ช่วยอ่านเรื่องราวของเราหน่อยได้ไหมคะ2

มาต่อกันค่ะ
ส่วนมากเรื่องราวของเราจะเป็นเรื่องราวตอนเด็กค่ะ

บ้านเราไม่มีรถ เวลาไปไหนก็พลอยไปกับคนอื่นค่ะ
เช่นไป รร. ก็ไปกับญาติค่ะ หรือไม่ก็เดินไปค่ะ
ในทุกๆวันหลังเลิกเรียนเราต้องกังวลว่า วันนี้จะมีคนรอเราไหม เราก็วิ่งเร็วมากค่ะ แต่บางครั้งมันก็ไม่มีใครรอจริงๆ ก็เดินกลับค่ะ แหะๆ มันร้อนมาก และกระเป๋าก็หนักมากด้วยค่ะ เราก็เดินต๊อกแต๊ก กลับถึงบ้านก็รีบโยนกระเป๋าวิ่งไปอาบน้ำเลยค่ะ
เราเสียใจที่ทำไมเราไม่มีเหมือนคนอื่น เราก็อยากมีพ่อแม่มารอรับเหมือนกันนะ อยากโดนกอด อยากโดนเอาใจ อยากทำตามใจ อยากงอแง อยากโดนเรียกว่าลูก  เห้อเศร้าTT

พอเราอายุสัก 11 ปี เราก็คิดขึ้นมาได้ว่าแม่เราคงทิ้งเราไปแล้วจริงๆ หลังจากนั้นเราก็เลิกรอแล้วค่ะ
ส่วนพ่อช่วงนั้นก็มาบ้างคะ แต่เราไม่สนิทกันไม่ได้คุยกันค่ะ

ช่วงตอนที่เราอายุ 13 ปีก็ได้เข้า รร. ใหม่ เรากังวลมากค่ะ เกือบไม่ได้เรียนต่อ เพราะที่บ้านเราไม่มีเงิน
เราก็บอกว่าแล้วค่ะ ว่าถ้าไม่ไหวเราไม่เรียนได้นะ แค่นี้ก็มากพอแล้ว แต่ย่า สู้มากค่ะ เพื่อให้เราเรียนต่อ /ย่าเราทำอาชีพค้าขายค่ะ ขายไก่ทอด อร่อยมาก/
วันหยุดเราก็ไปช่วยท่านขายของล้างของให้
บางวันก็ขายไม่ดีข้าวเหนียวเหลือ เราก็ต้องถือเดินกลับบ้านเอง ฮืออ มันหนักมากค่ะ ร้อนมากด้วย แต่ก็เรื่องแค่นี้เองใช่ไหมละคะ  ทีนี้เราก็เลยตัวดำหน่อยๆ ก็เลยมีคนเรียกว่าอีดำตั้งแต่เด็กค่ะ  เราไม่ชอบให้ใครล้อเลยค่ะ  


เพราะโดนล้อตั้งแต่เด็ก เราเลยเข้าใจคนอื่นมากขึ้นค่ะ เราไม่ล้อคนอื่น และเข้าใจในจุดด้อยของคนอื่นค่ะ ถ้าโดนล้อก็แค่ไม่สนใจ แล้วทุกอย่างจะดีขึ้นเองค่ะ

พอเราเข้าเรียน ม.1 ย่าก็ให้ค่าขนม 60บาทค่ะ
จริงๆมันเยอะมากแล้วนะคะ ญาติๆก็พูดกันว่าเราสบายสุดแล้ว
คือย่าเรามีลูก 7 คน พ่อเราเป็นคนสุดท้องและเป็นลูกชายคนคนเดียวค่ะ
หลังจากเลิกกับแม่ พ่อเรามีคดีค่ะ ตอนนั้นพ่อก็ติดคุกพอออกมาสักพักก็มีคดีอีก รอบนี้เลยหนีไปหลบซ่อน ก็เลยไม่ได้อยู่ด้วยกัน /เราไม่ได้รังเกียจพ่อค่ะ เราเข้าใจในส่วนนี้/ แต่ทำไม? ตอนที่พ่อออกมาแล้วถึงไม่มาอยู่กับเรา ทำไมถึงไปหาเมียใหม่และมีครอบครัวใหม่ เห้อออ

