ประสบการณ์การกู้ซื้อบ้าน

สวัสดีค่ะ 🙏🏻    วันนี้เรารจะมาแชร์ประสบการณ์การซื้อบ้านนะคะ ก่อนอื่นเลย ขอบอกราบละเอียดส่วนตัวของเราก่อนนะ เรามีฐานเงินเดือน 50,000  ยังไม่รวมโอทีและค่าคอมอื่นๆอีกนะ      ซึ่งรายได้ตรงนี้ไม่แน่นอนทุกๆเดือน มีภาระหนี้ต่อเดือน หมื่นกว่า      แต่เราเคยติดบูโร โดยที่เราไม่ได้ก่อ     และไม่เคยไปเช็คบูโรเลย                                     🤔  จนกระทั่งวันที่เราตัดสินใจจะซื้อบ้าน เพราะต้องการขยับขยายพื้นที่ให้ลูกๆทั้ง 11 ตัว  ปล.เราเป็นโรคแมวงอก อิอิ นั่นก็คือเหตุผลหลักๆเลยในการจะซื้อบ้านในครั้งนี้                        เรากับแฟนตัดสินใจเริ่มตระเวนดูบ้านกันตั้งแต่ต้นปี 2566เริ่มดูมาเรื่อยๆ     จนถึงเดือนพฤศจิกายน 2566 แล้วเราก็ไปดูที่ Pleno สะพานใหม่     เป็นทาวน์โฮมสามชั้น อยู่ไม่ไกลจากที่ทำงานเรามากนัก เราก็เลยปรึกษาเซลล์ที่โครงการว่าเราได้ปิดหนี้อันเก่าที่ค้างอยู่ไปแล้ว แต่ปิดมาได้แค่ 3 เดือนนะ   ทางเซลล์แจ้งว่าเคยมีเคสแบบเรา แล้วผ่านเราก็เลยตัดสินใจยื่นกู้ไป      เซลล์ก็ยื่นกู้ให้ไป 5 แบ๊งค์เลย มีกสิกร กรุงไทย ไทยพาณิชย์ กรุงเทพและ ธอส.    และผลออกมาคือ    ไม่ผ่านทั้ง 5 แบ๊งค์ซึ่งตอนนั้นเราไม่เข้าใจเลยว่าทำไมไม่ผ่าน      แต่ตอนนี้เราเข้าใจแล้วว่าที่ไม่ผ่านเพราะตัวเลขที่ยื่นกู้เมื่อคำนวณออกมาแล้วมันเกินฐานเงินเดือนของเรา     เซลล์ยื่นกู้ให้เรายอด5ล้านกว่าเลย     ซึ่งมันเยอะมาก และประกอบกับบูโรเราไม่ค่อยสวยเท่าไหร่      จากคะแนนบูโร CC+ กลายเป็น DDทันที    และการที่เรายื่นกู้บ่อยๆ และหลายๆสถาบัน มันก็ส่งผลทำให้คะแนนบูโรเราตก      ทุกแบ๊งค์โทรเข้ามาแจ้งผลว่าไม่ผ่านการอนุมัติและไม่บอกเหตุผลเลย       แต่มีแบ๊งค์เดียวที่บอกเหตุผลเรา และให้คำแนะนำดีมาก ซึ่งก็คือธนาคาร ธอส. ทางแบ๊งค์แจ้งให้เรารอเวลาอีก 6เดือนค่อยยื่นเรื่องเข้ามาใหม่ เนื่องจากเราเพิ่งปิดบัญชีเก่าไปไม่นาน       ซึ่งถ้ายื่นหลังจากนี้ 6เดือนจะมีโอกาสผ่านสูง          เราก็ใจชื้นขึ้นมาเลยสิคะ       มันเหมือนมีกำลังใจอีกครั้ง  ก็เลยโอเค รอจนมาครบเวลา จากวันนั้นมาจนถึง วันที่ 20 มิถุนายน 2567      เราก็พยามทำคะแนนบูโรให้สวย       โดยการกู้เงินสถาบันนึง     และส่งตรงเวลามาตลอดเพื่อให้คะแนนบูโรขึ้น    เพราะบูโรเราไม่มีบัตรเครดิตหรือกู้เงินใดๆเลย มันจึงยากที่ทางแบ๊งค์จะมาเห็นวินัยการชำระหนี้ของเรา เพราะตรงนี้เราว่าก็สำคัญเช่นกันที่จะอนุมัติ หรือไม่อนุมัติสินเชื่อให้                                                   ⭐️    เมื่อครบ 6 เดือนหลังจากแบ๊งค์บอกเราให้รอเวลา เราก็ได้ไปดูบ้านที่พฤกษาแถวบางบัวทอง ซึ่งเป็นบ้านเดี่ยว มีพื้นที่ถึง 57 ตร.