เริ่มต้นจาก List รายชื่อโครงการที่สนใจแล้วตระเวนดูเพื่อเปรียบเทียบเรื่องราคา ความคุ้มค่า ความสะดวก พื้นที่บ้าน ทำเล ค่าส่วนกลาง ซึ่งเรากับแฟนตัดสินใจว่าจะหาบ้านแถวโซนนนทบุรีเมื่อได้บ้านที่เราชอบและกำลังในการผ่อนเราไหวก็ยื่นกู้เลยเริ่มจองวันที่ 09 มี.ค. 68 ทางเซลโครงการยื่นไปให้ 4 ธนาคาร สีเทา สีฟ้า สีม่วง สีเขียว ขออธิบายโดยแบ่งตามสีนะ
ธนาคาร สีเทา
ต้องยอมรับว่าธนาคารนี้ทำงานไวที่สุดเพราะติดต่อเรามาก่อนใครเพื่อน (ไม่รู้ว่าเซลโครงการยื่นให้เป็น Bank แรกหรือเปล่านะ) เพื่อขอเอกสารแสดงรายได้และยื่นพิจารณาต่อไป ซึ่งเราตื่นเต้นมากเพราะเราจะต้องลุ้นว่าผ่านเกณฑ์ไหม โดยปกติทั่วไปทางธนาคารจะต้องดูภาระอยู่แล้วว่าจะต้องแบบไหนถึงจะให้อยู่ในเกณฑ์ซึ่งได้คำแนะนำให้ปิดภาระรถยนต์ของแฟนเราซึ่งเหลืออยู่ 4 งวด แต่ของเราเองเหลือแค่ 2 งวด (สามารถขออนุโลมและไม่นับเป็นภาระได้) ระยะเวลาที่ใช้ในการพิจารณาทั้งหมด 3 อาทิตย์ ได้คำตอบเมื่อวันที่ 25/3/68 ว่าติดที่ราคาประเมินที่ดินไม่ถึงกับวงเงินที่กู้ เราเลยเฟลมากเพราะตั้งความหวังไว้กับ bank นี้มากเราก็สู้ต่อเพราะยังเหลืออีก 3 Bank
ธนาคาร สีฟ้า
ติดต่อเข้ามาเพื่อขอเอกสารแสดงรายได้ ส่วนตัวคิดว่าน่าจะทำงานล่าช้าแน่เพราะเป็นของรัฐแต่พอได้สัมผัสก็ไม่ได้ช้าเท่าไหร่เพราะผลพิจารณาออกมาไล่ๆกันกับ Bank อื่นๆ ซึ่งผลพิจารณาเหมือนกับ Bank สีเทาเลย แต่วงเงินได้น้อยที่สุดใน 4 Bank ที่ยื่นไปก่อนหน้านี้มีขอเอกสารบัญชีเงินนอน 100,000 ขึ้นไปต้องไม่มีการเคลื่อนไหวอย่างน้อย 6 เดือน เราเลยแจ้งว่าไม่มีค่ะ เพราะเราเอาไปลงทุนอื่นๆ เช่น หุ้น คริปโต หรือ ทอง แต่ก็ติดตรงนี้ค่ะเลยได้วงเงินไม่ถึงเราก็เริ่มใจแป่วๆแล้วเพราะเหลืออีกแค่ 2 Bank
ธนาคาร สีม่วง
ต้องบอกว่าฝังใจเจ็บกับ Bank นี้มาก กระบวนการติดต่อเข้ามาเพื่อขอเอกสารเหมือนกัน Bank อื่นๆทั่วไป แต่ๆทางธนาคารแจ้งเราว่าให้เราปิดยอดบัตรเครดิตให้เป็น 0 แล้วจะอยู่ในเกณฑ์ เราก็ทำตามนะคะ ต้องบอกว่าบัตรเครดิตของเราส่วนมากใช้ผ่อน 0% ซะส่วนใหญ่พวกประกัน เป็นต้น จากนั้นทางฝ่ายพิจารณาคนสุดท้ายส่งเคสกลับมาถามว่าเราเอาเงินที่ไหนไปปิดภาระตรงนี้โดยที่ไม่ใช้คนกู้เพิ่ม