โครงสร้างพลังงาน วันที่ 12 มกราคม 2558


ฐานะกองทุนน้ำมัน ณ วันที่ 11 มกราคม 2558



ราคาน้ำมันดิบลดลงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ เม.ย. 52 ขณะที่จำนวนหลุมขุดเจาะน้ำมันดิบในสหรัฐฯ ปรับลดลง
- ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสและน้ำมันดิบเบรนท์ปรับตัวลดลงอีกครั้ง ซึ่งเป็นการลดลงต่อเนื่องถึง 7 สัปดาห์ติดต่อกัน โดยได้ลดลงไปแตะระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. 52 ก่อนจะดีดตัวขึ้นมาที่ระดับราคาปิดช่วงท้ายตลาด ภายหลังมีรายงานจาก Baker Hughes  ถึงจำนวนหลุมขุดเจาะน้ำมันดิบในสหรัฐฯ ที่ปรับลดลงมากที่สุดในรอบ 24 ปี โดยลดลง  61 หลุม เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้า มาอยู่ที่  1,421 หลุม
-  Wood Mackenzie เปิดเผยว่า หากราคาน้ำมันดิบอยู่ที่ระดับ 40 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล จะส่งผลกระทบเชิงลบต่อการผลิตน้ำมันดิบทั่วโลกเพียง 1.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน หรือคิดเป็น 1.6% เท่านั้น  ซึ่งส่วนใหญ่เป็นโครงการ oil sand ในแคนาดาที่ประสบปัญหาขาดทุน อย่างไรก็ตาม ผู้ผลิตดังกล่าวอาจตัดสินใจคงการผลิตน้ำมันดิบไว้และปริมาณน้ำมันดิบข้างต้นอาจจะยังคงอยู่ในตลาดก็เป็นได้  นอกจากนั้นยังเปิดเผยว่า  การผลิต shale oil ในสหรัฐฯ จะประสบภาวะขาดทุน หากราคาน้ำมันดิบเบรนท์ลดลงแตะ 30  เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
+/-  ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรมของสหรัฐฯ ปรับเพิ่มขึ้น 252,000 ตำแหน่ง ในเดือนธ.ค. 57 ซึ่งดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 240,000 ตำแหน่ง ขณะที่อัตราการว่างงานลดลง 0.2% สู่ระดับ 5.6% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 6 ปีครึ่ง อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังมีความกังวลต่อตัวเลขรายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมงของแรงงานสหรัฐฯ ที่ลดลง 5 เซนต์ในเดือนธ.ค.  57  ลงมาอยู่ที่ระดับ 24.57 เหรียญสหรัฐฯ ต่อชั่วโมง โดยเป็นการปรับตัวลงมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 49

ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากอากาศหนาวในเอเซียเหนือและฝนที่ตกในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ ส่งผลกดดันอุปสงค์ในภูมิภาค ประกอบกับยุโรปและอินเดียส่งออกน้ำมันเบนซินมายังภูมิภาค ทำให้เกิดภาวะอุปทานล้นตลาด

ราคาน้ำมันดีเซล ปรับเพิ่มขึ้นสวนทางกับราคาน้ำมันดิบดูไบ ในขณะที่สต็อกน้ำมันดีเซลในภูมิภาคอยู่ในระดับคงที่เมื่อเทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา  ท่ามกลางอุปสงค์ที่เบาบาง

ทิศทางราคาน้ำมันดิบ
ไทยออยล์คาดราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวที่กรอบ 47-52 เหรียญฯ ต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 50-55 เหรียญฯ

ปัจจัยที่น่าจับตามอง
ติดตามภาวะอุปทานน้ำมันดิบที่ล้นตลาด หลังจากผู้ผลิตทั้งฝั่งโอเปกและนอกโอเปกยังไม่มีทีท่าที่จะลดกำลังการผลิตลง อย่างไรก็ดี ซาอุดิอาระเบียยืนยันว่าประเทศยังสามารถรับมือกับราคาน้ำมันดิบที่อยู่ในระดับต่ำได้ ถึงแม้ว่าราคาน้ำมันที่ทรุดตัวลงจะส่งผลให้ซาอุดิอาระเบียขาดดุลงบประมาณปี 58 กว่า 3.86 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ หลังจากที่มีงบประมาณเกินดุลอย่างต่อเนื่องมาเป็นเวลาหลายปี

ติดตามวิกฤติเศรษฐกิจของรัสเซีย ซึ่งเป็นผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ของโลก หลังเศรษฐกิจของประเทศได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันดิบที่ตกต่ำ รวมทั้งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ หลังเผชิญกับมาตรการคว่ำบาตรจากกลุ่มประเทศตะวันตก  ส่งผลให้ค่าเงินรูเบิลอ่อนค่าลงมากที่สุดเป็นประวัติการณ์

ความกังวลในประเด็นการเลือกตั้งของกรีซที่จะจัดขึ้นในวันที่ 25 ม.ค. 57  ซึ่งเป็นการชี้ชะตาว่ากรีซจะสามารถรั้งสถานภาพการเป็นสมาชิกยูโรโซนต่อไปได้หรือไม่ ซึ่งหากพรรคฝ่ายค้าน ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้ง ก็อาจจะส่งผลให้กรีซเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้ และพ้นจากการเป็นชาติสมาชิกของยูโรโซน  เนื่องจากหัวหน้าพรรคฝ่ายค้านมีแนวโน้มที่จะยุติมาตรการรัดเข็มขัด ซึ่งขัดแย้งกับเงื่อนไขที่กลุ่มยูโรโซนตั้งไว้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://www.thanonline.com/index.php?option=com_content&view=article&id=261177:2015-01-12-02-42-49&catid=176:2009-06-25-09-26-02&Itemid=524#.VLM45iuUdcg