ความเดิมตอนที่แล้ว EP1 :
Phu Quoc ฟูก๊วก 3D2N แบบไม่อวย EP1 EP2 :
Phu Quoc ฟูก๊วก 3D2N แบบไม่อวย EP2
Day 3 : Hon Thom cable car, PQC-BKK
วันสุดท้ายของทริป Phu Quoc เก็บของเรียบร้อย 7.30 เรา Check Out และไปทานอาหารเช้าที่ Times Conner ที่โรงแรมจัดให้เหมือนเดิมครับ วันนี้ผมสั่ง เฝอไก่ อร่อยอยู่ครับ เมนูพิเศษประจำวันนี้คือสตูเนื้อ กับขนมปัง ซึ่งอันนี้อร่อยมาก

จากนั้นเราเดินไปขึ้น Cable Car ที่จะพาเราไปเกาะ Hon Thom ซึ่งที่นั้นมีสวนน้ำ และสวนสนุกเล็กๆ เดินจากโรงแรมไป 400 เมตร มองหาอาคารที่เหมือ Colosseum ในกรุงโรม

ทางเข้ามีหลายทาง จะเข้าจากชั้นบนที่ใกล้ๆจุดชมวิว Kiss bridge ที่เป็นระเบียงโค้งก็ได้ หรือจะขึ้นบันไดเลื่อนจากชั้นล่างก็ได้ เดินตามป้าย Cable car ได้เลย ภายในอาคารก็ตกแต่งและมีภาพวาดแบบโรมัน

ค่าตั๋วราคา 700,000 VND สามารถใช้ บัตรเครดิตจ่ายได้ ไม่มีค่าธรรมเนียมรูดบัตร JCB, UnionPay ก็รับครับ ที่จริงจะจองผ่าน Klook ก็ได้แต่หากจองกระชั้นชิดจะมีให้เลือกแค่แบบที่รวมอาหารด้วย ซึ่งพวกเราไม่ต้องการ
Cable car นี้เปิดให้บริการ 2 เวลา 9.00-11.30 และ 13.30-17.00 ซึ่งพวกเรา เลือกที่จะกลับ 11.30 เพื่อที่จะได้ทานอาหารกลางวันที่เกาะหลัก และนั่งรถไปสนามบิน เพื่อรอขึ้นเครื่อง 16.45 ต่อไป และตั๋วขึ้นกระเช้านี้สามารถเอาไปเป็นตั๋วเข้าสะพาน Kiss bridge ที่ Phu quoc ได้อีกด้วย

วิวส่วนใหญ่เป็นหมู่บ้าน ภูเขา ทะเลสวยๆ มีเรือประมง และฟาร์มไข่มุก

ที่นี้คือกระเช้า cable car ที่ยาวที่สุดในโลก ใช้เวลาต่อเที่ยวประมาณ 15 นาที กระเช้าขนาดใหญ่ครับสามารถจุคนได้หลายคน ถ้าเอาแน่นๆก็น่าจะถึง 20 คนได้ แต่ที่ผมนั่งมามี 16 คน

มาถึงสถานีปลายทางจะเจอเค้าเตอร์ให้เราซื้อภาพที่เราถ่ายก่อนขึ้นกระเช้า ราคาเท่าไรผมจำไม่ได้แล้ว เดินตามทางมาลงบันไดเลื่อน ก็เข้าสู่พื้นที่ของเกาะอย่างเป็นทางการ

ต้องขอบอกว่าเวลา 9.30 บนเกาะนี้ ร้อนมากกกกกก ร้อนแสบผิว แดดแสบตาที่สุดใน 3 วันของทริปนี้อย่าลืมครีม และแว่นกันแดดมาด้วยนะครับ
Highlight อีกอย่างของเกาะนี้คือเครื่องนี้ครับ ตอนแรกผมคิดว่าเป็นเครื่องเล่นที่เอาเราขึ้นไปแล้วตกลงมา แต่มันคือหอคอยชมวิวครับ คล้ายๆกับเครื่องเล่นที่ผมว่าไป แต่มันจะค่อยๆขึ้น ค่อยๆลงช้าๆ และหมุนรอบตัวเองให้เราเห็นวิวทั่วเกาะ

