ศิริกัญญา หวั่นแนวคิดซื้อหนี้ปชช. ซ้ำรอยเงินดิจิทัล ซัดแก้ไม่ตรงจุด คนได้ประโยชน์คือแบงก์
https://www.matichon.co.th/politics/news_5099152
.
.
‘ศิริกัญญา’ หวั่นแนวคิดซื้อหนี้เสียจาก ปชช. ซ้ำรอยดิจิทัลวอลเล็ต ซัด ‘จุลพันธ์’ ไม่เข็ดพูดกลับไปกลับมา ถาม ‘นายกฯ’ คุยกับ ‘พ่อ’ ในรายละเอียดแล้วยัง
.
เมื่อวันที่ 19 มีนาคม ที่รัฐสภา น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวถึงกรณีที่ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มีแนวคิดให้รัฐบาลรับซื้อหนี้เสียคืนจากประชาชน ว่า ประเด็นแรกจะซื้อออกมาในปริมาณเท่าไหร่ ซึ่ง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ระบุว่าจะซื้ออกมาทั้งหมด เพียงแค่หนี้ Non-Performing Loan หรือ NPL ก็มีมูลค่าหนี้อยู่ที่ 1.2 ล้านล้านบาท แต่เวลาธนาคารขายหนี้ให้แก่บริษัทบริหารสินทรัพย์ก็ไม่ได้ขายมูลค่าหนี้สินในราคา 100 เปอร์เซ็นต์
.
“ถึงแม้จะไม่ได้เงิน 1.2 ล้านล้านบาท ก็ยังต้องใช้ถึง 3-5 แสนล้านบาทขึ้นอยู่กับว่าจะต่อรองกับธนาคารพาณิชย์ว่าจะซื้อในราคาเท่าไหร่ แต่มูลค่าที่ต้องใช้ในการซื้อยังสูงมาก ปัจจุบันเรามีบริษัทในการซื้อหนี้กับธนาคารพาณิชย์อยู่แล้วที่มีอยู่เรียกว่าธนาคารบริหารสินทรัพย์อยู่ประมาณ 87 แห่ง มีมูลค่ารวมของหนี้ที่จัดการกันทั้งหมดแค่ 3 แสนล้านบาทเท่านั้น ถ้าจะต้องใช้เงินมากขนาดนี้ บริษัทบริหารสินทรัพย์อยู่เอาเงินมารวมกันก็ยังไม่มีเงินซื้อ” น.ส.ศิริกัญญากล่าว
.
น.ส.ศิริกัญญากล่าวต่อว่า มีการระบุว่าจะไม่ใช้เงินจากรัฐบาลแม้แต่บาทเดียว ก็ต้องถามกลับว่าจะใช้เงินใคร รูปแบบการระดมทุนในตลาดตราสารหนี้ มีการทำกันในหลายประเทศมีทั้งสำเร็จและล้มเหลวแต่ต้องดูเหตุและปัจจัยอื่นด้วย อีกทั้ง นายทักษิณได้ระบุว่าจะนำชื่อลูกหนี้ออกจากเครดิตบูโรด้วย ตนมองว่าหากลบออกหมดจะกลายเป็นคนไม่มีประวัติซึ่งจะทำการกู้ยาก ควรมีวิธีทำให้เป็นประวัติดี เพื่อให้มีประวัติในการที่จะไปกู้ใหม่น่าจะดีกว่า แค่ถ้าถามว่าลูกหนี้จะได้ประโยชน์หรือไม่ขึ้นอยู่กับว่าจะต่อรองซื้อได้เท่าไหร่ ยิ่งรัฐบาลจ่ายเงินซื้อเยอะ ลูกหนี้จะต้องจ่ายหนี้ขึ้นเยอะด้วย
.
“ไม่แน่ใจว่าจะใช้วิธีใดในการช่วยเหลือประชาชน เป็นรายระเอียดที่เราตอบไม่ได้ ต้องรบกวนสื่อมวลชนไปถามนายทักษิณอีกสักรอบ หรือไปคั้นจากตัวต้นคิดคือ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ว่าตกลงตอนคุยกับพ่อไว้ว่าอย่างไรในเรื่องของรายละเอียด” น.ส.ศิริกัญญากล่าว
.
