กฎเหล็ก 7 ข้อของทหารหญิงไทย

สวัสดีค่ะ ชาวแพนทิพทุกท่าน
วันนี้อยากมาแชร์เรื่องราวที่หลายคนอาจจะไม่เคยได้ยิน เป็นประสบการณ์ตรงของดิฉันเองค่ะ ดิฉันเป็นหนึ่งในทหารหญิงรุ่นแรกที่ได้เข้าร่วมกองกำลังพิเศษหลังจากที่รัฐบาลประกาศแก้กฎให้ผู้หญิงสามารถเข้าร่วมปฏิบัติการรบได้เมื่อสองปีที่แล้ว ตอนนั้นเหตุการณ์ชายแดนกับกัมพูชากำลังตึงเครียดมาก ทหารชายไม่เพียงพอ รัฐบาลจึงตัดสินใจให้ผู้หญิงเข้าไปเสริมกำลัง
ตอนแรกดิฉันดีใจมาก ในที่สุดก็ได้พิสูจน์ศักยภาพว่าผู้หญิงก็สู้ได้ไม่แพ้ผู้ชาย แต่พอไปถึงที่นั่นแล้ว... มันไม่เหมือนที่คิดไว้เลย
ดิฉันอยากเตือนน้องๆ ผู้หญิงที่กำลังคิดจะสมัครเข้าร่วมกองกำลังพิเศษนี้ ว่ามี "กฎเหล็ก 7 ข้อ" ที่เราได้รับการสั่งสอนในวันแรกที่เข้าค่ายฝึก กฎเหล่านี้ไม่มีในคู่มือทางการ ไม่มีในเอกสารรัฐใดๆ แต่มันถูกส่งต่อกันมาปากต่อปากจากรุ่นพี่สู่รุ่นน้อง และใครที่ละเมิดกฎเหล่านี้... ก็ไม่ได้กลับมาเล่าให้ฟัง
กฎข้อที่ 1: อย่าตอบรับเสียงเรียกชื่อของคุณในป่า โดยเฉพาะในเวลากลางคืน
เสียงที่คุณได้ยินอาจไม่ใช่เสียงของเพื่อนทหารคุณจริงๆ เหตุการณ์แรกเกิดขึ้นกับร้อยโทหญิงมัณฑนา ตอนนั้นเรากำลังลาดตระเวนในพื้นที่ป่า ฝั่งตะวันออกของด่านช่องจอม ทุกคนได้ยินเสียงเรียกชื่อเธอ "มัณฑนา... มัณฑนา..." ฟังดูเหมือนเสียงแม่ทัพของเรา แต่แปลกที่เขาอยู่ที่ฐานทัพห่างออกไปหลายกิโลเมตร มัณฑนาหันไปตามเสียงและเดินเข้าป่าไป... วันต่อมาเราพบเธอในสภาพที่ไม่อาจบรรยาย แต่สิ่งที่แปลกที่สุดคือ เมื่อตรวจสอบระยะเวลาการเสียชีวิต คุณหมอบอกว่าเธอเสียชีวิตมานานกว่าสองสัปดาห์แล้ว ทั้งที่เมื่อวานเธอยังพูดคุยกับเราอยู่
กฎข้อที่ 2: ทุกคืน นับจำนวนคนในหน่วยของคุณ และอย่าเพิ่งหลับถ้าจำนวนไม่ตรงกับตอนเย็น
มันเป็นกฎที่ฟังดูประหลาด แต่เราต้องทำ บางครั้งในเวลากลางคืน คุณอาจนับได้ว่ามีคนมากกว่าที่ควรจะมี แต่ละคนในหน่วยมีหน้าที่นับแยกกัน อย่าบอกใครว่าคุณนับได้เท่าไหร่ และถ้าจำนวนไม่ตรง อย่าชี้ตัวหรือมองหน้า "คนเกิน" ให้เริ่มภาวนาบทสวดที่เราได้รับการสอนและรอจนถึงเช้า
ดิฉันเคยนับได้ 12 คนในกองร้อย ทั้งที่เราออกมาแค่ 11 คน คนที่ 12 นั่งอยู่มุมหนึ่งของเต็นท์ สวมชุดเครื่องแบบเหมือนเรา หันหลังให้ตลอด ไม่มีใครพูดถึงเธอ และเช้าวันรุ่งขึ้น เธอก็หายไป
กฎข้อที่ 3: ถ้าคุณได้ยินเสียงเพลงชาติไทยในเวลาเที่ยงคืน อย่าลุกขึ้นยืนตรง
ทุกคนรู้ว่าเพลงชาติไทยจะถูกเปิดตอน 8 โมงเช้าและ 6 โมงเย็น แต่บางครั้งในพื้นที่รบ คุณอาจได้ยินเสียงเพลงชาติดังขึ้นในเวลาเที่ยงคืน เสียงนั้นจะมาจากทุกทิศทาง เหมือนมีลำโพงรอบตัวคุณ สัญชาตญาณของทหารคือลุกขึ้นยืนตรงทันที แต่อย่าทำ
เราเคยมีร้อยตรีหญิงคนหนึ่ง เธอลุกขึ้นยืนตรงเมื่อได้ยินเพลงชาติในเวลาเที่ยงคืน และยืนนิ่งจนเพลงจบ วันรุ่งขึ้นเธอยังยืนอยู่ตำแหน่งเดิม แต่ผิวของเธอเป็นสีเทา และเย็นเฉียบแม้กลางแดด เธอไม่หายใจและไม่มีชีพจร แต่ยังคงยืนได้ เราต้องขุดหลุมและฝังเธอทั้งยืน