วา เลย    และราคาก็ถูกมาก เพียงแค่4ล้านต้นๆเท่านั้นเอง  เราก็ปรึกษาเซลล์ที่นี่    และแจ้งว่าเราปิดหนี้เก่ามาแล้ว 11เดือน (ปิดหนี้เมื่อ กค.2566)      เราก็เลยยื่นกู้กับแบ๊งค์เดิมเลยค่ะ     เรายื่นเอกสารช่วงเช้าของวันที่ 26มิย 2567      ทางเซลล์ก็ส่งเอกสารให้ทางแบ๊งค์      และทางฝ่ายสินเชื่อแบ๊งค์ก็แจ้งมาว่าให้รอให้ครบ 1ปีถึงจะยื่นได้      เนื่องจากแบ๊งค์มีกฎระเบียบใหม่     จาก6เดือนให้เป็น12เดือน     เซลล์แจ้งเราว่าให้ยื่น ตค.อีกครั้งเราก็รอสิคะ      แต่ตอนนั้นบ้านหลังที่เราจะซื้อมีคนมาดูเรื่อยๆ จนมีคนมาซื้อบ้านหลังที่เราเล็งไว้      เราจึงยกเลิกที่นั่นไป ❌     เนื่องจากบ้านเดี่ยวเค้าขายหมดแล้ว     เหลือแต่บ้านแฝดซึ่งมีพื้นที่ตัวบ้านที่ยื่นมาติดกัน เราจึงไม่เอา    เพราะต้องการความเป็นส่วนตัวและอีกอย่างเราอยู่กับแฟนและเป็นผญ.กันทั้งคู่ ก็เลยต้องนึกถึงความปลอดภัยเป็นหลัก        เราก็ได้ตระเวนไล่ดูบ้านมาหลายเรื่อยๆ   เรียกว่าหยุดงานแค่วันอาทิตย์ ก็ใช้วันอาทิตย์จนคุ้มละจ้าาาาาาาา😿    จนมาวันที่ 29 กย.2567 เราได้ไปดูบ้านที่โครงการ NC Neola วงแหวนลำลูกกา     ซึ่งอยู่ติดทางด่วนเลย      พอดูบ้านแล้วตรงใจ    ตอบโจทย์เรากับแฟนทุกข้อ ✅    จึงตัดสินใจจองในวันนั้นเลย และเซลล์ก็ยื่นกู้กับแบ๊งค์แบ๊งค์นึง   ขอไม่เอ่ยชื่อนะ เพราะเป็นประสบการณ์ที่แย่มากกกก 😞       เซลล์ก็ให้เราติดต่อกับเจ้าหน้าที่แบ๊งค์เองเลย  ตั้งแต่ยื่นเอกสารไปเอง    จนถึงคุยกับเจ้าหน้าที่แบ๊งค์เองหมด   เราก็ไม่อะไรนะ ด้วยความที่ไม่อยากรอเซลล์ อยากได้บ้านไวๆ ก่อนปีใหม่     ซึ่งทางเจ้าหน้าที่แบ๊งค์ยื่นกู้ให้เรา 5ล้านกว่า     ซึ่งเรากทักท้วงไปแล้วว่าจะผ่านเหรอตัวเลขมันเยอะนะ     เค้าก็บอก คิดตามฐานเงินเดือนเราแล้วไม่น่าติดอะไร      ตัวเลขนี้ผ่านแน่นอน เราก็เชื่อเค้าด้วยความที่เค้าคงเคยทำเคสแบบเรามาแล้ว        เราก็ส่งเอกสารไปในวันนั้นทันที     จ้าง Grab เลยให้ส่งเอกสารไปให้เจ้าหน้าที่แบ๊งค์     ด้วยความที่อยากได้บ้านไวๆ ก็ไม่คิดอะไร ยอมเสียเงิน300 ค่าส่งแกร้บส่งเอกสาร       แบ๊งค์ก็ตอบรับเอกสารทุกอย่างที่เราส่งไปแล้ว และเช็คบูโร       ขั้นตอนแรกเลยของการกู้บ้าน ทางแบ๊งค์จะต้องเช็คบูโรก่อน    ถ้าเช็คบูโรแล้วผ่าน ต่อมา     ก็คือการพิจารณาเอกสารของเรา      เรายื่นเอกสารกู้    วันที่   16ตค.67     และทางแบ๊งค์ก็มีการขอใบ 50ทวิเพิ่ม    เพื่อดูการจ่ายภาษีของเรา                 วันที่   17 ตค.2567    มีเจ้าหน้าที่แบ๊งค์โทรเข้ามาที่ทำงานเรา แต่ไม่ได้พูดอะไร  และวางสายไป อาจจะไม่ได้ยิน หรือต้องการเช็คแค่สถานที่ รึเป่า????? 