ภาพวิวจากเครื่องนี้ครับ
รถไฟเหาะนี้ สนุกครับแนะนำให้เล่น มันเร็วมาก แต่ไม่มีช่วงหวาดเสียวแบบหล่นหักมุมเยอะๆ แบบนั้นไม่มี คนที่ชอบเหวี่ยงแรงๆ กระชากไปมาน่าจะชอบเครื่องนี้ครับ ตอนแรกต่อแถวก็คิดว่าไม่น่าสนุกเพราะไม่มีใครกรี๊ดเลย แต่พอไปเล่นทุกคนกรี๊ดครับ แต่รถไฟมันเสียงดังมากคนข้างล่างเลยไม่ได้ยิน ตื่นเต้นดีครับ

โครงการนี้เหมือนยังไม่เสร็จ 100% ยังมีการก่อสร้างรอบๆอีกเยอะ น่าจะอีกไม่น่าน่าจะเริ่มเข้าใช้งานได้

ยังมีเครื่องเล่นอีกหลายอย่างที่ผมไม่ได้ถ่ายเก็บไว้ แต่โดยรวมที่นี้น่าสนใจครับสามารถเที่ยวได้เกือบทั้งวันหากมีชุดว่ายน้ำมาเล่นสวนน้ำด้วยน่าจะคุ้มครับ
เดินเล่นกันมาเหนื่อยๆแล้วแวะซื้อกาแฟสักหน่อยไปสะดุดตากับ กาแฟรังนก ราคา 40,000 VND อร่อยมากครับเป็นรสแปลกใหม่ จนเพื่อนต้องไปซื้อมาอีกแก้ว ร้านอยู่ใกล้ๆ ทางเข้าหลักที่เราลงบันไดเลื่อนมา

อีกของแปลกที่เจอคือ Oreo เอ้ย!!! Origo .... ยืนอ่านอยู่สักพักพวกเราเลยตัดสินใจซื้อมากินสรุปไม่เหมือน Oreo เลยครับ เป็นแท่งบิสกิต ดิปกับครีมนม แต่ก็อร่อยดีครับ

ถึงเวลา 11.30 รีบขึ้น Cable car เกือบไม่ทันก่อนเขาปิดรอบ Say good bye เกาะ Hon Thom

พวกเราไปทานมื้อเที่ยงที่ร้าน
พิกัดร้าน WOW QUÊ TÔI อยู่ถัดจากร้านวันแรกที่เราไป ร้านนี้โต๊ะเก้าอี้เป็นไม้ไผ่ อาเจ๊ เจ้าของร้านหรือผู้จัดการร้านไม่ทราบพูดภาษาอังกฤษเก่งมาก ระหว่างที่เรากินมีทัวร์เกาหลีที่จองโต๊ะไว้เข้ามาด้วย แสดงว่าน่าจะอร่อยจริง เฝอเนื้อของร้านนี้อร่อยที่สุดในทริปนี้ ผมสั่ง spring roll กุ้ง และชุดออเดิฟสำหรับ 2 คน มีหมูทอด หมูชิ้นต้ม ไส้อั่ว เต้าหู้ทอด เส้นขนมจีน และผักสด ชุดนี้ก็อร่อยมากครับ ของเพื่อนสั่งเป็น ซุปหมูอะไรสักอย่างเสริฟคู่กับเส้นขนมจีน จานนี้ก็อร่อย สรุปร้านนี้อร่อยทุกอย่างเทียบกับราคาแล้วเอาไป 5 ดาว หารมาแล้วของผมคนเดียวที่กินเยอะหน่อยอยู่ที่ 120,000 VND

ปิดท้ายด้วย ice cream จากที่ร้านราคา 18,000 VND กะจะกินรส Matcha แต่คิดไปคิดมา เราต้องลองกินรสที่ประเทศไทยไม่ค่อยมีสิ ผมแนะนำรส COM (Rice Flake) สีเขียว อร่อยครับหอมหวานแปลกดี ส่วนอีกแท่งสีม่วงรสเผือก ก็เผือกทั้วไปครับ