น.ส.ศิริกัญญากล่าวว่า แนวคิดนี้ไม่ใช่แนวคิดใหม่ได้เคยแสดงวิสัยทัศน์ไว้นานแล้ว แต่รัฐบาลยังไม่ได้ทำอะไร ในช่วงนี้คงต้องการดึงความเชื่อมั่นในการแก้ไขเศรษฐกิจ โดยเฉพาะที่นายทักษิณเดินทางไป จ.พิษณุโลกจึงมีความจำเป็นที่ต้องพูดอะไรโดนใจประชาชนที่มีปัญหา จึงต้องนำเรื่องนี้กลับมาขายใหม่
เมื่อถามว่าเป็นการแก้ปัญหาตรงจุดหรือไม่เพราะหนี้ส่วนใหญ่ของคนไทยเป็นหนี้ที่อยู่นอกระบบ น.ส.ศิริกัญญากล่าวว่า ไม่ตรงจุดแน่นอน ตนมองธนาคารพาณิชย์ได้ประโยชน์ที่สุด เพราะจะได้เคลียร์หนี้เสียที่มีอยู่ ถ้าถามว่าจะทำให้เศรษฐกิจดีได้เลยหรือไม่ก็ยังต้องทำอีกหลายเรื่อง เพราะแนวโน้มเศรษฐกิจในอนาคตไม่ดี สุดท้ายธนาคารก็ยังไม่ปล่อยกู้ใหม่อยู่ดี เพราะเห็นว่าแนวโน้มเศรษฐกิจในอนาคตจะมีแต่ต่ำเตี้ยไปเรื่อย กลัวจะไม่ได้เงินคืน
.
เมื่อถามว่าจะทำให้ประชาชนรู้สึกว่าไม่ต้องจ่ายหนี้ก็ได้เพราะเดี๋ยวรัฐบาลก็มาจัดการ น.ส.ศิริกัญญากล่าวว่า ส่วนนี้เป็นอีกปัญหา เมื่อมีข่าวว่าจะช่วยประชาชนก็เริ่มลังเลว่าจะจ่ายดีหรือไม่ ถือเป็นอันตรายอีกแบบสำหรับระบบเศรษฐกิจ
.
ในส่วนที่ยังไม่มีแนวทางชัดเจนจากกระทรวงการคลังนั้น น.ส.ศิริกัญญากล่าวว่า นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ยืนยันขนาดนั้นหรือไม่ เพราะสัมภาษณ์เมื่อเช้าก็บอกว่ามีความเป็นไปได้ และมีความเป็นไปไม่ได้อยู่ดูแบ่งรับแบ่งสู้ เพราะหลายครั้งที่รับนโยบายมาแล้วทำไม่เสร็จก็เสียเครดิตไปเยอะ รอบนี้เลยรู้สึกถึงความแบ่งรับแบ่งสู้ของนายพิชัย ส่วนคนที่ยังมั่นใจว่าทำได้แต่นอนคือนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ซึ่งอาจจะยังไปเข็ดกับการออกมาพูดกลับไปกลับมาของโครงการดิจิทัลวอเล็ต ซึ่งตนมองว่าอาจจะซ้ำรอยกับดิจิทัลวอเล็ต แต่ความเสียหายอาจจะมากกว่า
.
.
ธปท. ไม่ฟันบวกหรือลบ ไอเดียซื้อหนี้-ล้างเครดิตบูโร ขอดูความชัดเจน ย้ำ 3 เงื่อนไขหลักแก้ปัญหา https://www.matichon.co.th/economy/news_5099880
.
ธปท. ไม่ฟันบวกหรือลบ ไอเดียซื้อหนี้-ล้างเครดิตบูโร ขอดูความชัดเจน ย้ำ 3 เงื่อนไขหลักแก้ปัญหา
.
ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เผยว่า กรณีการเสนอให้ซื้อหนี้ประชาชนและล้างประวัติเครดิตบูโรนั้น ธปท.มีความเห็นว่า ขณะนี้ยังต้องรอความชัดเจนของรูปแบบประเภทหนี้ที่จะเข้าข่าย และรายละเอียดต่างๆ ก่อน ซึ่งที่ผ่านมา ในการแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนอย่างยั่งยืน ธปท. คำนึงถึงหลักสำคัญ 3 ประการ ได้แก่
.
1. ต้องสนับสนุนวินัยทางการเงินที่ดี ไม่สร้างแรงจูงใจที่ผิด จนทำให้เกิดปัญหา moral hazard กล่าวคือ ต้องมีกลไกส่งเสริมให้ลูกหนี้มีวินัยและมีความรับผิดชอบทางการเงิน ซึ่งช่วยป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาการเป็นหนี้ซ้ำซ้อนในอนาคต
.
2. สนับสนุนการเข้าถึงสินเชื่อของลูกหนี้ในระยะข้างหน้า กล่าวคือ ความช่วยเหลือที่ให้ต้องไม่ไปลดทอนความแม่นยำในการประเมินความเสี่ยงของเจ้าหนี้ เพื่อให้ลูกหนี้มีโอกาสเข้าถึงสินเชื่อได้ด้วยต้นทุนที่เป็นธรรม
.
3. ต้องแก้ปัญหาหนี้อย่างตรงจุด และเสริมสร้างความมั่นคงให้แก่ระบบการเงินในภาพรวม โดยคำนึงถึงความคุ้มค่าของการใช้ทรัพยากรและงบประมาณของประเทศเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด
.
ทั้งนี้ ปัญหาหนี้ครัวเรือนของไทยมีความซับซ้อนจากปัญหาเชิงโครงสร้างที่ต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายฝ่ายในการช่วยกันแก้ไขปัญหา การออกแบบมาตรการจึงจำเป็นต้องพิจารณาอย่างครบวงจร โดยคำนึงถึงสาเหตุของปัญหา หลักการของการทำมาตรการ และผลข้างเคียงอย่างรอบด้าน เพื่อให้เกิดผลสูงสุดแก่ทั้งลูกหนี้และระบบเศรษฐกิจไทยอย่างยั่งยืน
.
.
"นันทนา" เปิดเบื้องหลังประชุมลับ สว. โหวตคว่ำแคนดิเดตตุลาการศาล รธน.
https://www.pptvhd36.com/news/การเมือง/245088
.
"นันทนา" เปิดเบื้องหลังประชุมลับ สว. โหวตคว่ำ 2 แคนดิเดตตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ชี้จุดบอดรัฐธรรมนูญฉบับนี้ คือการที่ สว. ไม่ต้องให้คำตอบกับประชาชน
.
19 มี.ค. 68 รศ.ดร.นันทนา นันทวโรภาส สมาชิกวุฒิสภา ให้ความเห็นกรณีการประชุมลับของ สว. ที่มีการอภิปรายเลือกตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ก่อนมีการโหวตตก ศ.ดร.สิริพรรณ นกสวน สวัสดี และ นายชาตรี อรรจนานันท์ ไปในการประชุมครั้งนี้ โดย รศ.ดร.นันทนา กล่าวว่า ก่อนที่จะมีการลงมติ มีการเปิดให้อภิปราย 2 รอบ รอบแรก คือ รอบเปิดเผยที่มีสื่อมวลชน ซึ่ง สว. ที่อภิปรายส่วนใหญ่จะกล่าวเชิงสนับสนุนอาจารย์สิริพรรณ และกล่าวถึงท่านทูตชาตรีเล็กน้อย
.
ส่วนรอบที่สอง คือ การประชุมลับ ไม่สามารถอธิบายได้เนื่องจากเป็นข้อบังคับที่ต้องรักษาความลับในที่ประชุม กระบวนการลงมติ ไม่ค่อยแตกต่างจากครั้งก่อน ๆ เพราะไม่ว่าจะโหวตสนับสนุน โหวตตกก็มาเป็นก้อน
.