เราก็บอกด้วยความสัตย์จริงว่าเราเอาทองไปจำนำ ซึ่งตามที่เราเคยได้บอกไว้ว่าเราลงทุนไปกับ หุ้น คริปโตและทอง เรามีทองค่อนข้างเยอะเลยเอาไปจำนำก่อน เพราะจุดนี้เลยเป็นประเด็นว่าคนที่พิจารณามองว่าจะเป็นหนี้ 2 ทางหรือเปล่า เราก็เริ่มเครียดแหละและยังขอตั๋วจำนำยันขอใบเสร็จที่ซื้อทอง ซึ่งปกติเราเข้าใจว่าส่วนมากไม่ค่อยมีใครเก็บใบเสร็จไว้หรอกค่ะ บางทีซื้อเมื่อ 5-6 ปีที่แล้ว จนเราเริ่มรู้สึกมันชักจะเยอะไปแล้ว เริ่มถามซอกแซกว่าเรามีเงินเก็บไหม มีทองเก็บไว้กี่บาท เริ่มมากเกินไปค่ะ แต่เราก็ตอบกลับไปหมดนะ จนสุดท้ายผลพิจารณาออกมาว่าไม่ผ่าน แล้วคนที่รับเรื่องเดินประสานงานให้หายไปในกลีบเมฆเลยค่ะมารู้ทีหลังว่าเค้าไม่กล้าสู้หน้าเรากับแฟนเพราะเค้าดูมั่นใจมากว่ายังไงก็ต้องผ่าน เอาหล่ะเดินทางกันถึงธนาคารสุดท้ายแล้ว ในใจเราคิดแล้วว่าหรือไม่ต้องเอาไหมเหนื่อยลุ้น เหนื่อยรอเหลือเกิน
ธนาคาร สีเขียว
บอกตรงๆเลยว่าธนาคารนี้ไม่ได้คิดว่าจะสนใจแต่แรกค่ะ ด้วยดอกเบี้ยที่เสนอมาเมื่อเทียบกับอีก 3 ธนาคาร สีนี้เรทแพงสุด แต่ติดต่อเข้ามาขอเอกสารหลังจาก Bank สีเทานะคะ เราก็ยื่นเอกสารตามปกติแหละแต่เราเองไม่ค่อยตามความคืบหน้าสักเท่าไหร่ ขอเอกสารอะไรให้หมด แต่ Bank นี้ดีหน่อยค่ะเค้าไม่เอาบัตรเครดิตมานับเป็นภาระ ถ้าเป็นการผ่อน 0% หรือ ใช้แล้วจ่ายเดือนต่อเดือน เราเลยคิดว่าไม่น่าติดอะไรแล้วเพราะว่าก่อนหน้านี้จากสงครามลุ้นการพิจารณาจาก Bank อื่นๆเรามีปิดภาระรถยนต์ของแฟนไปแล้ว และ ภาระบัตรเครดิตอีก เท่ากับว่าเราเหลือแค่รถยนต์ของเราที่เหลือ 2 งวดสุดท้าย ซึ่งถ้าเงินออกในเดือนนี้แล้วจ่ายค่ารถไปจะเหลืออีกแค่ 1 งวด คือจบงวดสุดท้าย เมษายน นั่นเอง ผลพิจารณาช้าสุดเลยค่ะ pre-approve ออกมากเป็นที่น่าพอใจค่ะ เพราะได้วงเงินตามที่ต้องการแต่ต้องไปวัดดวงกับผู้พิจารณาลำดับสุดท้าย เพราะเค้ามีติดว่ารถยนต์ของเราเองยังเหลืออยู่ เค้าไม่ได้ยกเว้นให้เราเลยอ่ะโอเครปิดสินเชื่อรถยนต์ซะเลยเพราะเหลืออีกงวดเดียวเท่านั้นเท่ากับตอนนี้เราไม่มีหนี้อะไรอีกแล้วแต่แฟนเรายังมีอยู่ ซึ่งผลจะ Final ให้วันศุกร์ที่ 