กฎข้อที่ 4: เมื่อส่องกระจก หากไม่เห็นเงาสะท้อนของตัวเอง ให้แกล้งทำเป็นไม่สังเกตเห็น
ในค่ายทหารมีกระจกไม่มาก ส่วนใหญ่เราใช้กระจกเล็กๆ ในชุดปฐมพยาบาล เวลาเราต้องแต่งหน้าประจำวัน บางครั้งคุณอาจส่องกระจกและพบว่าไม่มีเงาสะท้อนของตัวเอง อย่าตกใจหรือพูดอะไรออกมา ให้แกล้งทำเป็นไม่เห็นความผิดปกติ แต่งหน้าต่อไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น และวางกระจกลงเบาๆ
มีทหารหญิงคนหนึ่งกรีดร้องเมื่อเธอไม่เห็นตัวเองในกระจก และตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา ไม่มีใครเห็นเงาของเธออีกเลย แม้แต่ในแสงแดดจ้า และเธอเริ่มผอมลงๆ จนหายไปภายในสัปดาห์เดียว
กฎข้อที่ 5: อย่าเก็บของที่คุณพบในป่า โดยเฉพาะถ้ามันเป็นของมีค่าหรือรูปถ่าย
ขณะลาดตระเวน คุณอาจพบสร้อยคอทอง แหวนเพชร หรือรูปถ่ายครอบครัวตกอยู่ บางครั้งของเหล่านั้นอาจดูคล้ายเป็นของคนที่คุณรัก ไม่ว่าจะล่อใจแค่ไหน อย่าเก็บ อย่าแตะ
ร้อยโทหญิงอรุณี เคยเก็บแหวนทองคำวงหนึ่งที่เธอบอกว่าเหมือนของคุณยายเธอไม่มีผิด คืนนั้น เธอสวมแหวนนอน และเช้าวันรุ่งขึ้น นิ้วที่สวมแหวนกลายเป็นสีดำและเริ่มเน่า ภายในสามวัน ความเน่าลามไปทั่วร่าง ไม่มียาอะไรช่วยได้ เธอตายพร้อมกับกลิ่นเหม็นที่ไม่มีใครลืมลง
กฎข้อที่ 6: เมื่อได้รับจดหมายจากบ้าน ให้เปิดอ่านคนเดียวและเผาทิ้งทันที
จดหมายเป็นกำลังใจสำคัญของทหารในสนามรบ แต่ในพื้นที่ชายแดนนี้ จดหมายอาจไม่ได้มาจากคนที่คุณคิด บางครั้งคุณอาจได้รับจดหมายที่มีข้อความประหลาด เช่น ขอให้คุณกลับไปที่จุดหนึ่งในป่าตอนกลางคืน หรือให้คุณทำอะไรบางอย่างที่ผิดปกติ อย่าทำตาม และห้ามให้ใครอ่านจดหมายของคุณเด็ดขาด เผาทิ้งทันทีหลังอ่านจบ
จ่าหญิงบุษบาเคยได้รับจดหมายจากที่บอกว่ามาจาก "แม่" ของเธอ เธออ่านออกเสียงข้อความที่แม่ขอให้เธอไปที่แม่น้ำตอนเที่ยงคืนเพื่อรับของขวัญ เช้าวันรุ่งขึ้นเราพบเธอลอยอยู่ในแม่น้ำ มือกำจดหมายแน่น สิ่งที่แปลกคือแม่ของเธอเสียชีวิตไปแล้วตั้งแต่เธออายุ 5 ขวบ
กฎข้อที่ 7: หากเห็นเพื่อนทหารหายไป อย่าตามหา ให้รายงานผู้บังคับบัญชาเท่านั้น
กฎข้อนี้สำคัญมาก บางครั้งเพื่อนร่วมหน่วยอาจหายไปอย่างไร้ร่องรอย นาทีหนึ่งยังนั่งคุยกับคุณอยู่ อีกนาทีก็หายไป ความเป็นเพื่อนอาจทำให้คุณอยากออกตามหา แต่อย่าทำ ให้รายงานการหายตัวต่อผู้บังคับบัญชาเท่านั้น
สิบตรีหญิงนิภา เพื่อนสนิทของดิฉันหายไประหว่างเข้าเวรยาม ดิฉันได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือที่คล้ายเสียงของเธอมาจากป่า ดิฉันเกือบออกไปตามแล้ว แต่นึกถึงกฎข้อนี้ได้ทัน วันรุ่งขึ้นเราพบนิภานอนสงบอยู่ในเตียงของเธอ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่เมื่อพูดคุยกับเธอ ดิฉันสังเกตว่าเธอไม่กระพริบตาเลย และเวลาพูด ฟันของเธอมีมากกว่าปกติ... ดิฉันไม่ได้พูดอะไร แต่แจ้งผู้บังคับบัญชาตามกฎ ตอนนี้ "นิภา" ถูกย้ายไปหน่วยอื่นแล้ว และเราไม่เคยพูดถึงเธออีกเลย


ปล.ไม่ใช่เรื่องจริงนะครับดูtag
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่