รศ.ดร.นันทนา เผยว่า ในฐานะคนที่เสนอให้เลื่อนญัตติ จะได้เห็นการพูดคุยกันที่ไม่สอดคล้องกับการลงมติ ซึ่งที่ผ่านมาได้รับข้อมูลจำกัดจากรายงาน 1 เล่ม ใช้เวลาอ่านเพียง 10 – 15 นาที จึงไม่สามารถสรุปได้ว่าควรลงมติไปในทิศทางไหน แต่ก็มีแนวทางเบื้องต้นเป็นคณะกรรมการสรรหา ที่สามารถแสดงความคิดเห็นโดยผ่านการพิจารณาอย่างรอบคอบมาแล้ว
.
และในส่วนของอาจารย์สิริพรรณ ทางประธานศาลฎีกาคิดเห็นว่า มีทัศนคติที่เหมาะสมอย่างยิ่งในการเป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญโดยมีความคิดเห็นของกรรมการทั้ง 8 คน ซึ่งสามารถเข้าไปตรวจสอบได้เพื่อใช้เป็นแนวทาง
.
รศ.ดร.นันทนา กล่าวต่อว่า อาจารย์สิริพรรณ มีแนวโน้มที่จะถูกโหวตตกอยู่แล้ว แต่หลายคนสงสัยว่าทำไมท่านทูตชาตรีถึงถูกโหวตตกไปด้วย ซึ่งตอนอภิปรายมีการพูดถึงอาจารย์สิริพรรณ 95% พูดถึงท่านฑูตชาตรี 5% ทำให้การโหวตออกมาน่าคลางแคลงใจ เพราะไม่ค่อยกล่าวถึงท่านฑูตนันทนาแต่ก็มีมติมาเป็นกลุ่มเป็นก้อน ส่วนอาจารย์นันทนาก็ถูกถามถึงเรื่องที่เป็นผู้ร่วมลงชื่อให้มีการปรับปรุงประมวลกฎหมายมาตรา 112 ในปี 2555 โดยคนบางคนอาจประเมินว่า วิธีคิดดังกล่าวไม่เป็นที่พึงประสงค์
.
รศ.ดร.นันทนา กล่าวว่า ผลการโหวตของอาจารย์สิริพรรณ ในรอบแรกคะแนนออกมา 8 – 0 แสดงถึงคุณสมบัติที่เหมาะสมมาก ๆ หากพิจารณาแบบวิญญูชน สามารถพึงรับรู้ได้ว่าคนผู้นี้มีความเหมาะสมอย่างยิ่ง ทั้งด้านความรู้ ด้านวิชาการ ด้านการสื่อสารต่อสาธารณะ และอาจารย์สิริพรรณยังได้รับคำนิยม การวิพากษวิจารณ์ในเชิงบวกค่อนข้างมาก
.
การที่รัฐธรรมนูญเขียนข้อบังคับให้ผู้ที่มาจากองค์กรอิสระได้รับความเห็นชอบจากสว.ที่ถูกเลือกกันเอง แต่สามารถมีอำนาจชี้เป็นชี้ตายเปลี่ยนประเทศได้ ถือว่ามีความไม่ชอบธรรม ทำไมไม่ให้คนที่ประชาชนเลือกมาเองมาเห็นชอบแทน เพราะตัว สว. ไม่มีความความยึดโยงกับประชาชน ดังนั้น เวลาลงมติจึงเป็นเรื่องส่วนบุคคลที่ไม่จำเป็นต้องมีคำตอบให้สาธารณะ
.