ก่อนกลับไปรับกระเป๋าที่ฝากไว้ที่โรงแรม เราแวะไปที่ร้าน Supermarket ร้านโปรด ร้าน Vietnam Select ร้านเดิม ซื้อน้ำ ขนม ของฝากครั้งสุดท้าย ก่อนไปสนามบิน
Tropicana Twister ไม่เห็นในไทยมานานมากแล้วผมเลยซื้อมาชิมย้อนความจำสักหน่อยราคา 11,000 VND
เดินทางจากโรงแรมไปสนามบิน ด้วยพี่ Grab รถ BYD คนเดิม ผมดีลได้ที่ราคา 250,000 VND หากเป็น Grab ตอนนั้นราคา 285,000 VND หรือถ้ารถของโรงแรมก็ 300,000 VND ใช้เวลาประมาณ 35-40 นาที ถึงสนามบิน
สิ่งหนึ่งที่ผมวางแผนพลาดคือ เราไม่สามารถทำ Online check in ได้ เพราะเว็ปสายการบินไม่รองรับ Flight ที่บินจาก Phu Quoc เขาจะรองรับเฉพาะเมืองใหญ่
แผน 2 คือ Check in ผ่านเครื่องอัตโนมัติ หรือ Kios ผมคิดว่า VietJet ใน Vietnam ก็ต้องทำได้สิ ซึ่งได้ครับรอบรับ แต่เครื่องพังทุกเครื่อง
ทำให้ต้องมาต่อแถวนานพอสมควรถึงแม้เราไม่ต้อง Load กระเป๋าก็ตาม แถวของเราส่วนใหญ่เป็นฝรั่ง กับคนเวียดนามครับ ส่วนอีกแถวที่ยาวๆพอกันเป็น flight ที่บินไป Incheon ของทัวร์เกาหลีครับ

