ใครชอบเดินเล่นช็อปปิ้งห้างสรรพสินค้าแถวสยามหรือชิดลมบ่อยต้องคุ้นเคยกันดีเพราะช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์มักจะมีผู้คนหนาแน่นพิเศษโดยเฉพาะภัตตาคารเจ้าดังยืนรอต่อคิวนานกว่าปกติจึงเปิดมือถือลองค้นหาร้านนั่งดื่มชิลสักแห่งใกล้เคียงกันก็พบกับแบรนด์ชื่อ "เสือโหยแจ่วฮ้อน Hungry Tiger E-Sarn Shabu" จัดเสิร์ฟเมนูแนวอิซากายะฉบับลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่นผสมผสานจนออกมาเป็นรายการใหม่นั่นก็คือ "อีสานกายะ" เน้นเข้าถึงง่ายแซ่บถูกปากทุกคนอย่างแน่นอนจับคู่เครื่องดื่มมอลล์สกัดแช่เย็นสดชื่นแวะรับประทานเกือบทุกวันก็ยังไม่รู้สึกเบื่อ โดยปัจจุบันได้รับคำวิจารณ์พร้อมคะแนนรีวิวลูกค้าชาวไทยและต่างชาติเฉลี่ยมากถึง 4.9 เต็ม 5 ดาวบ่งบอกถึงความอร่อยเด็ดไม่ธรรมดา วิธีการเดินทางถ้าเลือกใช้รถยนต์ส่วนตัวให้ปักหมุดขับตรงไปยังโครงการ The Portico ซอยหลังสวนตามระบบแผนที่บนสมาร์ตโฟนของคุณด้านหลังตึกมีลานกว้างขวางใหญ่โตสามารถรองรับได้เยอะกว่า 60 คัน (อย่าลืมเก็บใบเสร็จประทับตราเพื่อจอดฟรี) สำหรับบริการขนส่งสาธารณะแนะนำ BTS สายสีเขียวเส้นสุขุมวิทลง ณ สถานีชิดลมบันไดออกลำดับ 4 ฝั่ง The Mercury Ville ขยับน่องออกกำลังกายอีกสักหน่อยประมาณ 200 เมตรมีป้ายไฟวางโดดเด่นชัดเจนติดริมถนนหลักเดินขึ้นลิฟต์เข้าสู่อาคารชั้นสองก็พบจุดหมายอยู่บริเวณขวามือเราทันทีครับผม


เปิดประตูกระจกเข้ามาก็จะพบบรรยากาศร้าน "เสือโหยแจ่วฮ้อน Hungry Tiger E-Sarn Shabu" ซึ่งตั้งอยู่ภายในโครงการ The Portico ซอยหลังสวนชั้นสองแห่งนี้เลือกใช้การตกแต่งฉบับไทย,อีสานผสมผสานวัฒนธรรมดินแดนอาทิตย์อุทัยได้อย่างลงตัว โดยพื้นฐานเป็นสไตล์ลอฟต์พื้นปูนเปลือยขัดเรียบฝ้าเพดานเผยให้เห็นโครงสร้างของอาคารปกคลุมผ้าขาวม้าแขวนโคมไฟห้อยระย้าประดับกังหันลมหลากหลายสีสันสวยงามเอกลักษณ์สุดโดดเด่นไม่เหมือนใครผนังกั้นวัสดุไม้อัดสลับแผ่นสังกะสีทาสีเขียวแปะแผ่นโปสเตอร์ภาพยนตร์สมัยโบราณเรื่องราวเกี่ยวกับโจรสมัยก่อนเรียกว่าเสือเข้ากันตามแนวคิดหลักและต้นซากุระออกดอกชมพูสะพรั่ง เหล่าเฟอร์นิเจอร์มีทั้งแนวสตรีทคล้ายกำลังนั่งกินดื่มชิลริมถนน-มุมโซฟายาวพร้อมเก้าอี้บุหนังเรียบร้อยแลดูทางการหน่อยไปจนถึงโต๊ะแคร่ฟิวแผงลาบล้อมรอบบานกระจกใสขนาดใหญ่ให้ความรู้สึกโล่งสว่างปลอดโปร่งห้องหลักเปิดแอร์เย็นฉ่ำวันอากาศดีหน่อยก็ย้ายไปริมระเบียงข้างนอกเลือกสลับเปลี่ยนเองตามสะดวกสามารถรองรับลูกค้าได้ 4-12 คนถ้าจำนวนเยอะกว่านั้นแนะนำลากต่อขยายเอาเลยตามจำนวนสมาชิก มีบริการทั้งแบบ A La Carte ปกติธรรมดาสำหรับ Buffet ต้องรอประกาศอีกครั้งบนเพจหลัก กดเพื่อเข้าดูเล่มเมนูออนไลน์ได้เลยตรงลิงก์นี้ > https://citly.me/VBjzo < ครับผม