🤔        หลังจากนั้นก็มีการสอบถามเยอะแยะมากมาย ว่าบริษัทเราก่อตั้งมากี่ปี ?  ขอยันใบเปิดบริษัท   ซึ่งเราก็งง ขอทำไม??    เราเป็นลูกจ้างและทำงานมานานถึง 25ปีบริษัทก็เปิดมานานมากแล้ว      ถามยันชื่อเจ้าของกิจการ เรานี่ถึงกับต้องส่งโปรไฟล์เจ้านายไปให้     บอกเลยว่าเจ้านายเราก็ศัลยแพทย์ระดับต้นๆของเมืองไทย 👍      แต่เจ้าหน้าที่แบ๊งค์ดันไม่รู้จัก เอาเข้าไป                          จนถึงวันที่ 24  ตค. ทางแบ๊งค์โทรมาบอกว่า ยอดกู้ได้ไม่ถึงตามที่ยื่นขอกู้    จะมีส่วนต่างที่เราต้องออกเอง    ก็ถามเราว่าเราจะเอาส่วนต่างตรงไหนมาชำระ      เราก็บอกว่าเรามีเงินสดอยู่      เค้าก็บอกว่าไม่ได้ต้องเป็นเงินของเราเองและมีที่มาที่ไป      เราก็แจ้งว่าเงินเราไงแต่แค่เราไม่ได้เอาเข้าบัญชีแค่นั้น     แบ๊งค์ก็บอกว่าไม่ได้   เราก็บอกว่า งั้นเราเอาเข้าบัญชี จะได้มั้ย    แบ๊งค์ก็บอกว่าไม่ได้ ต้องเป็นเงินที่เข้าบัญชีมานานแล้ว                         โอ้ยยยยยยย เราก็เอาแล้วสิ  ทำไมเรื่องเยอะขนาดนี้เลยเหรอแบ๊งค์นี้ 😡      ถ้าจะเรื่องเยอะขนาดนี้ ไม่เอาดีกว่าแบ๊งค์นี้     เพราะเยอะตั้งแต่ขั้นตอนแรกแล้ว ก็เลยบอกยกเลิกไป  ไม่กู้แล้ว    จบ .......                                       เราเลยตัดสินใจเปลี่ยนสถานที่ เพราะไม่โอเคกับเซลล์โครงการสาขานี้    ก็เลยหาดูที่ใหม่   แต่ก็เป็นโครงการนี้แหละ  (NC Neola)    เพราะบ้านสวยและตอบโจทย์เราหมดทุกข้อ                                                                       เราเลยไปดูที่  NC Neola ลำลูกกาคลอง7 ก็ไกลทางด่วนออกมาหน่อย แต่ก็ไม่เป็นไร      ถ้าเทียบกับเราได้บ้าน   เราก็เลยทักหาเซลล์โครงการทันที ชื่อน้องเมย์ ซึ่งน้องคนนี้เป็นเซลล์ที่เราคุยด้วยแรกๆตอนตั้งแต่ครั้งแรกที่เราเริ่มหาดูบ้าน       แต่เราบอกเลื่อนนัดน้องมาตลอด มีเหตุตลอดจนไม่ได้เข้ามาดูบ้าน        แล้วน้องก็ทักถามเราตลอด เป็นเซลล์ที่ติดตามลค.ดีมาก  ขอชมเชย  👍      ถ้าใครจะซื้อบ้านโครงการนี้ ก็ขอแนะนำน้องเซลล์คนนี้แหละ             เราก็บอกน้องเมย์ว่าเราเคยจะเอาเข้า ธอส แต่ติดเรื่องเวลาและตัวเลขยอดกู้       น้องก็น่ารักรีบโทรเช็คกับทางแบ๊งค์ให้เลย         คราวนี้เราไม่ไปดูบ้านแล้วจองแบบเดิมละ      เพราะเรากลัวเฟลอีก เรามาแนวใหม่        เราให้เซลล์เช็คกับทางแบ๊งค์ก่อนเลยว่าเคสแบบเรา     มีโอกาสที่จะผ่านมั้ย ถ้าผ่านเราถึงจะเข้าไปดูบ้านและทำการจอง             น้องเมย์ก็รีบเช็คกับแบ๊งค์ธอส.