การอภิปรายนั้นไม่ว่าทั้ง 2 คนจะมีปัญหาอะไร หรือบางคนจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย สุดท้ายพอถึงเวลาลงมติ ก็พร้อมใจกันคว่ำ ซึ่งเป็นแบบนี้มาโดยตลอด ซึ่งไม่ทราบเช่นกันว่าใช้เกณฑ์ใดในการพิจารณา การที่ทาง สว. ไม่ต้องมาให้คำตอบกับประชาชน ถือว่าเป็นจุดบอดที่ยิ่งใหญ่มากของรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ซึ่งประชาชนทำได้เพียงนั่งมองอย่างคนนอกโดยไร้สิทธิ ไร้เสียง และทั้ง 2 คนก็ไม่มีสิทธิกลับมาแล้ว และต้องสรรหาใหม่
.
หากใน 3 เดือนนี้ ทาง DSI เรียกใครไปและมีการกล่าวโทษ ถ้าคนนั้นขาดคุณสมบัติและมีการลงมติไป จะมีผลผูกพันธ์ต่อไปในอนาคต เพราะองค์กรอิสระดำรงตำแหน่ง 7 ปี ถ้าผู้ที่ทำหน้าที่เห็นชอบขาดคุณสมบัติ ปัญหาจะต่อเนื่องไปยังผู้ที่ได้รับความเห็นชอบ อาจเป็นโมฆะหรืออย่างอื่น ซึ่งเรื่องนี้ส่งผลกว้างมาก ดังนั้น ช่วงเวลาที่มาของ สว. ยังตรวจสอบให้ชัดเจนไม่ได้ ควรชะลอการลงมติไว้ก่อน
.
รศ.ดร.นันทนา กล่าวว่า คนโดยทั่วไปหากตรวจสอบคุณสมบัติคิดว่า อาจารย์สิริพรรณ ไม่ได้มีจุดบกพร่องที่เป็นเรื่องของการทุจริต มีแค่เรื่องทัศนคติ แต่ตนมองว่าประชาธิปไตยนั้นควรมีทัศนคติที่หลากหลาย เพราะไม่ได้อยู่ในประเทศเผด็จการที่ทุกคนต้องคิดเหมือนกัน และคิวต่อไปที่ต้องหากรรมการ คือ กกต. เพราะว่าหมดวาระ 5 คนพร้อมกัน จาก 7 คน ซึ่งจะเกิดขึ้นในเดือนสิงหาคม
.
รศ.ดร.นันทนา ทิ้งท้ายว่า หาก DSI ยังไม่ได้ข้อสรุป สว. ชุดนี้จะเป็นผู้เลือก กกต. ถ้าเลือกองค์กรอิสระไป ทางรัฐธรรมนูญและ กกต. ก็ต้องกลับมาตรวจสอบ สว. ชุดนี้ ด้วยเหตุผลเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน กลายเป็นการตรวจสอบไม่เกิดขึ้น และสมคบคิดกันแทน
JJNY : 5in1 ศิริกัญญาซัดแก้ไม่ตรงจุด│ธปท.ไม่ฟันบวกหรือลบ│"นันทนา"เปิดเบื้องหลัง│หอการค้าแนะรัฐ│รัสเซีย-ยูเครนแลกหมัด
https://www.matichon.co.th/politics/news_5099152
.
.
.
ธปท. ไม่ฟันบวกหรือลบ ไอเดียซื้อหนี้-ล้างเครดิตบูโร ขอดูความชัดเจน ย้ำ 3 เงื่อนไขหลักแก้ปัญหา https://www.matichon.co.th/economy/news_5099880
.
2. สนับสนุนการเข้าถึงสินเชื่อของลูกหนี้ในระยะข้างหน้า กล่าวคือ ความช่วยเหลือที่ให้ต้องไม่ไปลดทอนความแม่นยำในการประเมินความเสี่ยงของเจ้าหนี้ เพื่อให้ลูกหนี้มีโอกาสเข้าถึงสินเชื่อได้ด้วยต้นทุนที่เป็นธรรม
3. ต้องแก้ปัญหาหนี้อย่างตรงจุด และเสริมสร้างความมั่นคงให้แก่ระบบการเงินในภาพรวม โดยคำนึงถึงความคุ้มค่าของการใช้ทรัพยากรและงบประมาณของประเทศเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด
.