JJNY : โรมถามไทยได้อะไรจากการส่งอุยกูร์│ประมงกลุ้มใจ ปลาหมอคางดำระบาด│หนี้ครัวเรือนเข้าขั้นวิกฤต│โปแลนด์เสนอเลิกแบนทุ่น

โรม ถาม ไทยได้อะไรจากการส่ง 40 อุยกูร์กลับจีน นอกจากมีปัญหากับชาติตะวันตก เจรจาการค้ายากขึ้น
https://www.matichon.co.th/politics/news_5100449
.
.
โรม ถาม ไทยได้อะไรจากการส่ง 40 อุยกูร์กลับจีน นอกจากมีปัญหากับชาติตะวันตก เจรจาการค้ายากขึ้น
.
วันที่ 20 มี.ค.68 เวลา 9.30 น. ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรชาวมธิการ ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายภูมิธรรม เวชชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นำคณะผู้สื่อข่าวไปติดตามความเป็นอยู่ของชาวอุยกูร์ ที่เมืองซินเจียง ประเทศจีน ว่า
.
ตนคิดว่ายิ่งไปก็ยิ่งแสดงให้เห็นถึงความผิดพลาด เราจะได้เห็นความจริงได้อย่างไร การที่นายภูมิธรรมไป ถามว่าเพียงแค่การพูดคุยและได้พบหน้าเพียงพอที่จะเข้าใจสถานการณ์ทั้งหมดได้หรือไม่ ตนคิดว่าไม่ใช่ เพราะเท่าที่ตนทราบว่าการไปครั้งนี้สื่อมวลชนก็ไม่ได้มีอิสระ หรือสื่อมวลชนที่ไปไม่ได้มีเสรีภาพในการทำข่าวขนาดนั้น
.
ดังนั้นคิดว่าโดยภาพรวมทั้งหมดไม่ได้ตอบอะไร ไม่ได้ช่วยให้ในสิ่งที่โลกวิจารณ์ หรือเขากังวลว่าการส่งอุยกูร์ จะนำไปสู่การเสียชีวิต หรือการทำให้อุยกูร์ทั้ง 40 คนตกอยู่ในอันตราย ไม่ได้เปลี่ยนความคิดในเรื่องนี้ อาจทำให้สถานการณ์ยิ่งเลวร้ายขึ้นอีก และในต่างประเทศอาจวิพากษ์ วิจารณ์รัฐบาลหนักยิ่งขึ้น
.
นายรังสิมันต์กล่าวว่า เรื่องนี้คนไทยไม่ว่าจะเห็นด้วยหรือไม่กับการส่งตัวชาวอุยกูร์กลับ แต่การส่งกลับครั้งนี้ ทำให้ประเทศไทยทำงานกับประเทศอื่นที่มีจุดยืนคนละแบบยากยิ่งขึ้น ทำให้การเจรจาการค้ามีอุปสรรคยิ่งขึ้น ทำให้ถูกมองในมิติสิทธิมนุษยชนยากยิ่งขึ้น จึงอยากให้ช่วยกันตั้งคำถาม
.
ตกลงแล้วประเทศไทย ได้อะไรจากการส่งชาวอุยกูร์กลับไปยังประเทศจีน เรามีปัญหากับชาติตะวันตกเราได้อะไร เจรจาการค้ายากขึ้นแล้วได้อะไร หลายประเทศมีการเตือนอาจเกิดการก่อการร้าย เราได้อะไร ซึ่งเราไม่ได้อะไรเลยจากเรื่องนี้ มีแต่ทำให้ปัญหาของประเทศไทยแย่ยิ่งขึ้น” นายรังสิมันต์กล่าว
.
นายรังสิมันต์กล่าวต่อว่า ในสภาวะที่เศรษฐกิจแย่ขนาดนี้ เราหวังพึ่งการค้ากับต่างประเทศ ต้องไม่ลืมว่า จะค้าขายกับประเทศจีนอย่างเดียว ก็ไม่ได้ ยิ่งเรื่องดุลการค้าไม่ต้องพูดถึงว่าขาดดุลขนาดไหน ภาพรวมทั้งหมดตนนึกไม่ออกจริงๆว่า การที่นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานสภาความมั่นคงแห่งชาติ นายภูมิธรรม ในฐานะ ที่มีบทบาทในเรื่องนี้ ช่วยตอบคำถามหน่อยว่าได้อะไรจากเรื่องนี้
.

.
ชาวประมงกลุ้มใจ ปลาหมอคางดำระบาด ทะเลแสมสาร ติดอวนครึ่งกิโล หวั่นระบบนิเวศเสียหาย
https://www.matichon.co.th/region/news_5100418
.
ชาวประมงกลุ้มใจ ปลาหมอคางดำระบาด ทะเลแสมสาร ติดอวนครึ่งกิโล หวั่นระบบนิเวศเสียหาย
.
