กล้าดื่มไหม? 'น้ำเสียรีไซเคิล' แก้ปัญหาความมั่นคงด้านน้ำ
หากประชากรโลกกำลังจะเผชิญภาวะขาดแคลนน้ำ คุณจะยอมดื่มน้ำเสียที่ผ่านการบำบัดแล้วหรือไม่ เมื่อการรีไซเคิลน้ำเสียเป็นวิธีที่เหมาะสมในการปรับปรุงความมั่นคงด้านน้ำ
.
ตามข้อมูลของสหประชาชาติ คาดว่าภายในปี 2568 ผู้คนเกือบ 1.8 พันล้านคนจะอาศัยอยู่ในพื้นที่ที่ขาดแคลนน้ำ และประชากรโลกสองในสามอาจต้องใช้ชีวิตอยู่ภายใต้สภาวะที่ขาดแคลนน้ำ ทำให้ 'การรีไซเคิลน้ำเสีย' กลายเป็นหนึ่งในทางเลือกที่ได้รับความสนใจสำหรับแก้ไขปัญหานี้ ซึ่งแม้จะพิสูจน์แล้วว่าสามารถทำได้จริงในทางเทคนิค แต่ผู้คนจำนวนมากยังคงรู้สึกไม่สบายใจที่จะบริโภคน้ำดังกล่าว
.
ปัจจุบัน มีสองวิธีในการรีไซเคิลน้ำเสียให้เป็นน้ำดื่มที่สะอาด
.
1. การรีไซเคิลน้ำดื่มทางอ้อม (IPR) จะเพิ่มน้ำเสียที่ผ่านการบำบัดอย่างดี ลงในแหล่งน้ำใต้ดิน แม่น้ำ หรืออ่างเก็บน้ำ ซึ่งวิธีนี้จะช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมได้ในระยะยาว
.
โครงการรีไซเคิลน้ำในเมืองซานดิเอโกของสหรัฐฯ ก็ใช้วิธีนี้ และพวกเขาตั้งเป้าที่จะรีไซเคิลน้ำบริสุทธิ์ให้เพียงพอสำหรับครึ่งหนึ่งของประชากรเมือง ภายในปี 2035 เช่นเดียวกับเมืองออสตินที่คาดการณ์ว่าการรีไซเคิลน้ำเสียของพวกเขา จะช่วยประหยัดน้ำดื่มได้ 22 ล้านลิตรต่อวันภายในปี 2040
.
2. การรีไซเคิลน้ำดื่มโดยตรง (DPR) จะเพิ่มน้ำเสียที่ผ่านการบำบัดอย่างดี ลงในระบบการจ่ายน้ำที่ประชาชนใช้อุปโภค-บริโภคโดยตรง
.
หนึ่งในเมืองที่ใช้วิธีนี้คือวินด์ฮุก ประเทศนามิเบีย ซึ่งโรงงานบำบัดน้ำเสียของพวกเขาได้ผลิตน้ำดื่มคุณภาพสูงที่ผ่านการรับรองทางวิทยาศาสตร์มาตั้งแต่ต้นทศวรรษ 1960
.
ต้องยอมรับว่าการศึกษาข้อมูลที่ถูกต้องและชัดเจน มีบทบาทสำคัญในการจัดการกับการรับรู้ของสาธารณชน ตัวอย่างเช่น ในเมืองทูวูมบาของออสเตรเลีย ที่เปิดโอกาสให้ประชาชนได้ลงคะแนนเสียงว่าเห็นด้วยกับโครงการรีไซเคิลน้ำกลับมาใช้ใหม่หรือไม่ น่าเสียดายที่การขาดความโปร่งใสจากรัฐบาลท้องถิ่น และความไม่ชัดเจนในข้อมูล ได้ทำให้เกิดการคัดค้านอย่างหนักจากสาธารณชน
.
อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้เราอาจไม่มีทางเลือกมากนัก เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศและการเติบโตของประชากรกำลังส่งผลกระทบต่อแหล่งน้ำดื่มทั่วโลก รัฐบาลหลายประเทศจึงจำเป็นต้องพิจารณาวิธีการใหม่ๆ เพื่อให้แน่ใจว่าประชาชนของพวกเขาจะไม่ขาดน้ำ
.
ปัญหาคือผู้คนไม่ไว้ใจน้ำ หรือไม่ไว้ใจรัฐบาล?
.
ปีเตอร์ แอนนิน ผู้อำนวยการ Burke Center for Freshwater Innovation ของสหรัฐฯ ได้สำรวจความซับซ้อนทางสังคมและการเมืองที่เกี่ยวข้องกับการบำบัดและการนำน้ำเสียกลับมาใช้ใหม่สำหรับน้ำดื่ม เขายอมรับว่าการจะได้รับความไว้วางใจจากสาธารณชนนั้น รัฐบาลต้องมีมากกว่าแค่เทคโนโลยีที่ได้รับการพิสูจน์แล้ว แต่ยังต้องมีกลยุทธ์ทางการศึกษาและการสื่อสารที่โปร่งใส ยุติธรรม และสร้างสรรค์อีกด้วย
.
ขณะที่การรับรู้เชิงลบหรือประสบการณ์ในอดีต เช่น เหตุการณ์มลพิษ การระบาดของโรค และการบริหารจัดการที่ผิดพลาดของท้องถิ่น ก็อาจส่งผลกระทบอย่างมากต่อความเชื่อมั่นในคณภาพน้ำของผู้คนเช่นกัน
.
อย่างไรก็ตาม แอนนินมองว่า ภาวะการขาดแคลนน้ำอย่างรุนแรงหรือภัยพิบัติธรรมชาติ อาจช่วยเร่งให้ผู้คนหันมายอมรับน้ำรีไซเคิลได้รวดเร็วและเป็นวงกว้างมากขึ้น ในฐานะวิธีแก้ปัญหาที่จำเป็นซึ่งทำให้พวกเขาไม่มีทางเลือกมากนัก
.
เขายังบอกด้วยว่า เพื่อให้โลกมีอนาคตที่ยั่งยืนด้านน้ำ ในฐานะประชากรนั้น เราต้องเปลี่ยนพฤติกรรม เปลี่ยนทัศนคติ เปิดรับนวัตกรรม และทำงานร่วมกัน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นที่จำเป็นต่อการนำน้ำเสียที่ผ่านการรีไซเคิลมาใช้อุปโภคบริโภคเพื่อให้เกิดการใช้งานอย่าง
ที่มา : SpringNews
กล้าดื่มไหม? 'น้ำเสียรีไซเคิล' แก้ปัญหาความมั่นคงด้านน้ำ