เวลา 16.45 เครื่องออกตรงเวลา และถึงที่หมาย สุวรรณภูมิ อย่างปลอดภัย
ข้อสังเกตุ และความเห็นส่วนตัว
1. สายการบินทั้ง Airasia และ VietJet ประกาศห้ามใช้ Power Bank เหมือนสายการบินอื่นๆแล้ว
2. คนเวียดนามพอพูดภาษาอังกฤษได้ แต่ไม่ใช่ทุกคน สื่อสารด้วยภาษาอังกฤษง่ายๆ อย่าใช้ประโยคยาวๆ เน้นเข้าใจเป็นพอ 1 Water please
3. Grab ลองขอ Line, WeChat หรือ WhatsApp เขาดูเผื่อเรียกใช้บริการเป็นการส่วนตัวได้ ราคาจะถูกกว่า App
4. ร้านค้าที่นี้มักจะขายเหมือนๆกัน นวด กาแฟ ที่ระลึก น้ำปั่น ไอติมผัด ซีฟูด เฝอ อาหารเกาหลี
5. ซื้อน้ำ ซื้อขนม จาก Supermarket ใหญ่ราคาถูกกว่า
6. หากต้องการแลกเงินสดมองหาร้าน Jewelry หากไม่มี ให้มองหาร้าน Minimart ที่มีสัญลักษณ์ $ แปลว่าเขาให้แลกเงิน
6.1 หากต้องแลกเงิน สามารถเตรียม USD ไปแลกได้ อาจจะคุ้มกว่าแลก VND ที่ไทยด้วยซ้ำ หากคุณมี 100 USD สภาพใหม่ ได้ราคาสูงสุดที่ผมเจอ 26,000 VND คิดเป็น 0.001303 THB หรือหากเอาเงินบาทไป ให้เตรียม 1,000 หรือ 500 บาท เพราะธนบัตรใบเล็กบางร้านไม่รับ หรือถูกกดราคา
7. เมืองนี้เหมาะกับการถ่ายรูป ติดแกรม แต่มุมถ่ายก็จะได้วิวที่ค่อนข้างซ้ำ คือตึกสีส้นสดใส
8. หลายจุดในเมืองยังเป็นที่ก่อสร้าง ร้างจากการเช่าทำกิจการ บรรยากาศเหงาๆ
9. สวนสนุก เครื่องเล่นหลากหลาย แต่ไม่หวาดเสียว เล่นได้ไม่สุด
10. บริเวณ Phu Quoc Night Market ตอนกลางของเกาะ เป็นแหลงที่คนท้องถิ่นอาศัยอยู่กันจริงๆ เห็นโรงเรียน สถานที่ราชการ หากอยากเห็นวิถี Local พักแถวนี้ก็เป็นทางเลือกที่ดี
11. การรีวิวนี้ เรายังไม่ได้ไปหลายที่ เช่นดำน้ำดูปลาดาว หรือเที่ยวในโซนกลางของเกาะ เป็นต้น
12. งบที่ผมใช้ในทริปนี้ (ผมคนเดียว) 10,144 บาท
สรุปความเห็นส่วนตัว
เที่ยว Phu Quoc ครั้งนี้คงเป็นครั้งแรกและครั้งเดียวพอครับ ผมเป็นคนไม่ค่อยชอบถ่ายรูปตัวเองมากเท่าไร และสวนสนุกก็ไม่ได้สนุกตามที่คาดหวังไว้ บ้านเมืองยังคงดูเหงาๆ คงต้องรอต่อไปหลังจากสร้างเสร็จ 100% จะเป็นอย่างไร ร้านค้าที่เหมือนๆกันจะมีอะไรสร้างสรรค์ที่ไม่ทำให้มองไปทางไหนก็เจอร้านเดิมๆ ในราคา หมืนกว่าบาทนี้ผมคิดว่าสามารถเที่ยวที่อื่น หรือ แม้ในไทย ได้สนุกกว่านี้ แต่หากมีตั๋วโปรราคาถูก หรือโรงแรมลดราคา (โรงแรมที่ได้มาก็ถูกแล้วนะ) ก็อาจจะมาอีกแค่เปลี่ยนบรรยากาศ แต่เพื่อนร่วมทริปนี้บอกว่าที่โฮจิมินดีกว่านี้เยอะไว้จะไปแก้มือครับ ขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามรีวิวทั้ง 3 EP ทริปหน้าจะไปเที่ยวที่ไหนรอติดตามได้เลยครับ แอบบอกว่าเป็นเมืองใหญ่ในเอเชีย ขอบคุณมากครับ
ปล. พวกเรากลับถึงไทยวันที่ 27 มีนาคม เช้าวันที่ 28 มีนาคม (วันที่แผ่นดินไหว) พวกเราทุกคนมีอาการป่วย มีไข้ ปวดท้อง ท้องเสีย ตาปูดบวม ส่วนผมตอนนี้ถ่ายเหลวติดต่อกันถึงวันที่ 30 แล้วครับ อาการค่อยๆดีขึ้น ยังไม่อยากฟันธงว่าเป็นเพราะอาหารเวียดนาม แนะนำทุกท่านเลือกร้านที่สะอาดปรุงสดใหม่นะครับป้องกันไว้ก่อน ขอบคุณครับ