29 มีนาคม 68 นั่นแหละค่ะท่านผู้ชมเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด แผ่นดินไหวจ้าา เล่นกับใจสุดๆค่ะ เพราะเป็นความหวังเดียวแล้วถ้าไม่ได้เราคุยกับแฟนไว้แล้วว่าไม่เป็นไรมันอาจจะไม่ใช่บ้านของเรา ยังมีที่อื่นๆอีกเยอะแยะที่สวยๆ เรา 2 คนถอดใจตั้งแต่ Bank สีม่วงแล้วค่ะ และแล้วการรอคอยก็สิ้นสุดค่ะ ผลออกเมื่อวานที่ 31 มีนาคม 68 ช่วงเช้า ผลการพิจารณาคือ อนุมัติค่ะ เรากับแฟนนี่กรี๊ดดดดเลยค่ะ เพราะไม่ได้หวังกับ Bank นี้แต่แรกแล้วค่ะ เรารู้สึกโล่งมากคือแบบดีใจนะคะ แต่ว่าที่ผ่านมาเราก็เหนื่อยมามากแล้วเหมือนกัน เครียดมากกับการรอผลออก ถ้าผ่านตั้งแต่ Bank สีเทาเราคงดีใจน้ำตาไหลไปแล้ว
สรุปรวมๆ คือ ก่อนที่ธนาคารจะติดต่อมาเพื่อขอเอกสารแสดงรายได้เพื่อเดิน Process ต่อเค้ามีการตรวจเครดิตบูโรมาก่อนแล้วค่ะ และการกู้สินเชื่อครั้งนี้ทำให้รู้เลยว่ามันยากและเหนื่อยสำหรับเรามาก ถ้าไม่มีการวางแผนมาและเตรียมความพร้อมมาก่อน ซึ่งหลายต่อหลายคนมาตกม้าตายเรื่องหนี้สินที่คงเหลือรวมถึงบัตรเครดิตที่เปิดใช้งานอยู่ เราต้องมีเงินสำรองไว้จริงๆ ดีที่ตัวเราเองไม่ชอบเก็บเป็นเงินสดค่ะ เก็บเป็นทองแทนทำให้มูลค่าในการขายหรือการจำนำได้ราคาเลยมากพอมาปิดภาระค่ะ เราเลยอยากบอกเพื่อนๆว่าก่อนจะตัดสินใจกู้บ้านจะชอบเเล้วยื่นกู้อย่างเดียวไม่ได้ เราควรต้องมีเงินเก็บไว้เพื่อ Support หนี้ที่มีอยู่ด้วยหรือง่ายๆคือ คลีนตัวเองให้เรียบร้อยก่อนจะได้ไม่ต้องลุ้นผลจนเครียดแบบเราและอีกอย่างบางธนาคารจะดูภาพรวมถึงบริษัทที่เราทำงาน งบการเงินของบริษัทด้วยนะคะ เพราะในส่วนนี้จะเอามาเป็นสกอร์ในการพิจารณาด้วยจ้า
สุดท้ายนี้ !! ขอให้ทุกคนโชคดีกับการหาบ้านที่ใช่บ้านที่ชอบและได้มาครอบครองเป็นของตัวเองนะคะ ยาวหน่อยนะเราอาจจะไม่ได้ลงรายละเอียดว่าค่าบ้านเท่าไหร่ เรทดอกเบี้ยเท่าไหร่ เงื่อนไขอะไร เงินเดือนเท่าไหร่นะคะ ขออุ๊บไว้ ขอเล่าเป็นความรู้สึกที่ฝ่าฝันมาแล้วกันเนอะ
ปล.หวังว่ากระทู้นี้จะมีประโยชน์กับคนที่กำลังหาข้อมูลและแนวทางการพิจารณาของธนาคารนะคะ ตรงนี้อาจจะขึ้นอยู่กับผู้ที่เดินเรื่องของแต่ละธนาคารให้เราด้วยค่ะว่าเก่งแค่ไหนเพราะการเขียนเคสให้ผ่านเราว่าก็ไม่ง่ายค่ะ สำคัญ !! คนพิจารณาลำดับสุดท้ายด้วยค่ะ แนวคิดของคนไม่เหมือนกันเจอคนที่มองคนละมุมก็ลำบากค่ะ