มาต่อที่ค่าขนมค่ะ 60บาทตอนนั้นมันเยอะอยู่นะ แต่
เราต้องเสียค่ารถด้วยนะคะ ค่ารถโดยสารไปกลับ 16 ฿. ค่ารถวินมอเตอร์ไซค์ ไปกลับ 40 บาท
เราก็จะเหลือเงินใช้ 4฿. // เงิน 4฿ ตอนนั้นซื้อน้ำ 1ขวดยังไม่ได้เลยย


​ถ้าเราหิวจนทนไม่ไหว เผลอใช้เงินค่ารถไป ก็ต้องเดินกลับค่ะ อย่างน้อย1วันค่ารถบางวันจะเสียไปแค่ 36฿. ค่ะ เราก็จะมีเงินเหลือกินข้าว ส่วนตอนเย็นก็เดินกลับบ้านเฮา ไหนๆก็เดินจนชินอยู่แล้ว

ตอนนั้นก็เริ่มวัยรุ่น อายๆ เหมือนกันค่ะ เวลาเพื่อนถามว่า ไปกินข้าวกันไหม หรือชวนไปกินอ่ะไร เราก็จะอ้างว่าเราไม่หิว ไม่กล้าบอกว่าไม่มีเงิน กลัวโดนรังเกียจ พอหลังเพื่อนไป เราก็ไปเติมน้ำมากินจนอิ่มเลยค่ะ555ไม่รู้ว่ามีจิ้งจกรึป่าว
แต่บางวันเราก็ไปกินข้าวนะคะ ตอนนั้นขนมจีนมัน 10฿. เลย ออมๆไว้
จริงๆแล้วเรายังประหยัดได้โดยไม่ลำบากขนาดนั้นค่ะ พอดีลูกพี่ลูกน้องก็เรียนที่เดียวกันค่ะ แต่เขาชอบไป รร.สาย สายแบบโดนตี หรือทำให้เราโดนตัดคะแนนค่ะ เราเลยต้องยอมลำบากหน่อย อดทน พอกลับบ้านก็ได้กินอิ่มแล้วค่ะ อิอิ

ตอนช่วงเราวัยรุ่นก็จะมีปัญหาเรื่องโดนแอบมองเวลาอาบน้ำค่ะ เรากลัวมาก็ไม่กล้าบอกใคร


ไม่รู้ว่ามันเกี่ยวกันรึป่าว แต่เรากลายเป็นกลัวผู้ชายไปเลยค่ะ จนปัจจุบันนี้เราก็ไม่เคยคบผู้ชายเลยค่ะ


พอเราจบ ม.3 ก็ไม่เรียนต่อค่ะ เพราะย่าเราไม่ไหวแล้ว เราเลยออกมาเรียน กศน. แทนค่ะ
คือเราก็มีแฟนนะคะ พอตอน 17 ก็ได้ไปบ้านแฟน ได้ไปทำงานที่นั้น ทำงานโรงงานอยู่2ปีค่ะ
หลังจากนั้นย่าก็ เกิดอุบัติเหตุค่ะ แก็สรั่ว แล้วร้านระเบิดค่ะ ย่าปลอดภัยดีค่ะ แต่ของขายไม่ได้แล้ว ท่านก็แกมากแล้วด้วย ตอนนั้น อายุท่านก็น่าจะสัก 70แล้วค่ะ
เราเลยลาออกจากโรงงาน กลับบ้านมาพักนึง คือบ้านแฟนเราอยู่ภาคเหนือค่ะ บ้านเราอยู่ภาคใต้
หลังจากนั้นเราก็ลองขายของออนไลน์ดู ปรากฏว่ามันได้นะ เลยมาทางนี้ค่ะ ก็เลยพอมีเงินสร้างบ้านให้ย่าใหม่ บ้านเราตอนนั้นหลังคาสังกะสีมันร้อนมาก การสร้างบ้านให้พวกท่านคือความฝันของเราเลย พอฝนตกน้ำก็ท่วม พอแดดออก ก็ร้อนมาก
เราเลยสร้างบ้านเลยค่ะตอนนั้น พวกท่านก็ดีใจมาก
ญาติๆก็ชื่นชมว่าเราเก่ง เราโด่งดังมากค่ะตอนนั้นคือภูมิใจมาก. จริงๆเราก็ขี้อวดเหมือนกันนะคะว่าไหม?