วันนี้ 19 มีนาคม ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ที่จอดเรือประมงเล็ก บริเวณแนวชายฝั่งอ่าวแสมสาร ต.แสมสาร อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เพื่อติดตาม ปัญหาปลาหมอคางดำ ที่มาระบาดอยู่ในพื้นท้องทะเล อ่าวแสมสาร จากการร้องเรียนจาก พ่อค้า แม่ค้า อาหารทะเลสด ชาวประมง หวั่นอาจส่งผลให้ระบบนิเวศในท้องทะเลเสียหาย และได้รับความเดือดร้อนจากการทำประมง
.
จาการสอบถาม นางกรองแก้ว พัฒน์แก้ว อายุ 52 ปี แม่ค้าขายของทะเล กล่าวว่า ลูกชายออกไปวางอวนดักปลากระบอก แต่กลับได้ปลาหมอคางดำมาหลายตัว ประมาณครึ่งกิโลกรัม และพบว่า มีแต่ตัวปลาหมอคางดำมีขนาดใหญ่ ปู ปลาหมึก ไม่ค่อยได้ ถ้าได้ก็น้อยลง อาจจะเพราะปลาหมอคางดำกินลูกปลา และลูกปู ก็เป็นไปได้
.
ด้านนายประเสริฐ พิทักษ์กรณ์ นายกสมาคมการประมงแสมสาร กล่าวว่า มีชาวประมงเรือเล็ก วางอวนดักปลากระบอก แนวชายฝั่ง เพื่อมาทำกิน แต่บังเอิญได้ปลาหมอคางคำ มาติดอวนหลายตัว จึงลงพื้นที่ตรวจสอบปรากฎว่า เป็นปลาหมอคางดำจริง และได้รายงานไปยังประมง อำเภอสัตหีบ และประมงจังหวัดชลบุรี เพื่อให้รับทราบถึงปัญหา หาแนวทางการแก้ไขคลี่คลายปัญหาอย่างเร่งด่วน
.
เมื่อวานให้ประมงเรือเล็กได้ออกไปวางแนวอวน ก็ยังได้ปลาหมอคางดำอย่างต่อเนื่อง แต่มีขนาดเล็กกว่าเก่า ทำให้เห็นว่าปลาหมอคางดำ มีการกำลังขยายพันธุ์เป็นวงกว้าง โดยในช่วงเย็นจะทำการออกไปวางอวนเพื่อดูปริมาณปลาหมอคางดำอีกครั้ง
.

.
ตะลึง! เครดิตบูโร เปิดข้อมูลหนี้ครัวเรือน เข้าขั้นวิกฤต ชี้มีหนี้ 1.22 ล้านล้านบาท เป็นหนี้เสีย
https://ch3plus.com/news/economy/morning/435561
.
นายสุรพล โอภาสเสถียร ผู้จัดการใหญ่ บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ (เครดิตบูโร) ได้โพสต์เฟสบุ๊ก "Surapol Opasatien" กางข้อมูลหนี้ครัวเรือน โดยระบุว่า
.
ท่ามกลางบทสนทนาเกี่ยวกับการซื้อๆ ขายๆ สิทธิเรียกร้อง หรือที่เรียกว่าหนี้สินระหว่างเจ้าหนี้เก่าไปยังเจ้าหนี้ใหม่(ถ้าจะมีเหตุการณ์เกิดขึ้น) ผมขอดึงกลับมาที่สถานะของสิ่งที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ณ เดือนมกราคม 2568 ให้เห็นก่อนว่า ข้อมูล, ข้อเท็จจริง เวลานี้มันเป็นอย่างไรกันบ้าง ข้อมูลนี้ไม่มีเป้าหมายสนับสนุนคนเห็นด้วย คนเห็นต่าง แต่อยากเห็นการใช้ความรู้บนข้อมูล ไม่ใช่ใช้ความรู้สึกแบบไม่มีข้อมูล
.
ข้อมูลที่จัดทำโดยสถาบันวิจัยป๋วย ซึ่งมีนักวิจัยที่เก่งมากๆ ท่านเหล่านั้น ได้นำข้อมูลสถิติที่ไม่มีตัวตนจากเครดิตบูโรจำนวนกว่า 27ล้านลูกหนี้ ไปแยกแยะสุขภาพทางการเงินจากภาระหนี้สิน แล้วนำไปนำเสนอในงานสัมนาวิชาการ ของธนาคารกลางปีที่แล้ว ข้อมูลมันบอกว่า ในระบบการเงินของเราเวลานี้มีคนที่มีสุขภาพทางการเงินในระดับดี ซึ่งน่าจะพอยื่นกู้ได้เพียง 25% ครับ ที่เหลือก็ดูจะมีเงื่อนไขที่ดูจะยากในการได้รับอนุมัติตามมาตรฐานสินเชื่อในปัจจุบันที่เข้มถึงเข้มมาก
.
ขณะที่ภาพใหญ่ของสินเชื่อในระบบที่มีการส่งข้อมูลมาที่เครดิตบูโรทุกเดือน ตัวเลขคือ 13.6 ล้านล้านบาท ถ้าบวกเพิ่มด้วยหนี้ที่สหกรณ์ออมปล่อยกู้สมาชิกและกยศ.และอื่นๆ ก็จะไปอยู่ที่ 16.3 ล้านล้านบาท ที่เราเรียกว่าหนี้ครัวเรือนนั่นเอง
.