Review : การตัดใจสินใจกู้สินเชื่อบ้านครั้งแรก 2568
ธนาคาร สีเทา
ต้องยอมรับว่าธนาคารนี้ทำงานไวที่สุดเพราะติดต่อเรามาก่อนใครเพื่อน (ไม่รู้ว่าเซลโครงการยื่นให้เป็น Bank แรกหรือเปล่านะ) เพื่อขอเอกสารแสดงรายได้และยื่นพิจารณาต่อไป ซึ่งเราตื่นเต้นมากเพราะเราจะต้องลุ้นว่าผ่านเกณฑ์ไหม โดยปกติทั่วไปทางธนาคารจะต้องดูภาระอยู่แล้วว่าจะต้องแบบไหนถึงจะให้อยู่ในเกณฑ์ซึ่งได้คำแนะนำให้ปิดภาระรถยนต์ของแฟนเราซึ่งเหลืออยู่ 4 งวด แต่ของเราเองเหลือแค่ 2 งวด (สามารถขออนุโลมและไม่นับเป็นภาระได้) ระยะเวลาที่ใช้ในการพิจารณาทั้งหมด 3 อาทิตย์ ได้คำตอบเมื่อวันที่ 25/3/68 ว่าติดที่ราคาประเมินที่ดินไม่ถึงกับวงเงินที่กู้ เราเลยเฟลมากเพราะตั้งความหวังไว้กับ bank นี้มากเราก็สู้ต่อเพราะยังเหลืออีก 3 Bank
ธนาคาร สีฟ้า
ติดต่อเข้ามาเพื่อขอเอกสารแสดงรายได้ ส่วนตัวคิดว่าน่าจะทำงานล่าช้าแน่เพราะเป็นของรัฐแต่พอได้สัมผัสก็ไม่ได้ช้าเท่าไหร่เพราะผลพิจารณาออกมาไล่ๆกันกับ Bank อื่นๆ ซึ่งผลพิจารณาเหมือนกับ Bank สีเทาเลย แต่วงเงินได้น้อยที่สุดใน 4 Bank ที่ยื่นไปก่อนหน้านี้มีขอเอกสารบัญชีเงินนอน 100,000 ขึ้นไปต้องไม่มีการเคลื่อนไหวอย่างน้อย 6 เดือน เราเลยแจ้งว่าไม่มีค่ะ เพราะเราเอาไปลงทุนอื่นๆ เช่น หุ้น คริปโต หรือ ทอง แต่ก็ติดตรงนี้ค่ะเลยได้วงเงินไม่ถึงเราก็เริ่มใจแป่วๆแล้วเพราะเหลืออีกแค่ 2 Bank
ธนาคาร สีม่วง
ต้องบอกว่าฝังใจเจ็บกับ Bank นี้มาก กระบวนการติดต่อเข้ามาเพื่อขอเอกสารเหมือนกัน Bank อื่นๆทั่วไป แต่ๆทางธนาคารแจ้งเราว่าให้เราปิดยอดบัตรเครดิตให้เป็น 0 แล้วจะอยู่ในเกณฑ์ เราก็ทำตามนะคะ ต้องบอกว่าบัตรเครดิตของเราส่วนมากใช้ผ่อน 0% ซะส่วนใหญ่พวกประกัน เป็นต้น จากนั้นทางฝ่ายพิจารณาคนสุดท้ายส่งเคสกลับมาถามว่าเราเอาเงินที่ไหนไปปิดภาระตรงนี้โดยที่ไม่ใช้คนกู้เพิ่ม เราก็บอกด้วยความสัตย์จริงว่าเราเอาทองไปจำนำ ซึ่งตามที่เราเคยได้บอกไว้ว่าเราลงทุนไปกับ หุ้น คริปโตและทอง