่ยมันเป็นอะไรของมัน (ขออนุญาตเป็นสรรพนามด่วน มันทำทำไปเพื่ออะไร เหมือนลงกะเราอ่ะ เราก็ไม่ได้ไปทำอะไรให้นะ หรือไม่ชอบหน้าเรา เห้ยทำงี้มันกระทบต่องานนะ รู้ว่าต้องผ่านมันไปให้ได้ แต่เหมือนมาเพิ่มความเกลียด ความไม่ชอบให้ผู้จัดการอ่ะ คือ ที่รู้ๆเลยนะ คือเราไม่เคยซื้อก๋วยเตี๋ยวร้าน *ีป่านี่ กินเลย เพราะเราทานข้าวมากจากบ้าน เย็นกลับ เช้ากลับก็ทานที่บ้าน หรือเพราะแบบนั้น แกถึงทำแบบนี้งงนะ คือเรากะว่า ถ้าวันไหนเบื่อ ก็ว่าจะไปลองทาน ร้านแกดูบ้าง แต่พอรู้งี้คือ ไม่จ้า ต่อให้พี่ที่ทำงานเลี้ยง ก็ไม่ทาน ไม่สนพอ รสชาติเค้าว่ากันงั้นๆ เหอะ พอจ่ะ พอเลย จบ.
หมายเหตุ
ก๋วยเตี๋ยวอีป้าจิงๆอดีตมันผ่านมาแล้ว แต่อยู่ๆสมองมันก็นึกขึ้นได้ จากประสบการณ์ ก็เลยอยากจะมาตั้งกะทู้ ให้เป็นเรื่องเป็นราวสักนิดนึงเห้อออออ…. แต่เราก็สามารถผ่านมันมาได้นะ เก่งมากกก อิอิ
12 เมษายน เวลา 06:25 น.