การเติบโตของหนี้ของบุคคลธรรมดาในระบบเท่ากับ -0.5% เทียบปีต่อปี หมายถึงสินเชื่อรายย่อยมันแทบไม่ขยับ เราจึงเห็นการบ่นทั่วแผ่นดินว่ากู้ไม่ได้ กู้ไม่ผ่าน อัตราการปฎิเสธการให้สินเชื่ออยู่ในระดับที่สูง หลายท่านคงเห็นด้วยกับผม ไปดูรายงานในหลายที่หลายแห่งก็พูดถึงการหดตัวของสินเชื่อรายย่อย, SMEs เป็นต้น
.
เจาะลงไปในไส้ในของหนี้ของนาย-ก.นาย-ข.จะพบว่า 1.22 ล้านล้านบาท เป็นหนี้เสีย NPLs คิดเป็นจำนวนทุกประเภทสินเชื่อ 9.5 ล้านบัญชีครับ และ 5.8 แสนล้านบาท เป็นหนี้ที่กำลังจะเสีย , หนี้กล่าวถึงเป็นพิเศษหรือหนี้ SM จำนวน 1.9 ล้านบัญชี
.
หนี้เสียไปแล้วจากนั้นนำมาปรับโครงสร้างหนี้ที่มีปัญหาหรือก็คือหนี้ NPLs เอามาทำ TDR กลายเป็นหนี้ปรับโครงสร้างอีก 1 ล้านล้านบาทคิดเป็น 3.7 ล้านบัญชีครับ
.
ต่อมาคือหนี้ที่เริ่มค้างชำระหรือเริ่มมีปัญหาแต่ยังไม่เกิน 90 วัน ซึ่งมีการรีบเร่งเอามาทำการปรับโครงสร้างหนี้เชิงป้องกัน หรือทำ DR เพื่อให้กลับมาเป็นหนี้ปกติ เริ่มเก็บข้อมูลเดือนเมษายน 2567 ตอนนี้ยอดสะสมเท่ากับ 9.2 แสนล้านบาทจำนวน 1.7 ล้านบัญชีครับ
.
ด้วยตัวเลขหนี้ที่มีลักษณะต่างๆ ข้างต้น ด้วยจำนวนมูลหนี้เป็นบาท ด้วยจำนวนที่นับเป็นบัญชีแล้ว เรามีปัญหาระดับที่อาจเรียกว่าวิกฤติแล้ว
.
การฟื้นตัวของรายได้ไม่มากพอ ไม่ทั่วถึง ยังมาไม่เต็มที่และไม่เหมือนเดิม ประกอบกับคนที่พยายามจะขอกู้ติดกำแพง เพราะถ้าจะต้องผ่อนเกินอายุ 60,65 ปี ใครเขาจะให้กู้ ชนกำแพงรายได้ เพราะมันมีข้อกำหนดเรื่อง Debt to income, หนี้ต่อรายได้ ว่าเต็มศักยภาพในการหารายได้มาจ่ายหนี้ถ้าจะก่อเพิ่มได้มั้ย
.
ชนกำแพงสถานะทางเครดิตคือ เป็นคนเคยค้างชำระมั้ย เป็นคนที่กำลังค้างอยู่มั้ย เป็นหนี้เสียมั้ย เคยเป็นหนี้ปรับโครงสร้างมั้ย สารพัดในคุณลักษณะครับ อย่างที่กล่าวข้างต้น เรามีคนสุขภาพทางการเงินดี 25% เท่านั้น ซึ่งหลายคนไม่มีความจำเป็นต้องกู้
.
ภาระหนี้สินกองเป็นภูเขาหลังจากเจอหลุมรายได้ มันฉุดกระชากเศรษฐกิจ, เซาะกร่อนบ่อนทำลายรากฐานความเข้มแข็งของเศรษฐกิจ ดังนั้นมาตรการที่กำลังแก้อยู่ไม่ว่า คุณสู้ เราช่วย จ่ายตรง คงทรัพย์ ปิดจ่ายจบ หรือที่กำลังวิวาทะฝุ่นตลบ หากทางใดทางหนึ่ง หรือทางหนึ่งทางใดจะทะลุปัญหานี้ นอกเหนือจากออกมาพูดเก๋ไก๋ ว่าเป็นเรื่องโครงสร้างแต่ไม่บอกวิธีแก้ชัดๆ แล้วหล่ะก็ เราควรใจกว้างๆ ใจร่มๆ เปิดรับฟังวิธีการ เราควรสู้กับเรื่อง ไม่ใช่สู้กับคนให้มีเรื่อง ต้องคิดบวก ไม่ใช่พร้อมบวก บ้านเมืองมันถึงจะวิวัฒน์ ถ้าติไปทุกเรื่องมันก็วิบัติ
.
https://www.facebook.com/surapol.opasatien/posts/pfbid02PhBea7wi2u6rcDcr2UsskzzZ6r5hod5LMv4hwjerB58LH3iRL4jfFSVyLakVhibAl
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่