[CR] Phu Quoc ฟูก๊วก 3D2N แบบไม่อวย EP3
Day 3 : Hon Thom cable car, PQC-BKK
วันสุดท้ายของทริป Phu Quoc เก็บของเรียบร้อย 7.30 เรา Check Out และไปทานอาหารเช้าที่ Times Conner ที่โรงแรมจัดให้เหมือนเดิมครับ วันนี้ผมสั่ง เฝอไก่ อร่อยอยู่ครับ เมนูพิเศษประจำวันนี้คือสตูเนื้อ กับขนมปัง ซึ่งอันนี้อร่อยมาก
จากนั้นเราเดินไปขึ้น Cable Car ที่จะพาเราไปเกาะ Hon Thom ซึ่งที่นั้นมีสวนน้ำ และสวนสนุกเล็กๆ เดินจากโรงแรมไป 400 เมตร มองหาอาคารที่เหมือ Colosseum ในกรุงโรม
ทางเข้ามีหลายทาง จะเข้าจากชั้นบนที่ใกล้ๆจุดชมวิว Kiss bridge ที่เป็นระเบียงโค้งก็ได้ หรือจะขึ้นบันไดเลื่อนจากชั้นล่างก็ได้ เดินตามป้าย Cable car ได้เลย ภายในอาคารก็ตกแต่งและมีภาพวาดแบบโรมัน
ค่าตั๋วราคา 700,000 VND สามารถใช้ บัตรเครดิตจ่ายได้ ไม่มีค่าธรรมเนียมรูดบัตร JCB, UnionPay ก็รับครับ ที่จริงจะจองผ่าน Klook ก็ได้แต่หากจองกระชั้นชิดจะมีให้เลือกแค่แบบที่รวมอาหารด้วย ซึ่งพวกเราไม่ต้องการ
Cable car นี้เปิดให้บริการ 2 เวลา 9.00-11.30 และ 13.30-17.00 ซึ่งพวกเรา เลือกที่จะกลับ 11.30 เพื่อที่จะได้ทานอาหารกลางวันที่เกาะหลัก และนั่งรถไปสนามบิน เพื่อรอขึ้นเครื่อง 16.45 ต่อไป และตั๋วขึ้นกระเช้านี้สามารถเอาไปเป็นตั๋วเข้าสะพาน Kiss bridge ที่ Phu quoc ได้อีกด้วย
วิวส่วนใหญ่เป็นหมู่บ้าน ภูเขา ทะเลสวยๆ มีเรือประมง และฟาร์มไข่มุก
ที่นี้คือกระเช้า cable car ที่ยาวที่สุดในโลก ใช้เวลาต่อเที่ยวประมาณ 15 นาที กระเช้าขนาดใหญ่ครับสามารถจุคนได้หลายคน ถ้าเอาแน่นๆก็น่าจะถึง 20 คนได้ แต่ที่ผมนั่งมามี 16 คน
มาถึงสถานีปลายทางจะเจอเค้าเตอร์ให้เราซื้อภาพที่เราถ่ายก่อนขึ้นกระเช้า ราคาเท่าไรผมจำไม่ได้แล้ว เดินตามทางมาลงบันไดเลื่อน ก็เข้าสู่พื้นที่ของเกาะอย่างเป็นทางการ
ต้องขอบอกว่าเวลา 9.30 บนเกาะนี้ ร้อนมากกกกกก ร้อนแสบผิว แดดแสบตาที่สุดใน 3 วันของทริปนี้อย่าลืมครีม และแว่นกันแดดมาด้วยนะครับ
Highlight อีกอย่างของเกาะนี้คือเครื่องนี้ครับ ตอนแรกผมคิดว่าเป็นเครื่องเล่นที่เอาเราขึ้นไปแล้วตกลงมา แต่มันคือหอคอยชมวิวครับ คล้ายๆกับเครื่องเล่นที่ผมว่าไป แต่มันจะค่อยๆขึ้น ค่อยๆลงช้าๆ และหมุนรอบตัวเองให้เราเห็นวิวทั่วเกาะ
ภาพวิวจากเครื่องนี้ครับ
รถไฟเหาะนี้ สนุกครับแนะนำให้เล่น มันเร็วมาก แต่ไม่มีช่วงหวาดเสียวแบบหล่นหักมุมเยอะๆ แบบนั้นไม่มี คนที่ชอบเหวี่ยงแรงๆ กระชากไปมาน่าจะชอบเครื่องนี้ครับ ตอนแรกต่อแถวก็คิดว่าไม่น่าสนุกเพราะไม่มีใครกรี๊ดเลย แต่พอไปเล่นทุกคนกรี๊ดครับ แต่รถไฟมันเสียงดังมากคนข้างล่างเลยไม่ได้ยิน ตื่นเต้นดีครับ
โครงการนี้เหมือนยังไม่เสร็จ 100% ยังมีการก่อสร้างรอบๆอีกเยอะ น่าจะอีกไม่น่าน่าจะเริ่มเข้าใช้งานได้