พอหลังจากสร้างบ้านให้ท่าน เราก็มาสร้างบ้านที่บ้านแฟนอีกหลังค่ะ /ตอนนี้เราอายุ 28 แล้วค่ะ/ ก็ถือว่า มีพร้อมทุกอย่างแล้ว บ้าน รถ ไม่มีหนนี้สินแต่ไม่มีลูกนะคะ /ก็เราไม่ชอบผู้ชายจริงๆ ทุกวันนี้เลยเลี้ยงหมา/แมวไว้หลายตัวเลย/รักพวกเขามาก.

มีคนบอกว่า ทุนชีวิตเราไม่เท่ากัน อันนี้ไม่เถียงค่ะ
แต่อย่าใช้มันเป็นข้ออ้างที่จะไม่เดินหน้านะคะ




จริงๆชีวิตเรามันก็ไม่ไ​ด้ลำบากอะไรขนาดนั้น. แต่ก็ชอบไปคิด น้อยใจกับมันอยู่เรื่อย
เราไม่มีเพื่อนค่ะ คือไม่มีเลย เวลามีเรื่องอะไรก็คุยกับแฟนค่ะ เขาคอยปลอบโยนเรา มาตลอด 10กว่าปีแล้วค่ะ เราแทบจะไม่ทะเลาะกันเลยค่ะ ถึงทะเลาะก็จะพยายามงอนกันไม่ถึง 10นาที  เพราะส่วนตัวเราคิดว่าจะงอนกันนานทำไม เพราะอีเดี๋ยวก็ดีกันอยู่ดี มันเสียเวลาชีวิต..
//​พิมพ์ไปพิมพ์มา อวดแฟนเฉย

ก็ที่ระบายให้ฟังอยู่นี้ อยากจะบอกว่าเหรียญมันมี2ด้านเสมอ บางทีเราแค่อาจคิดแค่มุมมองของเราไง ตัวเราอาจแย่ด้วยแต่เราไม่รู้ไง
ญาติเราหรือลูกพี่ลูกน้องก็เคยดีกับเรานะ บางครั้งก็ดีมาก แต่เราแค่มองในมุมแย่ๆไง ทุกอย่างมันเลยออกมาเป็นแบบนี้
แต่ตอนนี้ก็เริ่มคิดได้ค่ะ ว่ามันไม่มีใครมาคอยเอาใจเราหรอก ใครๆก็สนใจแต่ชีวิตตัวเองทั้งนั้นแหละ
คือโลกไม่ได้หมุนรอบตัวเรา
พอมันได้ระบายก็รู้สึกเลยว่าที่เราชอบคิดเรื่องราวตอนเด็กอยู่เสมอนี่ มันไร้สาระมาก เรื่องมันก็ผ่านมาแล้ว มันก็ทำให้เราเติบโตได้ดีจริงๆ  อยากได้อะไรเราก็ควรหามาเอง แต่ตอนนั้นมันคิดไม่ได้ค่ะ พอได้อ่านคอมเม้นจากกระทู้ที่แล้ว ก็ทำให้ตื่นเหมือนกันนะคะ ดีจังค่ะ ดีใจจริงๆ
แต่มีอยู่เรื่องนึงที่เราลืมไม่ได้จริงๆ คือตอนที่เราวิ่งตามรถแม่ เราฝันถึงมันบ่อยๆ มันอาจเป็นปมของเราก็ได้ เราก็ต้องอยู่กับมัน

.. ถ้าเราท้อแท้อีกเมื่อไหร่ หรือคิดถึงเรื่องอดีตอีกเมื่อไหร่ เราจะมาคอยอ่านคอมเม้นของพวกคุณนะคะ
ขอบคุณที่คุณผ่านมาอ่านข้อความของเราค่ะ
เรา​ขอให้ทุกคนใช้ชีวิตให้มีความสุขนะคะ
เหมือนที่พวกคุณคอยเป็นกำลังให้กับเราคนนี้..
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่