โพลชี้ กาสิโนจะนำมาสู่ความขัดแย้งทางสังคมและการเมืองรอบใหม่
https://www.matichon.co.th/politics/news_5105148
.
.
โพลชี้ กาสิโนจะนำมาสู่ความขัดแย้งทางสังคมและการเมืองรอบใหม่
.
เมื่อวันที่ 23 มีนาคม ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลการสำรวจ เรื่อง “คำถามคาใจ เรื่องสถานบันเทิงครบวงจร” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 18-20 มีนาคม 2568 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ ทั่วประเทศ รวมจำนวนทั้งสิ้น 1,310 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับความคิดเห็นของประชาชนที่มีคำถามต่อนโยบายการอนุญาตการลงทุนสถานบันเทิงครบวงจร (เอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์) ที่รวมกาสิโน
v
จากการสำรวจเมื่อถามถึงคำถามคาใจของประชาชนเกี่ยวกับนโยบายการอนุญาตการลงทุนสถานบันเทิงครบวงจร ( เอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ ) ที่รวมกาสิโน พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 32.60 ระบุว่า นโยบายนี้จะทำให้บ้านเมืองเต็มไปด้วยอบายมุข และทำลายความมั่นคงของชาติ จริงหรือไม่ รองลงมา ร้อยละ 30.23 ระบุว่า จะช่วยให้เศรษฐกิจของประเทศดีขึ้น ได้จริงหรือไม่และอย่างไร ร้อยละ 28.09 ระบุว่า รัฐบาลจะมีมาตรการอะไรในการป้องกันไม่ให้คนไทยติดการพนัน ร้อยละ 24.89 ระบุว่า รัฐบาลจะมีมาตรการอะไรในการป้องกันไม่ให้เป็นแหล่งฟอกเงิน ร้อยละ 24.66 ระบุว่า รัฐบาลจะป้องกันไม่ให้เป็นแหล่งกำเนิดของผู้มีอิทธิพลและคดีอาชญากรรมต่าง ๆ ได้อย่างไร
.
ร้อยละ 20.15 ระบุว่า รัฐบาลมีมาตรการป้องกันผลกระทบทางสังคมที่จะเกิดขึ้นหรือไม่และอย่างไร ร้อยละ 18.63 ระบุว่า จะช่วยแก้ไขปัญหาบ่อนการพนันผิดกฎหมายในประเทศ ได้จริงหรือไม่และอย่างไร ร้อยละ 18.55 ระบุว่า จะช่วยดึงดูด เพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยว ได้จริงหรือไม่และอย่างไร ร้อยละ 17.48 ระบุว่า ประชาชนคนไทยจะได้อะไรจากนโยบายนี้ ร้อยละ 16.56 ระบุว่า จะกลายเป็นแหล่งเงินทุนของนักการเมือง จริงหรือไม่ ร้อยละ 14.27 ระบุว่า
ไม่มีคำถามคาใจใด ๆ ร้อยละ 12.90 ระบุว่า จะช่วยให้เกิดการจ้างงานคนไทยมากขึ้น ได้จริงหรือไม่และอย่างไร ร้อยละ 12.14 ระบุว่า จะรับรองได้อย่างไรว่า การออกใบอนุญาตจะมีความโปร่งใส ตรวจสอบได้ และไม่มี
การทุจริต คอร์รัปชัน
.
ร้อยละ 11.98 ระบุว่า ทำไมไม่จัดทำประชามติก่อนตัดสินใจดำเนินการ ร้อยละ 10.15 ระบุว่า รัฐบาลมีการทำการศึกษาความเป็นไปได้ของนโยบายแล้วหรือยัง ร้อยละ 10.00 ระบุว่า จะช่วยลดจำนวนคนไทยไปเล่นการพนันในบ่อนต่างประเทศ ได้จริงหรือไม่และอย่างไร และถามประชาชนหรือยัง ว่าต้องการ
ให้ตั้งสถานบันเทิงครบวงจรพ่วงกาสิโนในเขตพื้นที่เขาหรือไม่ ในสัดส่วนที่เท่ากัน ร้อยละ 9.39 ระบุว่า จะเชื่อถือในความยุติธรรม โปร่งใส ตรวจสอบได้ของกรรมการนโยบาย ได้อย่างไร และสถานบันเทิงครบวงจรพ่วงกาสิโนจะตั้งที่ไหน ในสัดส่วนที่เท่ากัน ร้อยละ 7.40 ระบุว่า ทำไมจะต้องเร่งรัดนโยบายให้เกิดขึ้นในเร็ว ๆ นี้
.