เรามีทองค่อนข้างเยอะเลยเอาไปจำนำก่อน เพราะจุดนี้เลยเป็นประเด็นว่าคนที่พิจารณามองว่าจะเป็นหนี้ 2 ทางหรือเปล่า เราก็เริ่มเครียดแหละและยังขอตั๋วจำนำยันขอใบเสร็จที่ซื้อทอง ซึ่งปกติเราเข้าใจว่าส่วนมากไม่ค่อยมีใครเก็บใบเสร็จไว้หรอกค่ะ บางทีซื้อเมื่อ 5-6 ปีที่แล้ว จนเราเริ่มรู้สึกมันชักจะเยอะไปแล้ว เริ่มถามซอกแซกว่าเรามีเงินเก็บไหม มีทองเก็บไว้กี่บาท เริ่มมากเกินไปค่ะ แต่เราก็ตอบกลับไปหมดนะ จนสุดท้ายผลพิจารณาออกมาว่าไม่ผ่าน แล้วคนที่รับเรื่องเดินประสานงานให้หายไปในกลีบเมฆเลยค่ะมารู้ทีหลังว่าเค้าไม่กล้าสู้หน้าเรากับแฟนเพราะเค้าดูมั่นใจมากว่ายังไงก็ต้องผ่าน เอาหล่ะเดินทางกันถึงธนาคารสุดท้ายแล้ว ในใจเราคิดแล้วว่าหรือไม่ต้องเอาไหมเหนื่อยลุ้น เหนื่อยรอเหลือเกิน
ธนาคาร สีเขียว
บอกตรงๆเลยว่าธนาคารนี้ไม่ได้คิดว่าจะสนใจแต่แรกค่ะ ด้วยดอกเบี้ยที่เสนอมาเมื่อเทียบกับอีก 3 ธนาคาร สีนี้เรทแพงสุด แต่ติดต่อเข้ามาขอเอกสารหลังจาก Bank สีเทานะคะ เราก็ยื่นเอกสารตามปกติแหละแต่เราเองไม่ค่อยตามความคืบหน้าสักเท่าไหร่ ขอเอกสารอะไรให้หมด แต่ Bank นี้ดีหน่อยค่ะเค้าไม่เอาบัตรเครดิตมานับเป็นภาระ ถ้าเป็นการผ่อน 0% หรือ ใช้แล้วจ่ายเดือนต่อเดือน เราเลยคิดว่าไม่น่าติดอะไรแล้วเพราะว่าก่อนหน้านี้จากสงครามลุ้นการพิจารณาจาก Bank อื่นๆเรามีปิดภาระรถยนต์ของแฟนไปแล้ว และ ภาระบัตรเครดิตอีก เท่ากับว่าเราเหลือแค่รถยนต์ของเราที่เหลือ 2 งวดสุดท้าย ซึ่งถ้าเงินออกในเดือนนี้แล้วจ่ายค่ารถไปจะเหลืออีกแค่ 1 งวด คือจบงวดสุดท้าย เมษายน นั่นเอง ผลพิจารณาช้าสุดเลยค่ะ pre-approve ออกมากเป็นที่น่าพอใจค่ะ เพราะได้วงเงินตามที่ต้องการแต่ต้องไปวัดดวงกับผู้พิจารณาลำดับสุดท้าย เพราะเค้ามีติดว่ารถยนต์ของเราเองยังเหลืออยู่ เค้าไม่ได้ยกเว้นให้เราเลยอ่ะโอเครปิดสินเชื่อรถยนต์ซะเลยเพราะเหลืออีกงวดเดียวเท่านั้นเท่ากับตอนนี้เราไม่มีหนี้อะไรอีกแล้วแต่แฟนเรายังมีอยู่ ซึ่งผลจะ Final ให้วันศุกร์ที่ 29 มีนาคม 68 นั่นแหละค่ะท่านผู้ชมเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด แผ่นดินไหวจ้าา เล่นกับใจสุดๆค่ะ เพราะเป็นความหวังเดียวแล้วถ้าไม่ได้เราคุยกับแฟนไว้แล้วว่าไม่เป็นไรมันอาจจะไม่ใช่บ้านของเรา ยังมีที่อื่นๆอีกเยอะแยะที่สวยๆ เรา 2 คนถอดใจตั้งแต่ Bank สีม่วงแล้วค่ะ และแล้วการรอคอยก็สิ้นสุดค่ะ ผลออกเมื่อวานที่ 31 มีนาคม 68 ช่วงเช้า ผลการพิจารณาคือ อนุมัติค่ะ เรากับแฟนนี่กรี๊ดดดดเลยค่ะ เพราะไม่ได้หวังกับ Bank นี้แต่แรกแล้วค่ะ เรารู้สึกโล่งมากคือแบบดีใจนะคะ แต่ว่าที่ผ่านมาเราก็เหนื่อยมามากแล้วเหมือนกัน เครียดมากกับการรอผลออก ถ้าผ่านตั้งแต่ Bank สีเทาเราคงดีใจน้ำตาไหลไปแล้ว
สรุปรวมๆ คือ ก่อนที่ธนาคารจะติดต่อมาเพื่อขอเอกสารแสดงรายได้เพื่อเดิน Process ต่อเค้ามีการตรวจเครดิตบูโรมาก่อนแล้วค่ะ และการกู้สินเชื่อครั้งนี้ทำให้รู้เลยว่ามันยากและเหนื่อยสำหรับเรามาก ถ้าไม่มีการวางแผนมาและเตรียมความพร้อมมาก่อน ซึ่งหลายต่อหลายคนมาตกม้าตายเรื่องหนี้สินที่คงเหลือรวมถึงบัตรเครดิตที่เปิดใช้งานอยู่ เราต้องมีเงินสำรองไว้จริงๆ ดีที่ตัวเราเองไม่ชอบเก็บเป็นเงินสดค่ะ เก็บเป็นทองแทนทำให้มูลค่าในการขายหรือการจำนำได้ราคาเลยมากพอมาปิดภาระค่ะ เราเลยอยากบอกเพื่อนๆว่าก่อนจะตัดสินใจกู้บ้านจะชอบเเล้วยื่นกู้อย่างเดียวไม่ได้ เราควรต้องมีเงินเก็บไว้เพื่อ Support หนี้ที่มีอยู่ด้วยหรือง่ายๆคือ คลีนตัวเองให้เรียบร้อยก่อนจะได้ไม่ต้องลุ้นผลจนเครียดแบบเราและอีกอย่างบางธนาคารจะดูภาพรวมถึงบริษัทที่เราทำงาน งบการเงินของบริษัทด้วยนะคะ เพราะในส่วนนี้จะเอามาเป็นสกอร์ในการพิจารณาด้วยจ้า
สุดท้ายนี้ !! ขอให้ทุกคนโชคดีกับการหาบ้านที่ใช่บ้านที่ชอบและได้มาครอบครองเป็นของตัวเองนะคะ ยาวหน่อยนะเราอาจจะไม่ได้ลงรายละเอียดว่าค่าบ้านเท่าไหร่ เรทดอกเบี้ยเท่าไหร่ เงื่อนไขอะไร เงินเดือนเท่าไหร่นะคะ ขออุ๊บไว้ ขอเล่าเป็นความรู้สึกที่ฝ่าฝันมาแล้วกันเนอะ
ปล.หวังว่ากระทู้นี้จะมีประโยชน์กับคนที่กำลังหาข้อมูลและแนวทางการพิจารณาของธนาคารนะคะ ตรงนี้อาจจะขึ้นอยู่กับผู้ที่เดินเรื่องของแต่ละธนาคารให้เราด้วยค่ะว่าเก่งแค่ไหนเพราะการเขียนเคสให้ผ่านเราว่าก็ไม่ง่ายค่ะ สำคัญ !! คนพิจารณาลำดับสุดท้ายด้วยค่ะ แนวคิดของคนไม่เหมือนกันเจอคนที่มองคนละมุมก็ลำบากค่ะ