ยังมีเครื่องเล่นอีกหลายอย่างที่ผมไม่ได้ถ่ายเก็บไว้ แต่โดยรวมที่นี้น่าสนใจครับสามารถเที่ยวได้เกือบทั้งวันหากมีชุดว่ายน้ำมาเล่นสวนน้ำด้วยน่าจะคุ้มครับ
เดินเล่นกันมาเหนื่อยๆแล้วแวะซื้อกาแฟสักหน่อยไปสะดุดตากับ กาแฟรังนก ราคา 40,000 VND อร่อยมากครับเป็นรสแปลกใหม่ จนเพื่อนต้องไปซื้อมาอีกแก้ว ร้านอยู่ใกล้ๆ ทางเข้าหลักที่เราลงบันไดเลื่อนมา
อีกของแปลกที่เจอคือ Oreo เอ้ย!!! Origo .... ยืนอ่านอยู่สักพักพวกเราเลยตัดสินใจซื้อมากินสรุปไม่เหมือน Oreo เลยครับ เป็นแท่งบิสกิต ดิปกับครีมนม แต่ก็อร่อยดีครับ
ถึงเวลา 11.30 รีบขึ้น Cable car เกือบไม่ทันก่อนเขาปิดรอบ Say good bye เกาะ Hon Thom
พวกเราไปทานมื้อเที่ยงที่ร้าน พิกัดร้าน WOW QUÊ TÔI อยู่ถัดจากร้านวันแรกที่เราไป ร้านนี้โต๊ะเก้าอี้เป็นไม้ไผ่ อาเจ๊ เจ้าของร้านหรือผู้จัดการร้านไม่ทราบพูดภาษาอังกฤษเก่งมาก ระหว่างที่เรากินมีทัวร์เกาหลีที่จองโต๊ะไว้เข้ามาด้วย แสดงว่าน่าจะอร่อยจริง เฝอเนื้อของร้านนี้อร่อยที่สุดในทริปนี้ ผมสั่ง spring roll กุ้ง และชุดออเดิฟสำหรับ 2 คน มีหมูทอด หมูชิ้นต้ม ไส้อั่ว เต้าหู้ทอด เส้นขนมจีน และผักสด ชุดนี้ก็อร่อยมากครับ ของเพื่อนสั่งเป็น ซุปหมูอะไรสักอย่างเสริฟคู่กับเส้นขนมจีน จานนี้ก็อร่อย สรุปร้านนี้อร่อยทุกอย่างเทียบกับราคาแล้วเอาไป 5 ดาว หารมาแล้วของผมคนเดียวที่กินเยอะหน่อยอยู่ที่ 120,000 VND
ปิดท้ายด้วย ice cream จากที่ร้านราคา 18,000 VND กะจะกินรส Matcha แต่คิดไปคิดมา เราต้องลองกินรสที่ประเทศไทยไม่ค่อยมีสิ ผมแนะนำรส COM (Rice Flake) สีเขียว อร่อยครับหอมหวานแปลกดี ส่วนอีกแท่งสีม่วงรสเผือก ก็เผือกทั้วไปครับ
ก่อนกลับไปรับกระเป๋าที่ฝากไว้ที่โรงแรม เราแวะไปที่ร้าน Supermarket ร้านโปรด ร้าน Vietnam Select ร้านเดิม ซื้อน้ำ ขนม ของฝากครั้งสุดท้าย ก่อนไปสนามบิน
Tropicana Twister ไม่เห็นในไทยมานานมากแล้วผมเลยซื้อมาชิมย้อนความจำสักหน่อยราคา 11,000 VND
เดินทางจากโรงแรมไปสนามบิน ด้วยพี่ Grab รถ BYD คนเดิม ผมดีลได้ที่ราคา 250,000 VND หากเป็น Grab ตอนนั้นราคา 285,000 VND หรือถ้ารถของโรงแรมก็ 300,000 VND ใช้เวลาประมาณ 35-40 นาที ถึงสนามบิน
สิ่งหนึ่งที่ผมวางแผนพลาดคือ เราไม่สามารถทำ Online check in ได้ เพราะเว็ปสายการบินไม่รองรับ Flight ที่บินจาก Phu Quoc เขาจะรองรับเฉพาะเมืองใหญ่
แผน 2 คือ Check in ผ่านเครื่องอัตโนมัติ หรือ Kios ผมคิดว่า VietJet ใน Vietnam ก็ต้องทำได้สิ ซึ่งได้ครับรอบรับ แต่เครื่องพังทุกเครื่อง
ทำให้ต้องมาต่อแถวนานพอสมควรถึงแม้เราไม่ต้อง Load กระเป๋าก็ตาม แถวของเราส่วนใหญ่เป็นฝรั่ง กับคนเวียดนามครับ ส่วนอีกแถวที่ยาวๆพอกันเป็น flight ที่บินไป Incheon ของทัวร์เกาหลีครับ
เวลา 16.45 เครื่องออกตรงเวลา และถึงที่หมาย สุวรรณภูมิ อย่างปลอดภัย
ข้อสังเกตุ และความเห็นส่วนตัว
