ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ เดือนมกราคม ลดลง305,000 บาร์เรลต่อวันสู่ระดับ 13.15 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งเป็นระดับที่ไม่ได้ลดลงมาเป็นเวลากว่า 1 ปี ตามข้อมูลที่เผยแพร่โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) เมื่อวันจันทร์ และยังได้แก้ไขประมาณการเดือนธันวาคมลดลงประมาณ 40,000 บาร์เรล สู่ระดับ 13.45 ล้านบาร์เรลต่อวัน
รัฐเท็กซัส ซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ที่สุด มีปริมาณการผลิตลดลง 105,000 บาร์เรลต่อวัน อยู่ที่ 5,580 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งถือเป็นการลดลงครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 15 เดือน ในขณะที่รัฐนิวเม็กซิโก ซึ่งเป็นผู้ผลิตอันดับสองของประเทศ มีปริมาณการผลิตลดลง 53,000 บาร์เรลต่อวัน เหลือ 2.06 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งถือเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 7 เดือนเช่นกัน
การผลิตก๊าซธรรมชาติของสหรัฐฯ ลดลง 1.7% ในเดือนมกราคมเช่นกัน แม้จะมีแนวโน้มลดลง แต่ในช่วงต้นเดือนนี้ EIA รายงานว่าสหรัฐฯ สร้างสถิติการผลิตน้ำมันดิบในปี 2023โดยเฉลี่ย 12.9 ล้านบาร์เรลต่อวัน (b/d) แซงหน้าสถิติโลกและสหรัฐฯ ก่อนหน้านี้ที่ 12.3 ล้านบาร์เรลต่อวันในปี 2019 ไม่มีประเทศอื่นใดที่ทะลุขีดความสามารถ 13 ล้านบาร์เรลต่อวัน และล่าสุด ซาอุดีอาระเบียได้ถอนแผนเพิ่มการผลิตเป็น 13 ล้านบาร์เรลต่อวันภายในปี 2027
ในปี 2566 สหรัฐอเมริกา รัสเซีย และซาอุดีอาระเบีย คิดเป็นสัดส่วนรวมกัน 40% ของการผลิตน้ำมันทั่วโลก โดยมีปริมาณรวม 32.8 ล้านบาร์เรลต่อวัน ตามข้อมูลของ EIA
โดย Charles Kennedy ___ Oilprice.com

ปริมาณการผลิตน้ำมันของสหรัฐฯ ลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 15 เดือน