ร้อยละ 5.73 ระบุว่า คนไทยต้องมีคุณสมบัติอย่างไรถึงจะเข้ากาสิโนได้ ร้อยละ 4.50 ระบุว่า รัฐบาลจะแน่ใจได้อย่างไรว่าสถานบันเทิงครบวงจรพ่วงกาสิโนจะไม่ขาดทุน ร้อยละ 3.51 ระบุว่า ถ้าจะมีสถานบันเทิงครบวงจรแบบที่ไม่มีกาสิโน เป็นไปได้หรือไม่ ร้อยละ 3.28 ระบุว่า ค่าเข้ากาสิโนของคนไทยราคาเท่าไร ถูกไป หรือ แพงไปหรือไม่
.
ร้อยละ 3.05 ระบุว่า มีข้อกำหนดเรื่องแบ่งรายได้ให้รัฐและชุมชนหรือไม่ นอกจากค่าสัมปทานใบอนุญาต ร้อยละ 2.21 ระบุว่า ทำไมไม่เขียนรายละเอียดที่สำคัญทุกอย่างให้ชัดเจนใน พรบ. ร้อยละ 2.14 ระบุว่า ค่าสัมปทานใบอนุญาตที่รัฐจะได้นั้นคุ้มหรือไม่ และร้อยละ 1.60 ระบุว่า ทำไมให้อำนาจกรรมการนโยบายกำหนดรายละเอียดที่สำคัญ
.
ท้ายที่สุดเมื่อถามความคิดเห็นของประชาชนต่อความขัดแย้งทางสังคมและการเมือง จากนโยบายการอนุญาตการลงทุนสถานบันเทิงครบวงจร ( เอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ ) ที่รวมกาสิโน พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 31.83 ระบุว่า จะนำไปสู่ความขัดแย้งรอบใหม่ที่รุนแรง รองลงมา ร้อยละ 31.68 ระบุว่า จะนำไปสู่ความขัดแย้งรอบใหม่แต่ไม่รุนแรง ร้อยละ 26.49 ระบุว่า จะเป็นแค่ความเห็นไม่ตรงกัน ที่ไม่ใช่ความขัดแย้ง ร้อยละ 9.16 ระบุว่า จะไม่มีปัญหาความเห็นไม่ตรงกันหรือความขัดแย้งใด ๆ และร้อยละ 0.84 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ
.
.
ส่องทีมองครักษ์พิทักษ์ “นายกฯอิ๊งค์” ฟาดกลับฝ่ายค้าน
https://www.innnews.co.th/video/hot-clips/news_858543/
.
ศึกอภิปรายเดี่ยว นายกฯ แพทองธาร ชินวัตร ดุเดือด ตั้งแต่ยังไม่เริ่ม เพราะญัตติเบื้องต้น เขียนชื่อ “ทักษิณ” เอาไว้ด้วย ก่อนถูกท้วงติง ขัดขวาง จนต้องยอมถอยใช้คำว่า “บุคคลในครอบครัว” แทน จนถูกมองว่ามีการ”ซูเอี่ย” กันนอกรอบ
.
จากนั้นพรรคประชาชนชน ก็ดาหน้าถล่ม”นายกฯอิ๊งค์” เริ่มจาก “วิโรจน์ ลักขณาอดิศร” เปิดฉากฟาด “ไม่รู้สื่รู้แปด” ก่อนแถมอีกชุด “เห็นแก่ตัว ประเทศนี้ คุณคนเดียวเหรอที่มีลูก” ตามติดด้วย “ณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ” ที่จับประเด็นปลาหมอคางดำมาโจมตี เพิ่มดีกรีความเข้มข้นของศึกซักฟอกได้เป็นอย่างดี และเมื่อฝ่ายค้านโจมตีหนักตั้งแต่ก่อนเริ่ม รัฐบาลจึงต้องแก้เกม ตั้ง 20 ผู้พิทักษ์ข้อบังคับการประชุม เพื่อปกป้อง “นายกฯคุณหนูอิ๊งค์” อย่างเต็มที่
ใช้บริการทั้ง รุ่นใหญ่ ผู้คร่ำหวอดงานสภาอย่าง ประยุทธ์ ศิริพาณิชย์ ,สุทิน คลังแสง, ชลน่าน ศรีแก้ว และ อดิศร เพียงเกษ เป็นคีย์แมนจัด สส.คุมเกมประท้วง ส่วนรุ่นกลาง คอยปะทะ อาทิ ไชยวัฒนา ติณรัตน์ สส.มหาสารคาม, ธีระชัย แสนแก้ว สส.อุดรธานี,ก่อแก้ว พิกุลทอง ,อนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด และ ศรีญาดา ปาลิมาพันธ์ สส.บัญชีรายชื่อ
.
