ชีวิตทำงานในยุคนี้!! ทำไมเหนื่อยขนาดนี้ บทความสะท้อนความรู้สึกในการทำงาน

สวัสดีครับ ในกระทู้นี้ผมจะมาเล่าเรื่องราวของชีวิตการทำงานในยุคปัจจุบัน เคยสงสัยกันไหมครับว่า ทำไมทุกวันนี้งานที่เราทำกันอยู่เนี่ย ทำไมมันถึงเหนื่อยเหลือเกิน? เรากำลังเจอกับอะไรอยู่? แล้วเราจะให้กำลังใจตัวเองอย่างไร? 
ถ้าคุณกำลังรู้สึกหมดไฟ หรือเหนื่อยกับงาน  เมื่อเราพูดถึงงาน ในยุคปัจจุบัน สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไป จากอดีตที่ผ่านมา ก็คือ 
งานในยุคนี้ ไม่ได้จบแค่ เรามาทำงานตอน 9 โมงเช้าถึง 5 โมงเย็น แล้วกลับบ้าน

                  หลายคนต้องทำงานเกินเวลา หรือแม้กระทั่งบางคนก็อาจจะต้อง Work from Home แต่ work from home ที่ว่าเนี่ย ก็ไม่ได้สบายอย่างที่คิดนะครับ เพราะว่า การทำงานในลักษณะนี้มันไม่ได้ถูกยึดโยงกับการแสตมป์ เวลา เข้างานนี่ครับ นั่นหมายความว่าคุณจะได้เวลาทำงานที่ไร้ขีดจำกัด บางคนทำงานตั้งแต่เช้า จนถึงเที่ยงคืน บางคนหนักหน่อย ทำข้ามคืนไปจนถึงเช้าวันใหม่เลยก็มี ซึ่งมันก็หมายความว่า การที่คุณ work from home อยู่ที่บ้าน โดยที่คนที่ทำงาน หรือหัวหน้าของคุณ ไม่ได้มานั่งอยู่กับคุณเนี่ย มันไม่ได้แปลว่างานที่คุณทำอยู่ มันลดน้อยลง มิหนำซ้ำ  เทคโนโลยีสมัยใหม่ อย่าง Line facebook , Google Meet หรือโปรแกรมอื่น ๆ อีกมากมาย มันทำให้เราสื่อสารกันง่ายขึ้น โลกใบเดิมของเรามันไม่ได้กว้างอีกต่อไป  เลยทำให้เรา
"ตัดขาดจากงาน" ได้ยากขึ้น 
                ยิ่งการทำงานในปี 2025 นี้ มี AI เข้ามาพัวพันกับชีวิตของเรา มากขึ้นไม่ว่าจะเป็น Chat gpt , Deep seek เนี่ย แค่เราสั่งให้มันทำอะไรบางอย่าง เช่น เขียนรายงาน หรือวาดภาพ หรือคำนวณอะไรสักอย่าง เราสั่งงานมันแค่ไม่กี่บรรทัด มันตอบให้เสร็จเรียบร้อย พร้อมมีข้อมูลอ้างอิงประกอบ ข้อมูลที่มันเขียนออกมาให้ ก็เป็นข้อมูลที่มีคุณภาพด้วย เลยเป็นอีกเหตุผลที่ทำให้หลายคนกังวลเรื่องความมั่นคงในอาชีพ โดยเฉพาะคนที่ทำงานเป็นพนักงาน office นะครับ 
🔥 ดังนั้น จากเหตุผลที่ได้กล่าวไป มันจึงเป็นคำถามในใจของเราต่อว่า ทำไมเราถึงรู้สึกเหนื่อยกับงานขนาดนี้?
หลายคนรู้สึก Burnout หรือ เกิดภาวะหมดไฟในการทำงาน เพราะแรงกดดันจากงานที่มากขึ้น แต่เงินเดือนยังเท่าเดิม ทุกวันนี้ ทองขึ้นไป สี่หมื่น ใกล้จะแตะห้าหมื่นแล้ว ลำพังเงินเดือนเราเดือนเดียวเนี่ย ไม่มีทางซื้อทองเก็บไว้ได้เลย 
ไหนจะเป็นค่าครองชีพที่สูงขึ้น ข้าวของแพง รายได้ไม่พอใช้ ทำให้หลายคนต้องดิ้นรนทำงานหนักมากขึ้นไปอีก บางคนทำงานประจำเสร็จ ถอดชุด สวมหมวก ขับแกร็ป ขับไรเดอร์ ในวันหยุด บางคนไม่มีรถ ก็ออกไปหาทำเลขายของตามตลาดนัด เต็มไปหมด เพื่อความอยู่รอด เพราะเงินที่ได้มันไม่พอ กับสิ่งที่ต้องจ่ายออกไป 
🌿 แล้วเราจะทำยังไงดีล่ะ? ในเรื่องของการทำงาน สิ่งที่คุณจะทำได้เพื่อให้ชีวิตของคุณ หรืออย่างน้อยนะครับ จิตใจของคุณได้รู้สึกดีขึ้นบ้าง นั่นก็คือ