จานแรกเป็นการฟิวชั่นระหว่างสองวัฒนธรรมได้แก่ญี่ปุ่นกับดินแดนหมอลำอย่างลงตัวจนเกิดเป็นเมนูสุดแปลกใหม่เอกลักษณ์โดดเด่นไม่เหมือนใครโดยถูกเรียกว่าสไตล์อีสานกายะนั่นก็คือ "ลาบเสียบไก่ย่าง" ราคา 75 บาท คัดเฉพาะบริเวณสะโพกล้วนแล่แบบติดหนังหั่นไซส์ขนาดกำลังพอดีคำหมักเครื่องสมุนไพรตำรับลาบเสียบไม้ลูกชิ้นย่างบนเตาถ่านรอสุกสัมผัสเด้งฉ่ำเคี้ยวหนึบสู้ฟันท็อปปิ้งพริกขี้หนูสไลซ์,หอมแดงแขก,ผักชีใบเลื่อยซอยละเอียดก่อนรับประทานอย่าลืมบีบน้ำมะนาวลงไปนิดหน่อยช่วยตัดเลี่ยนอร่อยลงตัว / "ไส้กรอกอีสาน" ราคา 85 บาท เลือกใช้หมูเกรดฟาร์มอนามัยสับหยาบเพิ่มข้าวเหนียวนึ่งพร้อมกระเทียมจีนบรรจุยัดลงไส้คอลลาเจนมัดเชือกฝ้ายธรรมชาติชิ้นอวบอ้วนแขวนเอาไว้อุณหภูมิห้องเพื่อหมักประมาณ 1-2 วันเปรี้ยวอูมามิกลมกล่อมปิ้งไฟผิวข้างนอกกรอบเนื้อแน่นแทรกไขมันน้อยเคียงพริกขี้หนูสดกะหล่ำปลีดิบและขิงดองชมพูคล้ายภัตตาคารซูชิ / "ยุกเกะเนื้อ" ราคา 130 บาท เนื้อวัวสายพันธุ์พื้นบ้านของไทยส่วนสันในค่อนข้างลีนปริมาณโปรตีนเยอะบดผสมน้ำมันงาใส่ภาชนะชามก้นลึกเรียงหอมหัวแดง,พริกขี้หนู,กระเทียม,ผักชีใบเลื่อยด้านข้างปิดท้ายด้วยไข่แดงไก่เกรดกินดิบปลอดภัยต่อสุขภาพยี่ห้อโมริทามะคลุกเคล้าเข้ากันดีก่อนฟินได้อารมณ์ประดุจดั่งลาบดิบนัวเหมาะออเดอร์คู่เครื่องดื่มมอลล์แช่เย็นสดชื่นครับผม




วันนี้เราแวะนั่งกินดื่มชิลกับเพื่อนอีกหลายคนซึ่งข้อดีของการเลือกภัตตาคารแนว "อีสานกายะ" แบบนี้ก็คือเมนูอาหารแต่ละรายการเน้นเข้าถึงง่ายแม้จะมีสมาชิกร่วมโต๊ะบางท่านไม่ค่อยชอบการรับประทานญี่ปุ่นมากนักมาต่อกันเลยด้วยจานพื้นฐานประจำรถเข็นอีสานริมทางอย่าง "ส้มตำปูปลาร้า" ราคา 75 บาท เส้นมะละกอกับแครอทสับมือไม่ผ่านเครื่องขูดสำเร็จรูปจึงมีสัมผัสกรุบกรอบเคี้ยวสนุกยิ่งกว่าเดิมคลุกเคล้าน้ำปรุงสูตรปลาร้าต้มเองโฮมเมดเผ็ดร้อนพริกขี้หนูแห้งเปรี้ยวมะนาวหวานติดปลายลิ้นเล็กน้อยกลมกล่อมเครื่องตำบักหุ่งจัดเต็มทั้งมะเขือเทศ,ถั่วฝักยาวและปูนาดองเค็มแซ่บอีหลีโดนใจ / "ก้อยคั่วหมู" ราคา 85 บาท เลือกใช้สะโพกหมูดิบส่งตรงจากฟาร์มเกรดอนามัยสับหยาบผสมพริกป่น,ข้าวคั่ว,หอมหัวแดง,ผักชีใบเลื่อยเหมือนลาบปกติธรรมดาทั่วไปค่อยนำไปผัดบนกระทะร้อนๆจนสุกไม่หลงเหลือความชื้นเคียงกระเทียม,พริกสด,ยอดใบสะระแหน่เหมาะสำหรับปั้นข้าวเหนียวจิ้มยัดใส่ปากคำโต / "ปลาดุกย่างซอสเทอริยากิ" ราคา 120 บาท ปลาดุกสายพันธุ์บิ๊กอุยเลี้ยงกระชังควบคุมระบบน้ำผ่านการกรองใสสะอาดจึงไซส์ใหญ่พิเศษไร้กลิ่นเหม็นสาบคาวโคลนแล่แบบฟินเล่ย์โดยตัดหัวทิ้งดึงก้างตรงกลางออกย่างบนเตาถ่านควบคุมไฟหนังบางกรอบเนื้อขาวนุ่มฟูเคลือบซอสเทอริยากิคล้ายอูนางิคาบายากิของฝั่งดินแดนอาทิตย์อุทัยครับผม