และทีมงานดาวรุ่งหน้าใหม่คุณภาพคับแก้ว อาทิ เทอดชาติ ชัยพงษ์ สส.เชียงราย, พลากร พิมพะนิตย์ สส.กาฬสินธุ์, วัชระพล ขาวขำ สส.อุดรธานี, สุดารัตน์ พิทักษ์พรพัลลภ สส.อุบลราชธานี,นุชนาถ จารุวงษ์เสถียร สส.ศรีสะเกษ,วรวงศ์ วรปัญญา สส.ลพบุรี รวี เล็กอุทัย สส.อุตรดิตถ์, มนัสนันท์ หลีนวรัตน์ สส.ปทุมธานี และ ชนก จันทาทอง สส.หนองคาย คอยสกัดฝ่ายตรงข้ามหากผิดข้อบังคับ พาดพิง ใส่ร้าย เสียดสี นายกรัฐมนตรีจนเกินเลย
.
นอกจาก 20 ทีมผู้พิทักษ์แล้ว ยังมี “วิสุทธิ์ ไชยณรุณ” ประธาน สส.และประธานวิปรัฐบาล ที่จะทำหน้าที่ดูแลภาพรวม ซึ่งได้ประกาศ ห้ามสส.เพื่อไทย
ป่วย ขาด หรือลาประชุมด้วย โดยมี “ศรัณย์ ทิมสุวรรณ” สส.เลย เลขานุการวิป คอยประสานคนของพรรคร่วม ทั้งนี้ เพื่อไทย ยืนยันยุทธวิธีของชุดพิทักษ์ข้อบังคับจะไม่ลุกประท้วง จนค้านสายตาผู้ชมนอกสภาฯ ยืนยัน ไม่ผิดข้อบังคับไม่ยกมือประท้วงเด็ดขาด
.
นอกจากนี้ ยังมีอีก 1 ทีม ที่มี “มนพร เจริญศรี” รมช.คมนาคม และ “ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์” รมช.มหาดไทย คอยประสานงาน รัฐมนตรี ของพรรคเพื่อไทย และพรรคร่วมฯ ในการซับพอร์ตนายกฯอิ๊งค์ อย่างเต็มที่ในทุกประเด็น เพื่อชี้แจง ตอบโต้ข้อกล่าวหาของฝ่ายค้านในทุกๆเรื่อง จะเห็นได้ว่า แม้ทีมงานของเพื่อไทย จะส่งสัญญาณ ผ่านหน้าสื่ออย่างต่อเนื่อง ประเมินว่าการซักฟอกครั้งนี้จะไม่หนักหนามากนัก สำหรับนายกฯอิ๊งค์ ในการชี้แจง รวมถึงจำนวนเสียงในมือก็มั่นคง ไม่น่าจะมีงูเห่า หรือใครแตกแถวเลย
.
แต่ก็ได้จัดทัพคอยปกป้อง และคอยสนับสนุนไว้แบบครบครัน ชนิดที่เรียกว่า ไม่ยอมปล่อยผ่านในจุดเล็กๆ น้อยๆ แม้แต่เรื่องเดียว ดังนั้น การอภิปรายไม่ไว้วางใจ ครั้งนี้ จะถึงพริกถึงขิงมากน้อยเพียงใด ข้อมูลหลักฐานของฝ่ายค้าน จะฟาดฟัน ถล่มรัฐบาล ได้ตามเป้าที่คาดหวังไว้ ได้ใจประชาชน หรือไม่ หรือการชี้แจงของนายกฯอิ๊งค์ จะตอกกลับฝ่ายค้านได้หมดทุกประตู จึงเป็นสิ่งที่น่าสนใจมาก ศึกนี้จะเป็นการตรวจสอบถ่วงดุลตามกลไกสภา ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยคุณภาพ เนื้อหาสาระ ที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน หรือจะจบลงด้วยความคาใจว่าเป็นมวยล้มต้มคนดู…
.
.
.
กมธ.ที่ดิน จับมือสคทช.ทบทวนวิกฤตสิทธิในที่ดิน
https://www.innnews.co.th/news/news_858417/
.