                    ✅ การให้เวลากับตัวเอง – คุณอย่าทุ่มเทให้กับงานจนลืมดูแลสุขภาพของตัวเอง สุขภาพที่ผมหมายถึง คือ สุขภาพกาย และสุขภาพใจนะครับ ในยุคสมัยนี้ คุณเชื่อไหม คนหาจิตแพทย์เยอะมาก เพราะผลพวงจากความเครียดที่เกิดขึ้นจากการทำงาน และไม่ใช่แค่นี้นะครับ บางคนอาจถึงขั้นเป็นโรคร้ายตั้งแต่อายุยังน้อย เพราะเกิดจากความเครียดสะสม จากการทำงานก็มีอยู่เยอะครับ 
                      เพราะฉะนั้น คุณควรหาเวลามองตัวเองบ้าง อาจจะหาเวลาทำในสิ่งที่ชอบ กินของที่ช่วยรักษาสุขภาพของคุณ ทำตัวคุณให้มีความสุข
แล้ว ลด ละ เลิก งานของคุณเอาไว้ พักมันไว้ก่อน หัวหน้า หรือเจ้านายโทรมาในยามวิกาล หรือเวลาที่เราจะพักผ่อน ก็ไม่ต้องไปรับสาย ปล่อยให้เค้าเครียดกับงานไปคนเดียวนั่นแหละ
                       แล้วในระหว่างนี้ คุณก็ใช้เวลาที่มี ไปกับการรักษาใจ รักษากายของคุณ แล้วค่อยปรับโหมดอารมณ์ของคุณ เพื่อกลับไปสู้รบต่อกับงานที่บ้าคลั่งต่อไป อย่าให้งานมาเบียดเบียนเวลาส่วนตัวของคุณ อย่ารอให้ร่างกายส่งสัญญาณเตือนก่อนจะเริ่มดูแลตัวเอง   
                    ✅ คุณต้องนึกถึงคุณค่าที่อยู่ในตัวคุณเอง – งานเป็นแค่ส่วนหนึ่งของชีวิต แต่ไม่ใช่ทั้งหมดของชีวิต คุณทำงานเพื่ออะไร คุณทำงานเพื่อเงิน และคุณก็นำเงินนั้นไปใช้ชีวิตอย่างที่คุณต้องการ อย่าทุ่มเทให้กับงานมากเกินไปจนลืมคุณค่าในตัวของคุณเอง คุณควรที่จะต้องปรับเวลาส่วนตัวให้เหมาะสม เพื่อปรับภาวะสมดุลในร่างกายและจิตใจของคุณ ให้กลับมาสู่ความเป็นปกติให้ได้ ยึดทางสายกลาง ไม่ตึงเกินไป และไม่หย่อนเกินไป ชีวิตที่สมดุลคือชีวิตที่มีคุณค่า ไม่ใช่ชีวิตที่เกิดมาเพื่องานและจบลงที่การพบกับหมอ
                   ✅ คุณควรจัดลำดับความสำคัญของชีวิตให้ดี – คุณลองนึกดูว่า อะไรเป็นสิ่งสำคัญกับคุณจริงๆ?  เงินรึเปล่า? สุขภาพใช่ไหม? หรือว่าครอบครัว พ่อ แม่ พี่น้อง สามี ภรรยา หรือลูก ๆ ที่?นั่งรอคุณอยู่ที่บ้าน หรือถ้าคุณไม่มีใคร ตัวคุณเองรึเปล่า ที่เป็นสิ่งสำคัญ คุณควรรักตัวคุณเองให้มาก ๆ  เพราะมนุษย์เราเนี่ย เกิดมาได้ยากครับ
                   ✅ คุณควรสร้างขอบเขตให้กับงาน – อย่าปล่อยให้เวลางานกับเวลาส่วนตัวปะปนกันจนไม่มีเวลาจัดสรรชีวิต อันนี้สำคัญนะครับ การที่คุณปล่อยให้งานมาครอบงำคุณมากเกินไป มันจะทำให้คุณไม่มีความสุขในชีวิต หาความสุขใส่ตัวบ้างครับ ทำในสิ่งที่ชอบ แล้วชีวิตคุณจะมีความสุขขึ้น   



                      แต่ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม “ในบางครั้งคุณอาจจะต้องลองตั้งคำถามกับตัวเองดูครับว่า ทุกวันนี้เนี่ย เรากำลังทำงานเพื่ออะไร? ถ้าเรารู้เป้าหมายของเรา เราก็จะเหนื่อยน้อยลง และมีพลังทำงานต่อไป  point สำคัญ ที่จะแก้ปัญหาในเรื่องนี้เลย ก็คือ อย่าปล่อยให้ตัวคุณเองหมดไฟไปโดยที่ ไม่เคยเติมพลังกาย พลังใจ ให้กับชีวิตของคุณ และอย่าลืมหาเวลาพักผ่อน  ให้กำลังใจตัวเอง และขอบคุณตัวเองที่ยังสู้กับการทำงานจนมาถึงวันนี้

                    ไม่ว่าคุณจะอยู่ในช่วงเวลาที่ดี หรือแย่ ขอให้เชื่อเถอะครับว่า คุณยังมีโอกาสสร้างชีวิตที่คุณต้องการ ถ้าคุณกำลังรู้สึกเหนื่อยกับงาน อยากให้ลองหยุดถามตัวเองว่า ‘ฉันกำลังทำงานนี้เพื่ออะไร?’หลายคนทำงานเพื่อครอบครัว หลายคนทำเพื่อความฝัน และอีกหลาย ๆ คนทำเพื่อความมั่นคงของตัวเอง ถ้าคุณรู้ว่าคุณทำงานเพื่ออะไร ความเหนื่อยที่คุณเจอจะมีความหมายมากขึ้นและอย่าลืมว่าคุณไม่ได้อยู่คนเดียว ยังมีคนที่เข้าใจคุณ และพร้อมเป็นกำลังใจให้คุณเสมอครับอย่างน้อย ๆ ถ้ามองไม่เห็นใคร ก็ พ่อ แม่เรา นี่ละครับ
สุดท้ายนี้ ผมก็ขอเป็นกำลังใจให้กับทุกคนที่กำลังต่อสู้กับชีวิตการทำงานในยุคนี้ต่อไปนะครับ
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่