สำหรับผู้คลั่งไคล้ชื่นชอบอาหารอีสานตัวจริงนอกจากตำบักหุ่งพื้นฐานปกติแล้วสิ่งที่ขาดไม่ได้อีกหนึ่งอย่างนั่นก็คือ "คอหมูย่าง" ราคา 120 บาท ทางร้านคัดสรรเฉพาะส่วนคอหมูของแท้ 100% ไม่ปรับเปลี่ยนไปใช้สันคอหรือสันไหล่แทนเพราะเมื่อเทียบต่อกิโลกรัมถูกกว่าหมักสมุนไพรสามเกลอบดละเอียด (รากผักชี,กระเทียม,พริกไทยดำ) รอจนซึมซาบเข้าเนื้อปิ้งไฟควบคุมอุณหภูมิค่อนข้างอ่อนเวลานานตัดแต่งส่วนไหม้เกรียมทิ้งหั่นแบ่งชิ้นขนาดกำลังพอคำตามแนวขวางเรียงเสิร์ฟบนภาชนะอย่างสวยงามสัมผัสนุ่มเด้งเคี้ยวสนุกสู้ฟันดี / "ไส้อ่อนหมูย่าง" ราคา 75 บาท มีอีกชื่อเรียกว่าลำไส้เล็กลักษณะขดตัวม้วนทรงกลมคุณเชฟบรรจงเลาะพังผืดออกล้างทำความสะอาดขูดคราบเมือกไขมันสีขาวจึงมั่นใจว่าไร้กลิ่นเหม็นสาบคาวเสียบไม้ลูกชิ้นย่างให้ผิวด้านนอกกรอบโรยหอมแดงเจียวรับประทานคู่น้ำจิ้มแจ่วสูตรมะขามเปียกเปรี้ยวอมหวานโรยข้าวคั่วกับผักชีใบเลื่อยซอยใหม่ทุกๆถ้วยเมื่อลูกค้าออเดอร์เท่านั้น / "ยำขนมจีนกุ้งหมูยอ" ราคา 150 บาท เส้นขนมจีนแป้งข้าวเจ้าทำสดทุกวันไม่หมักค้างคืนเพื่อป้องกันลูกค้าท้องเสียคลุกเคล้าน้ำปรุงปลาร้าสูตรโฮมเมดต้มเองละลายน้ำตาลปีบใส่พริกขี้หนูป่นบีบน้ำมะนาวคั้นเหยาะน้ำปลาเพียงนิดหน่อยแค่กลมกล่อมอัดเครื่องแน่นโปรตีนจัดเต็มทั้งกุ้งขาวแกะเปลือก,หมูยอลวก,หอมแดง,ถั่วฝักยาวปริมาณเกินคุ้มครับ