ให้เลย        แบ๊งค์ก็บอกว่าตัวเลขยื่นกู้ได้ 4.2 ล้าน ตามราคาบ้านพอดีเด๊ะ เราก็เลยนัดน้องเมย์เพื่อดูบ้านทันที         เรานัดขอดูบ้านเมื่อวันที่  28 ตค.2567 เราก็โอนจองเลย                                                วันที่ 29ตค.2567 น้องเมย์ก็ทำใบเสนอราคาบ้านมาให้เราก็ตอบกตลงและยื่นเอกสารทั้งหมดไป                         วันที่  2 พย.2567     : เอกสารทั้งหมดส่งถึง ธอส.เรียบร้อย                                                                  วันที่  4   พย.2567  : แบ๊งค์ส่งตรวจเครดิตบูโร     เพื่อจะได้ดูคะแนนสกอร์ ว่าจะผ่านเกณฑ์การพิจารณาหรือไม่                                                                                         วันที่ 5พย. 2567  แบ๊งค์โทรมาแจ้งว่าคะแนนผ่านเกณฑ์ จึงได้ส่งเอกสารทั้งหมดเข้าระบบ     และอยู่ในขั้นตอนพิจารณาเอกสาร        ช่วงบ่ายของวันนั้นก็มีเจ้าหน้าที่ทางแบ๊งค์โทรเข้ามาเช็คสถานะการทำงานของเราเลย คือไวมากกก 👍                                                                วันที่ 6 พย. 2567 สถานะในแอ้พ ขึ้นว่า  : ประเมินความสามารถในการผ่อนชำระคืนเงินกู้                                   วันที่ 7พย.2567 สถานะ  :  คือรอการพิจารณาอนุมัติ                  เชื่อว่าตอนนี้ทุกๆคนก็เป็นเหมือนเรา       เรียกว่าไม่เป็นอันทำไรเลยทีเดียว    มาเข้าแอ้พ All Gen ตลอดทุกชม.ละค่ะ    เพื่อเช็คสถานะตัวเอง       แอ้พนี้จะเป็นแอ้พของธนาคาร ธอส.       ซึ่งจะแจ้งเราทุกขั้นตอนในการยื่นขอสินเชื่อ ว่าอยู่ขั้นตอนไหน สะดวกมาก         เราไม่ต้องโทรหาแบ๊งค์ให้ยุ่งยากหมือนแต่ก่อน เป็นระบบออนไลน์หมด ทันสมัยมากกก      ระหว่างนี้เชื่อว่าทุกคนต้องเป็นแบบเรา บนบานศาลกล่าวสิจ้ะ 😄         ของแบบนี้จ้องพึ่งดวงด้วย ส่วนนึง พึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์กันละจ้าาาาาา     ขอให้บ้านผ่าน  ✅                                                               จนมาถึงวันที่ 8พย. 2567 สถานะเราได้เปลี่ยนไป เย้ๆๆๆ ขึ้นสถานะว่า    “ อนุมัติ  ”  ✌️    เท่านั้นละค่ะทุกคนร้องเย้ ตอน6 โมงเช้าเลย     เรียกว่าตื่นมาเช็คสถานะกันเลยละจ้าาาาา ช่วง 10 โมงแบ๊งค์ก็โทรมาแจ้งยอดตัวเลขที่อนุมัติ และค่าประกันเท่าไหร่     และแล้ววันที่เป็นหนี้ก็มาถึง ทางแบ๊งค์นัดเราเข้าเซ็นต์สัญญากู้             วันที่ 14 พย.2567  เป็นวันที่เราตื่นเต้นมาก ไปถึง คือแบบตกใจมาก ตึกธอส.