ธุรกิจการขายรถยนต์และจักรยานยนต์ (รถใหม่) ที่มีการจอง เป็นธุรกิจที่ควบคุมสัญญา

การตัดสินใจซื้อรถยนต์คันใหม่ที่ "ชอบ" สักคัน คงไม่ใช่เรื่องยาก แต่หากต้องเลือกซื้อรถที่ "ใช่" ทั้งด้านการใช้งาน และงบประมาณสักคันอาจไม่ใช่เรื่องง่าย สคบ. ขอแนะนำเบื้องต้นในการเลือกซื้อรถยนต์ (ใหม่) ดังนี้
    ๑. งบประมาณ คือ สิ่งสำคัญที่ต้องคิดถึงเป็นอันดับแรก ถ้าสามารถซื้อได้ด้วยเงินสดแนะนำให้ซื้อด้วยเงินสดเพื่อจะได้ไม่ต้องจ่ายดอกเบี้ยหลักหมื่นหลักแสนจากการผ่อนชำระ แต่หากไม่มีเงินสดเพียงพอ ก็สามารถซื้อด้วยเงินผ่อนได้ แต่ต้องคิดให้รอบคอบก่อนว่ามีความสามารถในการชำระค่างวดมากน้อยเพียงใด โดยประเมินจากรายรับ/รายจ่ายในแต่ละเดือน
    ๒. ประเภทรถ ต้องการใช้รถเพื่ออะไร เช่น ถ้าเป็นพนักงานออฟฟิศ อาศัยอยู่ในตัวเมือง โสด ไปไหนคนเดียวเป็นประจำ ไม่ค่อยได้ออกต่างจังหวัด รถที่เหมาะน่าจะเป็นรถเก๋งขนาดเล็ก หรืออีโคคาร์ เพราะมีจุดเด่นเรื่องประหยัดน้ำมัน คล่องตัว หาที่จอดง่าย  
    ๓. ยี่ห้อ คนไทยนิยมใช้รถจากประเทศญี่ปุ่นเป็นหลัก เนื่องจากสะสมความน่าเชื่อถือมายาวนาน หน้าตาสวยงามทันสมัย ราคาเหมาะสมกับคุณภาพ การบริการหลังการขายมั่นใจได้ ค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาต่ำ และที่สำคัญบริโภคเชื้อเพลิงน้อย รองลงมา คือ รถจากทวีปยุโรป โดยเฉพาะรถเยอรมนี ที่มีคุณภาพระดับโลก สมรรถนะยอดเยี่ยม รูปลักษณ์หรูหรา ภูมิฐาน แต่ต้องแลกมาด้วยราคา อะไหล่ และค่าบริการที่อาจสูงกว่ารถญี่ปุ่นระดับเดียวกันกว่าเท่าตัว ดังนั้นการเลือกยี่ห้อจึงต้องพิจารณาให้รอบด้าน
    สคบ. ได้ออกประกาศคณะกรรมการว่าด้วยสัญญา เรื่องให้ธุรกิจการขายรถยนต์และจักรยานยนต์ (รถใหม่) ที่มี
การจอง  เป็นธุรกิจที่ควบคุมสัญญา พ.ศ. ๒๕๖๗ โดยประกาศฯ ได้กำหนดให้สัญญาต้องระบุสาระสำคัญและเงื่อนไข ดังต่อไปนี้
    ๑. ข้อความต้องเป็น “ภาษาไทย” เห็นและอ่านได้ชัดเจน
    ๒. ข้อตกลงการจองรถ
        - ประเภท/ชนิด ยี่ห้อ รุ่น ปีที่ผลิต สี ขนาดหรือกำลังของเครื่องกำเนิดพลังงาน กรณีรถยนต์ไฟฟ้า ให้มีรายละเอียดเช่น กำลังของมอเตอร์ไฟฟ้า ประเภท/ขนาดความจุของแบตเตอรี่
              - รายการอุปกรณ์ติดตั้งเพิ่มและของแถม สิทธิประโยชน์ต่าง ๆ (ถ้ามี)
              - เงินจองหรือผลประโยชน์อื่นใดในลักษณะทำนองเดียวกับเงินจองที่ไม่ใช่เงินมัดจำ (ถ้ามี)
              - ราคา
           ๓. กำหนด วัน เดือน ปี และสถานที่ที่ส่งมอบรถยนต์
     ๔. ผู้บริโภคมีสิทธิบอดเลิกสัญญาเมื่อผู้ประกอบธุรกิจกระทำการอย่างใดอย่างหนึ่ง
         - ปรับเปลี่ยนราคารถยนต์สูงขึ้น
         - ไม่ส่งมอบรถยนต์ให้ผู้บริโภคภายในเวลาที่กำหนด
         - ไม่ส่งมอบรถยนต์ตามยี่ห้อ รุ่น ปีที่ผลิต สี และขนาดหรือกำลังของเครื่องกำเนิดพลังงานที่กำหนดในสัญญา
         - ไม่ส่งมอบรถยนต์ ที่มีรายการอุปกรณ์ติดตั้งเพิ่มเติมและของแถม สิทธิประโยชน์ต่าง ๆ หรือส่วนเพิ่มตัวรถยนต์ตามที่กำหนดในสัญญา

หากพบผู้ประกอบธุรกิจที่ไม่ส่งมอบรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ (รถใหม่) ตามสัญญา ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากสงสัยว่าถูกเอารัดเอารัดเอาเปรียบ หรือไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการทำสัญญาสามารถร้องเรียนกับ สายด่วน สคบ. ๑๑๖๖ หรือช่องทาง แอปพลิเคชัน OCPB Connect
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่