รายการถัดมาเพื่อนสมาชิกร่วมโต๊ะอยากลองเปลี่ยนจากตำบักหุ่งใช้เส้นมะละกอขูดธรรมดาปกติจึงออเดอร์กับน้องพนักงานเป็น "ส้มตำข้าวโพดไข่เค็ม" ราคา 80 บาท ข้าวโพดไร่สุวรรณซึ่งวิจัยพัฒนาสายพันธุ์โดยมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ฝักสีเหลืองสวยงามนึ่งสุกลงมีดปาดตามแนวขวางเอาแต่เมล็ดล้วนๆไม่ติดแกนกลางบรรจุใส่ครกปรุงรสชาติเปรี้ยวอมหวานกลมกล่อมอัดเครื่องแน่นจัดเต็มทั้งแครอท,มะเขือเทศ,กุ้งแห้ง,ถั่วลิสงคั่ว,มะนาวคั้นสดและไข่เป็ดเค็มอีกฟองช่วยผสมผสานความอร่อยนัวละมุนถูกปากยิ่งขึ้น / "ชุดแจ่วบอง" ราคา 235 บาท น้ำพริกแจ่วบองฉบับอีสานโบราณดั้งเดิมนำข่า,ตะไคร้,หอมหัวแดงคั่วไฟอ่อนพร้อมเนื้อปลากระดี่ร้าเลาะก้างออกสับละเอียดผัดบนกระทะตกแต่งใบมะกรูดฝอยกลิ่นหอมสมุนไพรเข้มข้นเผ็ดร้อนโดดเด่น เรียงเสิร์ฟภาชนะรูปทรงถาดแบนขนาดใหญ่รับประทานคู่ปีกกลางไก่ชุบแป้งทอดคอหมูหมักสามเกลอโรยกระเทียมเจียวปิดท้ายและเหล่าผักเคียงเช่นกะหล่ำปลีต้ม,ถั่วฝักยาวแบบท่อน,แตงกวาแช่เย็นสดชื่น / "ปลาหมึกย่าง" 250 บาท คัดสรรหมึกกระดองจับบริเวณฝั่งทะเลอ่าวไทยเกรดสดใหม่ไซส์ปานกลางบรรจงบั้งลายตารางละลายผงขมิ้น,ซีอิ๊วดำแช่เอาไว้สักพักย่างเตาถ่านหั่นแบ่งชิ้นพอดีคำเนื้อสัมผัสหนาเด้งสู้ฟันชวนเคี้ยวสนุกต้องจิ้มซีฟู้ดไทยแท้หนักพริกขี้หนูสีเขียวกระเทียมจี๊ดจ๊าดสะใจครับผม




ตอนแรกคิดว่าจะพักหมวดตำบักหุ่งอีสานเอาไว้ก่อนแต่พนักงานแนะนำว่าวันนี้มีวัตถุดิบจากทะเลสดใหม่เพิ่งส่งตรงถึงร้านนั่นก็คือ "ส้มตำปูม้า" ราคา 150 บาท ปูม้าตัวสีน้ำเงินธรรมชาติฝั่งอ่าวไทยคัดเฉพาะขนาดปานกลางขัดล้างเปลือกข้างนอกจนสะอาดแกะกระดองดึงส่วนปอดสกปรกทิ้งดองน้ำปลาสักครู่เพื่อรักษารูปทรงเอาไว้จัดเตรียมเส้นมะละกอกับแครอทสับด้วยมือไม่ผ่านเครื่องขูดสำเร็จรูปสัมผัสกรุบกรอบคลุกเคล้าน้ำปรุงเผ็ดร้อนพริกขี้หนูแห้งเปรี้ยวมะนาวแท้หวานกลมกล่อมใส่มะเขือเทศและถั่วฝักยาวอร่อยแซ่บเหมือนภัตตาคารซีฟู้ดริมทะเลต่างจังหวัด / "น่องเป็ดเยอรมันทอด" ราคา 220 บาท บริเวณต้นขาติดสะโพกของเป็ดฟาร์มควบคุมมาตรฐานเลี้ยงระบบปิดสายพันธุ์ Grimaud Freres สัญชาติฝรั่งเศสผสม Cherry Valley แห่งเกาะอังกฤษเนื้อเยอะแทรกไขมันชุ่มฉ่ำไร้กลิ่นสาบคาวแช่น้ำเกลือลอยเครื่องสมุนไพรตะวันตกก่อนลงทอดน้ำมันท่วมลักษณะคล้ายขาหมูเยอรมันรับประทานคู่จิ้มแจ่วสูตรมะขามเปียกสลับเปลี่ยนซีฟู้ดพริกขี้หนูสีเขียวจี๊ดจ๊าดตามใจคุณ / "สเต๊กเนื้อออสเตรเลียย่าง" ราคา 590 บาท เลือกส่วนสันนอกใกล้สะโพกบั้นท้ายโรยเกลือสมุทร-พริกไทยดำปิ้งถ่านไฟรุนแรงไหม้เกรียมเล็กน้อยแต่ด้านในอมชมพู Medium Well ไซส์ขนาด 150 กรัม หั่นเรียงเสิร์ฟบนถาดไม้ฟินพร้อมน้ำจิ้มแจ่วเรียบง่ายฉบับไทยครับผม




******* เกิน 10,000 ตัวอักษร ขออนุญาตเขียนรีวิวต่อในช่อง Comment แทนนะครับ *******