กมธ.ที่ดิน ทบทวนวิกฤตสิทธิในที่ดิน สร้างความร่วมมือกับ สคทช. ผู้ตรวจการแผ่นดิน-ภาคประชาชน แก้ไขปัญหาสิทธิที่ดินทับซ้อนเขตป่า
.
คณะกรรมาธิการที่ดิน สภาผู้แทนราษฎร จัดสัมมนาเรื่อง “การพัฒนาและบริหารจัดการที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน” โดยมีผู้แทนจาก
.
สำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (สคทช.) ผู้ตรวจการแผ่นดิน และภาคประชาชนเข้าร่วมกว่า 170 คน เพื่อหารือแนวทางแก้ไขปัญหาสิทธิที่ดินที่ทับซ้อนกับเขตป่า
โดยภาคเช้า มีการบรรยายเกี่ยวกับบทบาทของ สคทช. ในการแก้ไขปัญหาที่ดินทับซ้อนและคืนความเป็นธรรมให้แก่ประชาชน พร้อมนำเสนอภาพรวมสถานการณ์ปัญหาที่ดินของไทยและภาคบ่าย เป็นเวทีเสวนา ซึ่งอภิปรายถึงความล่าช้าในการดำเนินการตาม พ.ร.บ.คณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ พ.ศ. 2562 และปัญหาด้านโครงสร้างกฎหมายที่เป็นอุปสรรคต่อการแก้ไขปัญหาที่ดิน
.
สำหรับข้อสรุปและแนวทางข้างหน้ามีข้อเสนอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำงานอย่างเป็นเอกภาพ โดยเฉพาะการเร่งรัด โครงการ One Map โดยคณะกรรมาธิการที่ดินฯ ยืนยันว่าจะร่วมมือกับ สคทช. และภาคประชาชนในการแก้ปัญหาทั้งระดับนโยบายและกรณีปัญหาเฉพาะหน้า การสัมมนาครั้งนี้ เน้นให้ทุกฝ่ายร่วมมือกันผลักดันการแก้ไขปัญหาที่ดินอย่างเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะการปรับปรุงกฎหมายและนโยบายที่กระทบสิทธิของประชาชน
JJNY : กาสิโนจะนำมาสู่ความขัดแย้งรอบใหม่│ส่องทีมองครักษ์ “อิ๊งค์”│กมธ.ที่ดิน จับมือสคทช.ทบทวนวิกฤ │12 จว. ฝนฟ้าคะนอง
ไม่มีคำถามคาใจใด ๆ ร้อยละ 12.90 ระบุว่า จะช่วยให้เกิดการจ้างงานคนไทยมากขึ้น ได้จริงหรือไม่และอย่างไร ร้อยละ 12.14 ระบุว่า จะรับรองได้อย่างไรว่า การออกใบอนุญาตจะมีความโปร่งใส ตรวจสอบได้ และไม่มี
การทุจริต คอร์รัปชัน
ให้ตั้งสถานบันเทิงครบวงจรพ่วงกาสิโนในเขตพื้นที่เขาหรือไม่ ในสัดส่วนที่เท่ากัน ร้อยละ 9.39 ระบุว่า จะเชื่อถือในความยุติธรรม โปร่งใส ตรวจสอบได้ของกรรมการนโยบาย ได้อย่างไร และสถานบันเทิงครบวงจรพ่วงกาสิโนจะตั้งที่ไหน ในสัดส่วนที่เท่ากัน ร้อยละ 7.40 ระบุว่า ทำไมจะต้องเร่งรัดนโยบายให้เกิดขึ้นในเร็ว ๆ นี้
.
ป่วย ขาด หรือลาประชุมด้วย โดยมี “ศรัณย์ ทิมสุวรรณ” สส.เลย เลขานุการวิป คอยประสานคนของพรรคร่วม ทั้งนี้ เพื่อไทย ยืนยันยุทธวิธีของชุดพิทักษ์ข้อบังคับจะไม่ลุกประท้วง จนค้านสายตาผู้ชมนอกสภาฯ ยืนยัน ไม่ผิดข้อบังคับไม่ยกมือประท้วงเด็ดขาด
.
สำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (สคทช.) ผู้ตรวจการแผ่นดิน และภาคประชาชนเข้าร่วมกว่า 170 คน เพื่อหารือแนวทางแก้ไขปัญหาสิทธิที่ดินที่ทับซ้อนกับเขตป่า