1. สายการบินทั้ง Airasia และ VietJet ประกาศห้ามใช้ Power Bank เหมือนสายการบินอื่นๆแล้ว
2. คนเวียดนามพอพูดภาษาอังกฤษได้ แต่ไม่ใช่ทุกคน สื่อสารด้วยภาษาอังกฤษง่ายๆ อย่าใช้ประโยคยาวๆ เน้นเข้าใจเป็นพอ 1 Water please
3. Grab ลองขอ Line, WeChat หรือ WhatsApp เขาดูเผื่อเรียกใช้บริการเป็นการส่วนตัวได้ ราคาจะถูกกว่า App
4. ร้านค้าที่นี้มักจะขายเหมือนๆกัน นวด กาแฟ ที่ระลึก น้ำปั่น ไอติมผัด ซีฟูด เฝอ อาหารเกาหลี
5. ซื้อน้ำ ซื้อขนม จาก Supermarket ใหญ่ราคาถูกกว่า
6. หากต้องการแลกเงินสดมองหาร้าน Jewelry หากไม่มี ให้มองหาร้าน Minimart ที่มีสัญลักษณ์ $ แปลว่าเขาให้แลกเงิน
6.1 หากต้องแลกเงิน สามารถเตรียม USD ไปแลกได้ อาจจะคุ้มกว่าแลก VND ที่ไทยด้วยซ้ำ หากคุณมี 100 USD สภาพใหม่ ได้ราคาสูงสุดที่ผมเจอ 26,000 VND คิดเป็น 0.001303 THB หรือหากเอาเงินบาทไป ให้เตรียม 1,000 หรือ 500 บาท เพราะธนบัตรใบเล็กบางร้านไม่รับ หรือถูกกดราคา
7. เมืองนี้เหมาะกับการถ่ายรูป ติดแกรม แต่มุมถ่ายก็จะได้วิวที่ค่อนข้างซ้ำ คือตึกสีส้นสดใส
8. หลายจุดในเมืองยังเป็นที่ก่อสร้าง ร้างจากการเช่าทำกิจการ บรรยากาศเหงาๆ
9. สวนสนุก เครื่องเล่นหลากหลาย แต่ไม่หวาดเสียว เล่นได้ไม่สุด
10. บริเวณ Phu Quoc Night Market ตอนกลางของเกาะ เป็นแหลงที่คนท้องถิ่นอาศัยอยู่กันจริงๆ เห็นโรงเรียน สถานที่ราชการ หากอยากเห็นวิถี Local พักแถวนี้ก็เป็นทางเลือกที่ดี
11. การรีวิวนี้ เรายังไม่ได้ไปหลายที่ เช่นดำน้ำดูปลาดาว หรือเที่ยวในโซนกลางของเกาะ เป็นต้น
12. งบที่ผมใช้ในทริปนี้ (ผมคนเดียว) 10,144 บาท
สรุปความเห็นส่วนตัว
เที่ยว Phu Quoc ครั้งนี้คงเป็นครั้งแรกและครั้งเดียวพอครับ ผมเป็นคนไม่ค่อยชอบถ่ายรูปตัวเองมากเท่าไร และสวนสนุกก็ไม่ได้สนุกตามที่คาดหวังไว้ บ้านเมืองยังคงดูเหงาๆ คงต้องรอต่อไปหลังจากสร้างเสร็จ 100% จะเป็นอย่างไร ร้านค้าที่เหมือนๆกันจะมีอะไรสร้างสรรค์ที่ไม่ทำให้มองไปทางไหนก็เจอร้านเดิมๆ ในราคา หมืนกว่าบาทนี้ผมคิดว่าสามารถเที่ยวที่อื่น หรือ แม้ในไทย ได้สนุกกว่านี้ แต่หากมีตั๋วโปรราคาถูก หรือโรงแรมลดราคา (โรงแรมที่ได้มาก็ถูกแล้วนะ) ก็อาจจะมาอีกแค่เปลี่ยนบรรยากาศ แต่เพื่อนร่วมทริปนี้บอกว่าที่โฮจิมินดีกว่านี้เยอะไว้จะไปแก้มือครับ ขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามรีวิวทั้ง 3 EP ทริปหน้าจะไปเที่ยวที่ไหนรอติดตามได้เลยครับ แอบบอกว่าเป็นเมืองใหญ่ในเอเชีย ขอบคุณมากครับ
ปล. พวกเรากลับถึงไทยวันที่ 27 มีนาคม เช้าวันที่ 28 มีนาคม (วันที่แผ่นดินไหว) พวกเราทุกคนมีอาการป่วย มีไข้ ปวดท้อง ท้องเสีย ตาปูดบวม ส่วนผมตอนนี้ถ่ายเหลวติดต่อกันถึงวันที่ 30 แล้วครับ อาการค่อยๆดีขึ้น ยังไม่อยากฟันธงว่าเป็นเพราะอาหารเวียดนาม แนะนำทุกท่านเลือกร้านที่สะอาดปรุงสดใหม่นะครับป้องกันไว้ก่อน ขอบคุณครับ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้