สำนักงานใหญ่คือ ใหญ่มาก และทุกอย่างเป็นระบบออนไลน์ทันสมัยสุดๆ  รู้สึกตัวเองโชคดีที่ได้กู้กับธอส. สุดท้ายนี้ เราก็ขอให้ใครที่เป็นเคสแบบเรา อย่าท้อนะ ทุกอย่างมีทางสำเร็จได้ด้วยเราตั้งใจ สร้างบูโรให้ดี สร้างความน่าเชื่อถือให้ได้ มีวินัยในการใช้เงิน อย่ากู้หนี้จนเกินตัว กู้แต่พอดี และเอาที่เราชำระไหวเท่านั้น ไม่งั้นเราจะชักหน้าไม่ถึงหลัง                           🫰🏻 ตอนเราเขียนกระทู้ตอนนี้  (3 เมษายน 2568)   แน่นอนว่าเพิ่งเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหว คนที่อยู่คอนโดต่างพากันขายคอนโดมาซื้อบ้านกัน เราก็ขอให้ทุกคนผ่านพ้นวิกฤตินี้ไปให้ได้    เราส่งกำลังใจให้นะจ้ะ    ใครมีคำถามหรือต้องการปรึกษาเรา     คอมเม้นต์กระทู้เรามาได้เลย     เรายินดีให้คำปรึกษาทุกคนจ้าาาา  (ปล. เราแอบลงรูปบ้านอวดนะ     ใครอยากจะมาอยู่โครงการเดียวกับเรา ยินดีนะคะ )       บ้านสวยและเงียบสงบมาก เราโชคดีด้วยที่เจอเพื่อนบ้านที่น่ารักทุกหลังเลย  สุดท้ายนี้ขอให้ใครที่บูโรเสียแบบเรา  อย่าท้อนะคะ เราทำได้ ทุกคนก็ทำได้เช่นกัน  สู้ๆจ้าาาา✌️
แก้ไขข้อความเมื่อ
ความคิดเห็นจาก Expert Account
ความคิดเห็นที่ 10
เข้ามาช่วยสรุปเรื่องราวของเจ้าของกระทู้ให้ ผ่านระบบ Chat GPT และขอชมว่า แต่งบ้านได้สวย ผมชอบโทนสบ้านแนวนี้มากๆ ครับ ยินดีกับบ้านใหม่ด้วยนะครับ

เรื่องราวในบทความนี้เป็นการแชร์ประสบการณ์ของผู้เขียนในการซื้อบ้าน โดยเริ่มจากการที่ผู้เขียนมีฐานเงินเดือน 50,000 บาท และมีประวัติการติดบูโรจากหนี้เก่า หลังจากตัดสินใจซื้อบ้านเพื่อขยายพื้นที่ให้กับครอบครัว มีแมว 11 ตัว

ผู้เขียนเริ่มต้นดูบ้านตั้งแต่ต้นปี 2566 จนพบบ้านที่ต้องการที่โครงการ Pleno สะพานใหม่ แต่ประสบปัญหาในการยื่นกู้ เพราะจำนวนเงินกู้สูงเกินฐานเงินเดือน และประวัติการบูโรไม่ดี ส่งผลให้การยื่นกู้ไม่ผ่านจากธนาคารหลายแห่ง

หลังจากนั้น ผู้เขียนได้รับคำแนะนำจากธนาคาร ธอส. ให้รอ 6 เดือนแล้วค่อยยื่นใหม่ โดยพยายามปรับปรุงคะแนนบูโร และรอจนถึงเดือนมิถุนายน 2567 แต่ก็ยังประสบปัญหาที่ธนาคารให้เวลายื่นขอกู้เป็น 12 เดือนแทน 6 เดือน จากนั้นจึงตัดสินใจยกเลิกการซื้อบ้านจากโครงการเดิมเนื่องจากไม่มีบ้านที่ตรงตามต้องการ

ต่อมา ผู้เขียนไปดูบ้านที่โครงการ NC Neola วงแหวนลำลูกกา และตัดสินใจจองบ้านที่นั่น หลังจากยื่นเอกสารขอกู้กับธนาคาร ธอส. ก็เกิดการตรวจสอบข้อมูลหลายครั้ง ทั้งการขอเอกสารเพิ่มเติมจากบริษัทที่ทำงาน และการตรวจเครดิตบูโร หลังจากผ่านกระบวนการตรวจสอบและอนุมัติสินเชื่อในวันที่ 8 พฤศจิกายน 2567 ผู้เขียนได้รับการอนุมัติสินเชื่อจากธนาคาร และเซ็นสัญญากู้ในวันที่ 14 พฤศจิกายน 2567

ผู้เขียนสรุปประสบการณ์นี้โดยเน้นให้กำลังใจผู้ที่มีปัญหาคล้ายๆ กัน โดยแนะนำให้มีวินัยในการชำระหนี้ สร้างบูโรให้ดี และกู้ในจำนวนที่สามารถชำระได้ไม่เกินกำลัง
12 ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่